บี.กริม เพาเวอร์ เตรียมเปิดจองไอพีโอระดมทุนขยายธุรกิจโรงไฟฟ้า ตอกย้ำศักยภาพความเป็น SPP รายใหญ่สุดของไทย พร้อมต่อยอดความสำเร็จในระดับภูมิภาค

อังคาร ๒๐ มิถุนายน ๒๐๑๗ ๑๔:๕๔
บี.กริม เพาเวอร์ 'BGRIM' ประกาศแผนขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรกหรือไอพีโอ716.9 ล้านหุ้น เคาะช่วงราคาเสนอขาย 15.00 – 16.50 บาทต่อหุ้น เปิดจอง 3 – 6 กรกฎาคม 2560 โดยเตรียมเข้าซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) 19 กรกฎาคม 2560 พร้อมชวนนักลงทุนรายย่อยร่วมงานโรดโชว์เพื่อรับฟังการสรุปข้อมูลหุ้น 'BGRIM' ในวันที่ 26 มิถุนายนนี้ ตีแผ่แบ็กล็อกที่จะเริ่มรับรู้รายได้ภายใน 5 ปี และอัพเดทแนวโน้มการขยายธุรกิจในอนาคต มุ่งสู่เป้าหมายกำลังการผลิตไฟฟ้า5,000 เมกะวัตต์ จากการขยายกำลังการผลิตทั้งในประเทศและในระดับภูมิภาค เพื่อรองรับความต้องการพลังงานที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

มร. ฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม และ บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "บี.กริม เพาเวอร์ เป็นหนึ่งในผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าอุตสาหกรรมรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย พร้อมขยายขอบข่ายธุรกิจไปสู่การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนทั้งในประเทศและต่างประเทศตามวิสัยทัศน์ "สร้างพลังให้กับสังคมโลกด้วยความโอบอ้อมอารี" โดยปัจจุบัน บริษัทฯ ลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าจำนวนทั้งสิ้น 43 โครงการ ได้แก่ โรงไฟฟ้าที่เปิดให้ดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว 28 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 1,626 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 5โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 419.1เมกะวัตต์ และโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาอีก 10 โครงการ กำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งรวม 338.5 เมกะวัตต์ รวมเป็นทั้งสิ้น 2,357 เมกะวัตต์ ภายในปี 2564 โดย บี.กริม เพาเวอร์ ดำเนินธุรกิจมากว่า 24 ปี ภายใต้กลุ่ม บี.กริม ที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมานานกว่า 139 ปี นับเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสนับสนุนการพัฒนาทางเศรษฐกิจของประเทศนับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่ง บี.กริม เพาเวอร์ ถือเป็นธุรกิจหลักของกลุ่มบริษัทฯ ที่มีศักยภาพการเติบโตที่ชัดเจน มีฐานลูกค้าและมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าและไอน้ำระยะยาวกับลูกค้าเรียบร้อยแล้ว อาทิ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตส่วนภูมิภาค (กฟภ.) รัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว (EDL) และลูกค้าอุตสาหกรรมอีกกว่า 300 ราย ทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้"

นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยของบริษัทฯ เป็นความตั้งใจที่จะเพิ่มขีดความสามารถในการขยายธุรกิจให้เต็มศักยภาพ โดยบริษัทฯ มีข้อได้เปรียบในการแข่งขันอย่างรอบด้าน ทั้งความเป็นเลิศด้านการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าที่มีเสถียรภาพสูง มีโรงไฟฟ้าอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมชั้นนำทั้งในไทยและเวียดนาม ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยตามมาตรฐานสากล ผนวกกับความชำนาญและความเชี่ยวชาญของทีมบริหารและทีมวิศวกรในการพัฒนาโรงไฟฟ้าหลายรูปแบบ ทั้งโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมและพลังงานหมุนเวียน มีการเติบโตที่ชัดเจนจากโครงการโรงไฟฟ้าที่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าแล้ว ร่วมด้วยการมีพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่งทั้งในไทยและต่างประเทศ สำหรับการทำไอพีโอครั้งนี้ คาดว่าบริษัทฯ จะได้เงินระดมทุนประมาณ 9,800 – 10,800 หมื่นล้านบาท จากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรกจำนวนไม่เกิน 716.9 ล้านหุ้น (ในกรณีที่มีการจัดสรรหาหุ้นส่วนเกิน) แบ่งเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 651.8 ล้านหุ้น และจัดสรรหุ้นส่วนเกินจำนวนไม่เกิน 65.1 ล้านหุ้น ในช่วงราคาเสนอขาย 15.00 - 16.50 บาท ซึ่งทางบริษัท ฯ มีแผนจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้า SPP และโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน ทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งชำระคืนภาระทางการเงิน และเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ

