นายสมพงษ์ ชื่นกิติญานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิสซิเนสอะไลเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (BIZ) ซึ่งเป็นผู้นำในการเป็นตัวแทนนำเข้า จำหน่าย ติดตั้ง และการให้บริการดูแลและซ่อมบำรุงเครื่องมือแพทย์ โดยเน้นในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการรักษาโรคมะเร็งด้วยวิธีรังสีรักษาเป็นหลัก เปิดเผยว่า ล่าสุดบริษัทได้รับความไว้วางใจให้ดำเนินโครงการก่อสร้างและติดตั้งเครื่องจักร อุปกรณ์สำหรับศูนย์รักษาผู้ป่วยมะเร็งด้วยอนุภาคโปรตอน ของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท ระยะเวลาสัญญา 40 เดือน ส่งผลให้มูลค่างานในมือ (Backlog) ปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 1,550 ล้านบาท
"ลักษณะโครงการดังกล่าว คือ จัดจ้าง จัดซื้อ จัดหา พร้อมติดตั้งอุปกรณ์ เครื่องรักษาโรคมะเร็งด้วยอนุภาคโปรตอน ซึ่งเครื่องฉายรังสีมะเร็งเครื่องดังกล่าว นับว่าเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่จะเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ป่วยโรคมะเร็งและแพทย์ผู้ทำการรักษาให้มีทางเลือกที่เหมาะกับผู้ป่วยมากยิ่งขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องแรกที่ใช้ในอาเซียนด้วย แต่อย่างไรก็ตามการรักษาโดยเครื่องมือดังกล่าวขึ้นอยู่กับดุลยพินิจและการวินิจฉัยของแพทย์ด้วยว่ามีความเหมาะสมกับผู้ป่วยในกลุ่มใด ทั้งนี้ BIZ พร้อมเดินหน้าขยายฐานลูกค้าทั้งภาครัฐและภาคเอกชนอย่างต่อเนื่อง เพราะเล็งเห็นว่าภาพรวมตลาดเครื่องฉายรังสีรักษามะเร็งในประเทศยังมีความต้องการอีกมาก เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยมะเร็งที่มีเพิ่มขึ้นทุกปี ทำให้เครื่องมือยังมีไม่เพียงพอต่อการใช้งาน" นายสมพงษ์ กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BIZ กล่าวอีกว่า แผนการดำเนินงานของบริษัทฯในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทฯพร้อมเดินหน้าติดตั้งเครื่องฉายรังสีมะเร็ง และส่งมอบงานได้ตามแผนงานที่วางไว้ พร้อมขยายฐานลูกค้าในกลุ่มโรงพยาบาลเอกชนและภาครัฐเพิ่มขึ้น เพื่อสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน ทั้งนี้ คาดว่ารายได้จากการให้บริการในปีนี้น่าจะเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ซึ่งเป็นไปตามจำนวนเครื่องฉายรังสีที่จำหน่ายได้เพิ่มขึ้น
สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 1/2560 มีรายได้รวมอยู่ที่ 49.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.01% จากช่วงปีก่อนที่ทำได้ 43.12 ล้านบาท ขณะที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 4.12 ล้านบาท จากช่วงปีก่อนที่ทำได้ 0.39 ล้านบาท โดยสาเหตุหลักที่ผลประกอบการเติบโตอย่างโดดเด่นมาจากรายได้จากการขาย ซึ่งบริษัทมีรายได้จากการขายอุปกรณ์ประกอบทางการแพทย์อื่นๆที่มีมูลค่าไม่สูงมาก จำนวน 15.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 294.16% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากบริษัทมีรายได้จากการซื้อมาขายไปอุปกรณ์ทางการแพทย์และชุดอุปกรณ์เพิ่มเติมต่างๆมากขึ้น ขณะที่ความสามารถในการทำกำไรขั้นต้นที่สูงขึ้น ประกอบกับต้นทุนทางการเงินลดลง จึงส่งผลต่ออัตรากำไรสุทธิที่สูงขึ้น