“ทรีนีตี้” ตั้งเป้าดึงลูกค้า “รายใหญ่” เพิ่ม 20%

อังคาร ๒๓ พฤษภาคม ๒๐๑๗ ๑๕:๒๐
"ทรีนีตี้" ตั้งเป้าดึงลูกค้ารายใหญ่ (High Net Worth) เพิ่ม 20% พร้อมปั้มผลตอบแทนลูกค้าให้ชนะตลาด 20% เล็งนำบริษัทระดมทุนทั้ง IPO และ PP 7-9 บริษัทในช่วง 3 ปีนี้ และเป็นที่ปรึกษาออกหุ้นกู้ในปีนี้อีก 6-8 บริษัทมูลค่า 4,000-5,000 ล้านบาท วางวิสัยทัศน์กระจายรายได้สร้างความมั่นคงระยะยาว ชี้จุดเด่น TNITY เป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงมาโดยตลอด

นายชาญชัย กงทองลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทรีนีตี้ วัฒนา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทมีเป้าหมายขยายฐานลูกค้าธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์อย่างต่อเนื่อง โดยจะเน้นการเพิ่มลูกค้าที่เป็นกลุ่มผู้ลงทุนรายใหญ่ (High Net Worth) อีก 20% ด้วยกลยุทธ์การส่งมอบผลตอบแทนในการลงทุนให้กับลูกค้าสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด 20% พร้อมกันนี้จะเพิ่มเงินลงทุนภายใต้การบริหารจัดการกองทุนส่วนบุคคลเป็น 3,300 ล้านบาท

ในด้านธุรกิจที่ปรึกษาทางการเงินนั้น บริษัทประสบความสำเร็จในการเป็นผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหลักทรัพย์ที่เสนอขายต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จำนวน 4 บริษัท ได้แก่ บมจ.ทีพีซี พาวเวอร์ โฮลดิ้ง (TPCH), บมจ.เอส11 กรุ๊ป (S11), บมจ.มาสเตอร์ คูล อินเตอร์เนชั่นแนล (KOOL) และบมจ. โคแมนชี่ อินเตอร์เนชั่นแนล (COMAN) ในปี 2560 บริษัทตั้งเป้าให้บริการออกหุ้นเพิ่มทุน ทั้งในส่วนของการเสนอขายหุ้นใหม่ครั้งแรก (IPO) ได้แก่ บมจ.ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ ซึ่งยื่นไฟล์ลิ่งไปแล้ว และอยู่ระหว่างการพิจารณาแบบคำขอจากสำนักงานกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) และเป็นธุรกิจในหมวดขนส่งและโลจิสติกส์ สำหรับบริษัทอื่นๆ ที่อยู่ในช่วงกำลังดำเนินงานจำนวน 7-9 บริษัท มีแผนที่จะเข้าระดมทุนทั้ง IPO และ PP ซึ่งอยู่ในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น หมวดสถาบันการเงิน เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ธุรกิจก่อสร้าง สื่อ และพาณิชย์ ขณะที่งานให้บริการด้านการปรับโครงสร้างกิจการ การปรับโครงสร้างทางการเงิน และการควบรวมกิจการ (M&A) ทั้งในและต่างประเทศ ที่อยู่ในช่วงกำลังดำเนินงานอยู่ มีจำนวน 4-5 บริษัท

ส่วนธุรกิจการออกตราสารหนี้ (หุ้นกู้) ในปี 2559 บริษัทได้เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ไปแล้ว 8 บริษัท มูลค่า 3,395ล้านบาท และมีแผนจำหน่ายหุ้นกู้ในปี 2560 อีก 6-8 บริษัท รวมมูลค่าประมาณ 4,000 – 5,000 ล้านบาท โดยเป็นธุรกิจในหมวดเงินทุนและหลักทรัพย์ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ทรัพยากร เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร อาหารและเครื่องดื่ม โดยตลาดตราสารหนี้ ยังคงเป็นทางเลือกในการระดมทุน ในตลาดทุน เนื่องจากคาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะยังคงอยู่ในระดับ 1.50% ไปจนถึงกลางปี 2560

ขณะที่รายได้จากการลงทุน เช่น มาร์เก็ตเมคเกอร์ เดย์เทรด การเก็งกำไรส่วนต่างของราคาหุ้น เริ่มมั่นคงและสม่ำเสมอมากขึ้น โดยในปี 2559 ที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้จากเงินลงทุน 219 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2558 ที่มีรายได้จากการลงทุน 172 ล้านบาท ส่วนดอกเบี้ยจากเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์อยู่ที่ 150 ล้านบาท จาก 129 ล้านบาทในปี 2558

ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของบริษัทมาจากรายได้ธุรกิจหลักทรัพย์ 42.71% รายได้การลงทุน 27.76% รายได้ดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมหลักทรัพย์ 18.97% รายได้จากการบริหารกองทุนส่วนบุคคล 3.43% และรายได้จากธุรกิจที่ปรึกษาทางการเงิน 5.08%

