นายวิเศษ จูงวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUPผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการสาธารณูปโภคแบบครบวงจรแก่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมในนิคมอุตสาหกรรมและเขตประกอบการอุตสาหกรรมของเหมราชได้แก่ จำหน่ายน้ำดิบ ผลิตและจำหน่ายน้ำเพื่ออุตสาหกรรม และบริหารจัดการน้ำเสีย และธุรกิจพลังงาน โดยลงทุนในธุรกิจผลิต และจำหน่ายไฟฟ้าทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการเดินสายในการนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) ให้แก่กลุ่มนักลงทุนสถาบันทั้งในประเทศ และนักลงทุนสถาบันต่างประเทศ (ฮ่องกง – สิงคโปร์) โดยการโรดโชว์ดังกล่าวเริ่มตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จนถึงต้นมีนาคมนี้
ส่วนการนำเสนอข้อมูลให้แก่นักลงทุนทั่วไปจะเป็นช่วงกลางเดือนมีนาคมนี้ โดยการโรดโชว์ในครั้งนี้ ทางบริษัทฯ จะให้ข้อมูลร่วมกับ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย และบริษัทหลักทรัพย์ ซี แอล เอส เอ (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายในต่างประเทศ ทั้งนี้เพื่อที่จะสร้างความเข้าใจในธุรกิจ และแผนการดำเนินงานในอนาคตของWHAUP ก่อนที่บริษัทฯ จะเสนอขายหุ้นสามัญให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนรวมกันไม่เกิน 229.5 ล้านหุ้น โดยแบ่งเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ WHAUP จำนวนไม่เกิน 125 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเดิมโดยผู้ถือหุ้นเดิมของ WHAUP คือ H International (SG) Pte.Ltd. อีกจำนวนไม่เกิน 104.5 ล้านหุ้น
"สำหรับเม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนของ WHAUP ในครั้งนี้ WHAUP จะนำไปใช้เป็นเงินลงทุนในโครงการที่เกี่ยวกับธุรกิจพลังงาน และบางส่วนจะนำไปชำระคืนเงินกู้จากสถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน " นายวิเศษ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีการวางแผนการลงทุนขยายธุรกิจสาธารณูปโภคในอนาคต โดยมีแผนจะขยายขอบข่ายการให้บริการสาธารณูปโภค ทั้งการเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า เช่น การให้บริการน้ำเพื่ออุตสาหกรรมประเภทอื่น ๆ ตามความต้องการของกลุ่มลูกค้า และการเพิ่มฐานลูกค้า โดยการขยายการให้บริการในพื้นที่นอกเขตนิคมอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ ภายใต้หลักเกณฑ์ของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะลงทุนในธุรกิจสาธารณูปโภคอื่นๆ รวมถึงธุรกิจท่อส่งก๊าซ และบริหารจัดการขยะ โดยบริษัทฯ ได้รับสิทธิในการเข้าลงทุนก่อน (First Right to Invest) ในธุรกิจท่อส่งก๊าซ และธุรกิจกำจัดขยะ ในบริเวณนิคมอุตสาหกรรม และเขตประกอบการอุตสาหกรรมของเหมราช
ส่วนธุรกิจพลังงาน บริษัทฯ อยู่ระหว่างการวางแผนพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานทดแทน โดยมุ่งเน้นการต่อยอดโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ จากพื้นที่หลังคาของคลังสินค้าและโรงงานให้เช่าภายใต้การบริหารจัดการของกลุ่ม WHAซึ่งมีพื้นที่รวมกว่า 2 ล้านตารางเมตร และกำลังศึกษาความเป็นไปได้ของโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนอื่นๆ เช่น พลังงานลม นอกจากนี้ บริษัทฯอยู่ระหว่างการพัฒนา โรงไฟฟ้าพลังงานขยะ โดย บริษัท ดับบลิวเอชเอ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด บริษัทย่อยของ WHAUP ร่วมกับบริษัท โกลว์ และบริษัท สุเอซ ตั้งบริษัท อีสเทิร์นซีบอร์ด คลีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (ในสัดส่วนร้อยละ 33.33) ลงทุนในบริษัท ชลบุรี คลีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าประเภท VSPP ได้รับคัดเลือกจาก กกพ. เมื่อเดือน ตุลาคม 2559 ให้ขายไฟฟ้าพิเศษจากขยะอุตสาหกรรมให้กับ กฟภ. จำนวน 6.90 เมกะวัตต์ จากกำลังการผลิตติดตั้ง 8.63 เมกะวัตต์ เพื่อขายไฟฟ้าเป็นเวลา 20 ปี
ด้าน นางสาววีณา เลิศนิมิตร ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่สาย Primary Distribution ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวเสริมว่า ขณะนี้บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP อยู่ระหว่างการนำเสนอข้อมูลให้แก่นักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ ทั้งนี้เพื่อเป็นการแนะนำบริษัท WHAUP โดยข้อมูลหลักๆในการนำเสนอในครั้งนี้ จะเป็นข้อมูลทั่วไปของบริษัท รวมถึงลักษณะการประกอบธุรกิจ ฐานะทางการเงิน รายได้ และความสามารถในการทำกำไรของบริษัทฯ เพื่อเป็นการตอกย้ำศักยภาพความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจให้กลุ่มนักลงทุนเห็นโอกาสในการเติบโตของบริษัทฯ ในอนาคต เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน
ทั้งนี้ต้องยอมรับว่า ในช่วงโรดโชว์ของ WHAUP ขณะนี้ ได้รับความสนใจจากกลุ่มนักลงทุนสถาบันเป็นอย่างมาก ส่วนหนึ่งเพราะ WHAUP เป็นบริษัทลูกของ บริษัทดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA Group ซึ่งเป็นหุ้นกลุ่มที่นักลงทุนสถาบัน และนักลงทุนทั่วไปให้ความสนใจในการเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ประกอบกับการที่ WHAUP ได้รับสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการประกอบธุรกิจจำหน่ายน้ำดิบ ผลิตและจำหน่ายน้ำเพื่ออุตสาหกรรม และบริหารจัดการน้ำเสียในนิคมอุตสาหกรรมและเขตประกอบอุตสาหกรรมของเหมราชในประเทศไทย เป็นเวลา 50 ปี โดยปัจจุบัน บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจสาธารณูปโภคอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมของเหมราช จำนวน 6 แห่ง และเขตประกอบการอุตสาหกรรมของเหมราช จำนวน 2 แห่ง ซึ่งมีพื้นที่เปิดให้บริการรวม 24,000 ไร่ ส่วนธุรกิจพลังงานนั้น มีรายได้จากสัดส่วนการเข้าถือหุ้น ในโรงไฟฟ้าที่บริษัทเข้าลงทุนเปิดดำเนินการผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์แล้วจำนวน 13 โครงการ รวมพลังงานทางเลือก คิดเป็นกำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นรวมประมาณ 349.55 เมกะวัตต์ ซึ่ง WHAUP มีรายได้ประจำและเติบโตอย่างต่อเนื่องจากทั้งธุรกิจน้ำและพลังงาน จากปัจจัยดังกล่าวยิ่งตอกย้ำให้WHAUP เป็นที่น่าสนใจของนักลงทุน