ทั้งนี้ โครงการสินเชื่อ SMEs Transformation Loan วงเงิน 15,000 ล้าน ได้รับการอนุมัติตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 21 มี.ค. 2560 มีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs มุ่งเน้นการพัฒนาให้องค์ความรู้การประกอบธุรกิจและการวางแผนธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งช่วยเหลือด้านเงินทุน ซึ่งผู้ประกอบการสามารถยื่นขอสินเชื่อได้รายละไม่เกิน 15 ล้านบาท ระยะเวลากู้ยืมไม่เกิน 7 ปี ปลอดชำระคืนเงินต้นสูงสุดไม่เกิน 12 เดือน อัตราดอกเบี้ยต่ำ 3% คงที่ 3 ปีแรก ปีที่ 4-7 อัตราดอกเบี้ย MLR ต่อปี นอกจากนี้ กรณีกู้ไม่เกิน 5 ล้านบาท สามารถให้ บสย. ค้ำประกันได้โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์
นายสมชาย กล่าวอีกว่า ในขณะเดียวกันผู้ประกอบการสามารถแสดงความประสงค์ขอสินเชื่อจากกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ วงเงิน 20,000 ล้านบาท ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือสนับสนุน SMEs ทั้งในด้านเงินทุนและองค์ความรู้ เพิ่มขีดความสามารถ SMEs ให้พัฒนาไปสู่อุตสาหกรรมที่มีมูลค่าสูงตามยุทธศาสตร์ชาติและยุทธศาสตร์การปฏิรูปประเทศไทยที่สอดคล้องตามนโยบาย Thailand 4.0 ซึ่งขณะนี้ทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศได้มีการกำหนดยุทธศาสตร์จังหวัดและคัดเลือกอุตสาหกรรมเป้าหมาย/ประเภทธุรกิจที่จะส่งเสริมสนับสนุนเรียบร้อยแล้ว เช่น ภาคการเกษตร, แปรรูปอาหาร, แหล่งท่องเที่ยว, กลุ่ม START UP และกลุ่มเทคโนโลยี นวัตกรรม เป็นต้น โดยได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการกลุ่มเป้าหมายแต่ละจังหวัดรับทราบแนวทางต่อไป โดยหลายจังหวัดได้รับความสนใจมีผู้เข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมาก ธพว. ในฐานะหน่วยงานร่วมดำเนินการทำหน้าที่ในส่วนของการบริหารงานด้านสินเชื่อ ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมกิจการผู้ประกอบการกลุ่มเป้าหมายที่แสดงความประสงค์ขอสินเชื่อ พร้อมจัดทำรายงานวิเคราะห์ความเป็นไปได้ เพื่อนำเสนอต่อคณะอนุกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐประจำจังหวัดพิจารณาอนุมัติต่อไป ซึ่งคาดว่าเดือน พ.ค. จะมีผู้ประกอบการได้รับอนุมัติวงเงินจากกองทุนฯ จำนวน 2-3 รายในแต่ละจังหวัด
สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจใช้บริการเงินกู้สินเชื่อ SMEs Transformation Loan และกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ สามารถติดต่อขอยื่นกู้ได้แล้วที่สาขาทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Call Center 1357 หรือติดตามกิจกรรมดีๆ ผ่านช่องทาง facebook.com/SMEDevelopmentBank