นายชัชชวี วัฒนสุข ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) (TACC) ผู้ผลิต และจัดหาเครื่องดื่มชา และกาแฟรายใหญ่ในเซเว่นฯ เปิดเผยว่า ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2560 นั้น ตลาดไม่เจริญเติบโตเท่าที่ควรสืบเนื่องจากเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ แต่เนื่องจากบริษัทฯเป็นธุรกิจที่มีขนาดพอเหมาะ กะทัดรัด จึงสามารถปรับเปลี่ยนกลุทธ์และสามารถบริหาร Product Portfolio Channel ได้อย่างมีประสิทธิภาพส่งผลให้ ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/60 บริษัทฯ มีรายได้รวม 287.07 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 25.82 ล้านบาท แม้ว่ายอดขยาจะไม่ได้เติบโตมากนัก โดยคาดว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้ รายได้และกำไรจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยได้รับปัจจัยหนุนจากบริษัทฯมีแผนส่งสินค้าใหม่เข้าทำตลาดอย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนสินค้าที่วางจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อเซเว่น 7-Eleven และสินค้าที่ส่งไปจำหน่ายในต่างประเทศ
ทั้งนี้ ในปีนี้ TACC มีแผนแผนเปิดตัวสินค้าใหม่เข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง เริ่มตั้งแต่ในเดือนมกราคม ได้มีการเปิดตัวสินค้าเครื่องดื่มชูกำลังในตลาดกัมพูชา ภายใต้แบรนด์ Jump Start เจาะกลุ่มค้าพรีเมี่ยม ซึ่งถือเป็นตลาดที่มีมูลค่ามหาศาล และได้เริ่มวางจำหน่ายไปแล้วมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2560 ที่ผ่านมา เช่นเดียวกับเครื่องดื่มชาเขียว Zenya ที่บริษัทฯเข้าไปทำตลาดในช่วงก่อนหน้า จนเป็นแบรนด์ชั้นนำในตลาดกัมพูชา
ในเดือนกุมภาพันธ์ 2560 TACC ได้มีการวางจำหน่ายเครื่องดื่มผงรสชาติทุเรียนและมะม่วงในตลาดจีน ภายใต้แบรนด์ Sawasdee ซึ่งมั่นใจว่าจะช่วยสนับสนุนการเติบโตของรายได้จากการส่งออกได้มากขึ้น จากในปี 2559 มีสัดส่วนราว 9% ของรายได้รวม
ในช่วงปลายเดือนมี.ค.2560 ที่ผ่านมา TACC ได้เปิดตัวสินค้าใหม่ต้อนรับซัมเมอร์ "Zenya Mocktail"เครื่องดื่มพร้อมดื่มแบบใหม่ในถุงซิปล็อค ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมใหม่ เพียงกดน้ำแข็ง สามารถผสมโซดา มิกซ์แอนด์แมทช์ได้ มี2 รสชาติ คือ "Magarita Mocktail" และ "Mai Tai Mocktail" วางจำหน่ายสินค้าในร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ทั่วประเทศ คาดว่าจะช่วยผลักดันรายได้ในช่วงไตรมาส 2/60 เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) (TACC) กล่าวอีกว่า บริษัทฯตั้งเป้ารายได้ในปี 2560 เติบโตเกิน 10-15% จากปีที่ผ่านมามีรายได้รวม 1,183.94 ล้านบาท และคาดว่ากำไรจะทำ New Highจากการเปิดตัวสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนที่วางจำหน่ายใน 7-Eleven ที่บริษัทฯได้รับโอกาสด้วยดีเสมอมา และแผนการบุกตลาดต่างประเทศ เพื่อเพิ่มสัดส่วนที่มาของรายได้ โดยตั้งเป้าสัดส่วนรายได้ของกลุ่ม Non 7-Elevenในปี 2563 อยู่ที่ 35% ของรายได้จากขาย เพื่อกระจายความเสี่ยงการดำเนินธุรกิจ สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นและนักลงทุน