ทั้งนี้ ความสำเร็จและศักยภาพการเติบโตของ บี.กริม เพาเวอร์ สามารถสะท้อนได้จากความแข็งแกร่งของรายได้ของบริษัทฯ ซึ่งฉายแววสดใสถึงอนาคต โดยในระยะ 3 ปีที่ผ่านมา (2557 - 2559) ด้วยรายได้การขายและการให้บริการที่มีอัตราการเติบโตของรายร้อยละ 18.2 (19,854 ล้านบาท 23,943 ล้านบาท และ 27,747 ล้านบาท ตามลำดับ) ส่วนไตรมาสแรกของปี 2560 บริษัทฯ มีรายได้ฯ 7,651 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.8 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า เช่นเดียวกับกำไรสุทธิปรับปรุงส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ตั้งแต่ปี 2557 – 2559 ที่เติบโตขึ้นร้อยละ 89.4 (325 ล้านบาท 713 ล้านบาทและ 1,166 ล้านบาท ตามลำดับ) และในไตรมาสแรกของปี 2560 บริษัทฯ มีกำไรฯ 421 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.1 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ส่วน EBITDA ตั้งแต่ปี 2557 – 2559 เติบโตขึ้นร้อยละ 40.4 4(3,804 ล้านบาท 4,900 ล้านบาทและ 7,494 ล้านบาท ตามลำดับ) และในไตรมาสแรกของปี 2560 บริษัทฯ มีEBITDA 2,133 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 23.3 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

สำหรับในช่วง 5 ปีนี้ (2560 - 2564) บริษัทฯ มีโรงไฟฟ้าทยอยเปิดให้ดำเนินการเชิงพาณิชย์และรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและกำลังพัฒนา โดยมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าแล้วอย่างน้อยอีก 15 โครงการ ดังนี้

2560: โรงไฟฟ้าพลังน้ำ เซน้ำน้อย 2 - เซกะตำ 1 ใน สปป.ลาว กำลังการผลิตรวม 20 เมกะวัตต์(คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดให้ดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ภายในสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้)

2561: โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม ABPR3 ABPR4 และ ABPR5 ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ กำลังการผลิตรวม 399 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำแจ 1 ใน สปป.ลาว กำลังการผลิต 15 เมกะวัตต์รวมเป็นกำลังการผลิตทั้งหมด 414 เมกะวัตต์

2562: โรงไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำคาว 1-5 ใน สปป.ลาว กำลังการผลิตรวม 68 เมกะวัตต์

2563: โรงไฟฟ้าพลังงานลม บ่อทอง 1 และ 2 กำลังการผลิตรวม 16 เมกะวัตต์

2564: โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม BGPR1 และ BGPR2 ในนิคมอุตสาหกรรม วี.อาร์.เอ็ม.กำลังการผลิตรวม 240 เมกะวัตต์

"นอกจากการขยายธุรกิจใน สปป.ลาว ในโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำเซกอง 4 ราว 350 เมกะวัตต์ ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการเจรจาเสนอขายไฟฟ้าแล้ว บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะเข้าลงทุนในโครงการ SPP Hybrid Firm และธุรกิจติดตั้ง Solar Rooftop บนหลังคาโรงงานลูกค้าของบริษัทฯ พร้อมเทคโนโลยี Energy Storage เพื่อช่วยลดความต้องการใช้ไฟฟ้าในช่วงพีค รวมถึงโครงการโซล่าร์ฟาร์มสำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์ฯ ระยะที่ 2 ซึ่งบริษัทฯ ได้สัญญาซื้อขายไฟฟ้าแล้วจำนวน 24 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างการรอจับฉลากอีกจำนวน 14 เมกะวัตต์ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเตรียมความพร้อมที่จะพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้า SPP ซึ่งมีกำลังการผลิตไฟฟ้าโรงละ 140 เมกะวัตต์ เพื่อทดแทนโรงไฟฟ้าเดิมอีก 3 โครงการ รวมทั้งศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศมาเลเซีย และประเทศกัมพูชา รวมถึงประเทศอื่นๆในอาเซียนอีกด้วย" คุณปรียนาถกล่าวเสริม

หุ้น 'BGRIM' ถือว่าได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก ทั้งกลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศไทยและต่างประเทศ ทั้งนี้ ทางบริษัทฯ ได้ลงนามสัญญาลงทุนในหุ้นกับนักลงทุนสถาบันที่เป็น Cornerstone Investors แล้ว3 ราย ได้แก่ สถาบันการเงินที่มีชื่อเสียงระดับสากลอย่าง Asian Development Bank, บริษัทประกันชีวิตแถวหน้าในประเทศไทยอย่าง บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้ตกลงจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายเป็นจำนวนรวม 201 ล้านหุ้น ที่ราคาเสนอขายสุดท้ายในการเสนอขายหุ้นครั้งนี้

"การทำไอพีโอครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะสนับสนุนการดำเนินงานของ บี.กริม เพาเวอร์ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการมีกำลังการผลิตไฟฟ้าจำนวน 5,000 เมกะวัตต์ เพื่อป้อนเข้าสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ผ่านการสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงาน ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เจริญเติบโต ไปพร้อมกับการพัฒนาสังคมให้สามารถก้าวสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนและพึ่งพาตนเองได้ รวมถึงการสร้างคุณค่าให้แก่ผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายของบริษัทฯ" นางปรียนาถกล่าวปิดท้าย

โดย 'BGRIM' จะเปิดจองซื้อหุ้นระหว่างวันที่ 3 - 6 กรกฎาคม 2560 ในราคาหุ้นละ 16.50 บาท ซึ่งเป็นราคาเสนอขายสูงสุดของช่วงราคาเสนอขายที 15.00 – 16.50 บาท และคาดว่าจะประกาศราคาเสนอขายสุดท้ายได้ในวันที่ 7กรกฎาคม 2560 นักลงทุนที่สนใจสามารถมาฟังข้อมูลเพิ่มเติมได้ในงานโรดโชว์บรรยายสรุปข้อมูลการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ของ 'BGRIM' ได้ในวันจันทร์ที่ 26 มิถุนายน 2560 เวลา 13.30 – 16.30 น. ณ หอประชุมศุกรีย์ แก้วเจริญ ชั้น 3 อาคาร B ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และขอรับหนังสือชี้ชวนเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนและใบจองซื้อ รวมถึงจองซื้อหุ้นได้ที่ผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย ซึ่งประกอบด้วย

-บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) โทรศัพท์ 0-2696-0000

- บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) โทรศัพท์ 0-2231-3777 และ 0-2618-1000

- บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน)โทรศัพท์ 0-2305-9000

และผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย คือ

- บริษัทหลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ จำกัด

- บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด

- บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน)

- บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

- บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัดบริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด

คำเตือน

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลในหนังสือชี้ชวนก่อนการตัดสินใจลงทุน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๕๔ กทม. เตรียมปรับปรุงพัฒนาระบบการให้บริการงานทะเบียนสำนักงานเขต
๑๗:๑๗ สมาคมเพื่อนชุมชน ส่งเสริมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ถ่ายทอดองค์ความรู้ แนวทางลดก๊าซเรือนกระจก
๑๗:๔๑ กทม. เร่งติดตั้งเสา-ตะแกรงรั้วกั้นเกาะกลางถนนวิสุทธิกษัตริย์ที่ถูกรถชนเสียหาย
๑๗:๐๔ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ขอเชิญชวนนักศึกษา และบุคคลทั่วไป เข้าร่วมงาน M-Sci JOB FAIR 2024 หางานที่ใช่ สร้างงาน สร้างโอกาส วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 เวลา 13.00-16.00 น. ณ หอประชุม รักตะกนิษฐ
๑๗:๒๘ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค นำเสนอโซลูชั่นดิจิทัลลุยตลาดอาคารอัจฉริยะเพื่อความยั่งยืน
๑๖:๒๙ จิม ทอมป์สัน เผยทิศทางการพา แบรนด์ผ้าเมืองไทย ผงาดเวทีโลก ส่องกลยุทธ์การครีเอตผลงานคุณภาพให้สอดรับเทรนด์สิ่งทอระดับสากล
๑๖:๓๘ อาดิดาสจับมือนักฟุตบอลระดับตำนาน ส่งแคมเปญ 2006 JOSE 10 สร้างแรงบันดาลใจและความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัดให้กับเหล่านักฟุตบอลเยาวชนหญิง
๑๖:๑๐ Maison Berger Paris พาชมเครื่องหอมบ้าน 2 คอลเลคชั่นใหม่ MOLECULE และ JOY จัดเต็มเซ็ตของขวัญ ครบทุกรูปแบบความหอม สร้างบรรยากาศหรูหราพร้อมกลิ่นหอมบริสุทธิ์
๑๖:๕๗ กทม. เตรียมระบบเฝ้าระวัง-ควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 หลังเทศกาลสงกรานต์
๑๕:๑๕ NCC. ผนึก ททท. ขยายตลาดท่องเที่ยวมูลค่าสูง ชี้ตลาดท่องเที่ยวเฉพาะทาง (Niche Market) โต ลุยจัดงาน Thailand Golf Dive Expo plus OUTDOOR Fest