นางแก้วกมล ตันติเฉลิม รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายธนบดีธนกิจ กล่าวว่า "ในส่วนของรายได้จากการบริหารกองทุนส่วนบุคคลของบริษัทฯ เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องถัวเฉลี่ยปีละ 25% ในช่วง 12 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่ค่อนข้างสูงโดยเฉพาะสำหรับบริษัทหลักทรัพย์ที่ไม่มีธนาคารเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ และภายใต้การแข่งขันที่มีผู้ประกอบการถึง 39 รายในอุตสาหกรรม โดยในปี 2559 บริษัทมีขนาดกองทุนส่วนบุคคลภายใต้การบริหาร อยู่ที่ 2,680 ล้านบาท โตขึ้น 9% จากปี 2558 และตั้งเป้าว่าจะมีขนาดกองทุนเพิ่มขึ้นเป็น 3,300ล้านบาท หรือโตขั้น 23% ในปี 2560 โดย ณ สิ้นเดือนเมษายน 2560 ทรัพย์สินภายใต้การบริหารเพิ่มขึ้น 12% อยู่ที่ 3,000 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 52% ของเป้าหมายในปีนี้ สำหรับอัตราผลตอบแทนทั้งปี 2559 อยู่ที่ 11% และนับจากเดือนมกราคม 2560 ถึงสิ้นเดือนเมษายน2560 อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ 5% ซึ่งถือว่ายังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

นายชาญชัย กล่าวว่า "บริษัทยังคงดำเนินนโยบายกระจายฐานรายได้ต่อเนื่อง โดยเฉพาะการกระจายธุรกิจไปสู่การบริหารเงินลงทุน การออกตราสารหนี้ และที่ปรึกษาทางการเงิน ซึ่งมีอัตราการเติบโตสูงต่อเนื่อง เพื่อให้ธุรกิจมีเสถียรภาพ และผู้ถือหุ้นได้มั่นใจในความสามารถในการทำกำไรระยะยาว"

นายชาญชัย ระบุด้วยว่า บริษัทมีจุดเด่นด้านการจ่ายเงินปันผลที่ให้ผลตอบแทนสูงกับผู้ถือหุ้น อย่างสม่ำเสมอ โดยติด 1ใน 10ของบริษัทจดทะเบียนที่มีอัตราการจ่ายเงินปันผลตอบแทนสูงกว่าตลาด และสูงกว่ากลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน

ล่าสุดปี 2559 บริษัทจ่ายเงินปันผลทั้งสิ้นในอัตราหุ้นละ 0.65 บาท คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลรวม 80.45% ของกำไรบริษัท หากเทียบกับราคาหุ้น ณ วันที่ 16 พฤษภาคม 2560 มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend yield) 9.42% ขณะที่ค่าเฉลี่ยอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ทรัพย์อยู่ที่ระดับ 3-4% ส่วนค่าเฉลี่ยกลุ่มอุตสาหกรรมการเงินอยู่ในระดับ 2-3% และจากข้อมูลวันที่ 28 เมษายน 2560 บริษัทนับเป็นบริษัทจดทะเบียนที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงสุดเป็นอันดับ 7จากบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ทั้งหมด

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๐๑ ALLY ผนึก Mural ลงทุนซื้อหุ้นสมาคมมวยปล้ำสเปน หวังผลักดันมวยปล้ำสเปนขึ้นแท่นลีกหลักในยุโรปและลาตินอเมริกา
๑๖:๓๙ โอกาสจองซื้อหุ้นกู้บริษัทชั้นนำ ช.การช่าง เสนอขายช่วงวันที่ 25 - 29 เมษายน 2567 ชูผลตอบแทน 3.40 - 4.10% ต่อปี อันดับความน่าเชื่อถือ A- ติดต่อผ่าน ธ.กรุงเทพ และ ธ.กรุงไทย
๑๖:๕๔ บางจากฯ สนับสนุนการเรียนรู้และพัฒนาเยาวชนในทักษะแห่งอนาคต ผ่านโครงการ SI Sphere: Sustainable Intelligence-based Society Sphere โดย UN Global Compact Network
๑๕:๑๓ เปิดไลน์อัพ 10 ศิลปินหน้าใหม่มาแรงแห่งปีจาก Spotify RADAR Thailand 2024
๑๕:๐๘ อาร์เอส กรุ๊ป เดินหน้ากลยุทธ์ Star Commerce ยกทัพศิลปิน-ดารา เป็นเจ้าของแบรนด์ และดันยอดขายด้วย Affiliate Marketing ประเดิมส่งศิลปินตัวแม่ ใบเตย อาร์สยาม
๑๕:๒๐ กสิกรไทยผนึกกำลังเจพีมอร์แกน เปิดตัวโปรเจกต์คารินา ดึงศักยภาพบล็อกเชน ลดระยะเวลาธุรกรรมการเงินระหว่างประเทศ
๑๕:๐๖ สเก็ตเชอร์ส จัดกิจกรรม SKECHERS PICKLEBALL WORKSHOP ส่งเสริมสุขภาพและขยายคอมมูนิตี้กีฬา Pickleball ในไทย
๑๕:๕๖ SHIELD จับมือแอสเซนด์ มันนี่ และ Money20/20 Asia จัดกิจกรรมระดมเงินบริจาคแก่มูลนิธิรามาธิบดี
๑๕:๔๓ 'ASW' เตรียมโอนกรรมสิทธิ์ 4 คอนโดฯ ใหม่ ไตรมาส 2 ครอบคลุมทั้งกรุงเทพฯ และภูเก็ตมูลค่ารวมกว่า 6,600 ล้านบาท
๑๕:๔๑ โก โฮลเซลล์ สนับสนุนเกษตรกรไทย ปูพรมจำหน่ายผลไม้ฤดูกาล สดจากสวนส่งตรงถึงมือคุณ