(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.08 น.ของวันที่ 22/06/60)
แนวโน้มวันที่ 23 มิถุนายน 2560
อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อในอนาคตเป็นสิ่งที่นักลงทุนจับตา หลังจากแนวโน้มราคาน้ำมันดิบถดถอยลง เนื่องจากการผลิตน้ำมันที่ฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อ และการคาดการณ์ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะค่อยๆปรับเพิ่มการผลิตหลังจากที่ปรับลดการผลิต อาจส่งผลให้อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐเคยหาเสียงด้วยการประกาศว่าจะทำให้มูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐเติบโต 4% ต่อปี อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ในคณะผู้บริหารของปธน.ทรัมป์คาดการณ์ในช่วงนี้ว่า มีความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจอาจเติบโต 3% ในปีนี้ หลังจากเศรษฐกิจสหรัฐเติบโตในอัตราที่น่าผิดหวังในไตรมาสแรก ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในระยะนี้แสดงให้เห็นว่า อัตราเงินเฟ้อกำลังร่วงลงออกห่างจากเป้าหมายที่เฟดตั้งไว้ แม้ประเด็นดังกล่าวจะสร้างแรงซื้อเข้าสู่ตลาดทองคำแต่การดีดตัวขึ้นของราคาทองคำค่อนข้างจำกัด หลังจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติรายงานยอดขายบ้านมือสอง พุ่งขึ้นอย่างพลิกความคาดหมายในเดือนพ.ค. สู่ระดับ 5.62 ล้านยูนิตในเดือนพ.ค. จาก 5.56 ล้านยูนิตในเดือนเม.ย. ส่งให้นักลงทุนติดตามกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ค.ในวันศุกร์นี้ โดยนักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดว่า ยอดขายบ้านใหม่อาจอยู่ที่ 0.597 ล้านยูนิตในเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้นจาก 0.569 ล้านยูนิตในเดือนเม.ย. เพื่อสะท้อนความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ เบื้องต้นราคาทองคำพยายามขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,255-1,266 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากราคาสามารถขึ้นไปยืนเหนือแนวต้านดังกล่าวได้ มีโอกาสปรับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไป แต่หากราคายังไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวไปได้ ก็จะเห็นการย่อตัวของราคากลับลงมาบริเวณแนวรับ ซึ่งยังคงแนะนำการลงทุนในลักษณะรอจังหวะซื้อขายเก็งกำไรระยะสั้น
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำยังคงอยู่ในลักษณะเคลื่อนไหวในกรอบเพื่อรอปัจจัยเข้ามากระทบ โดยกรอบของราคาในช่วงนี้จะอยู่ระหว่างแนวรับที่ 1,241-1,236 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำนักลงทุนสามารถลงทุนระยะสั้นโดยเข้าซื้อหากราคาย่อตัวไม่หลุดแนวรับบริเวณ โดยไม่แนะนำให้เข้าซื้อทั้งหมดบริเวณแนวรับใดแนวรับหนึ่ง ควรเหลือเงินทุนเพื่อซื้อเฉลี่ยหากราคาหลุดแนวรับแรกซึ่งราคาจะปรับตัวลงไปบริเวณแนวรับถัดไป และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นบริเวณแนวต้าน 1,255-1,266 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้อาจเห็นการย่อตัวของราคาทองคำอีกครั้ง เบื้องต้นวายแอลจียังมองว่าการลงทุนยังเน้นการลงทุนระยะสั้น เพราะแม้ว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้บ้าง ก็ยังคงมีแรงขายทองคำออกมาเช่นกัน
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,236 (19,850บาท) 1,223 (19,650บาท) 1,213 (19,500บาท)
แนวต้าน 1,255 (20,200บาท) 1,266 (20,350บาท) 1,274 (20,500บาท)
GOLD FUTURES (GFM17)
แนวรับ 1,236 (20,070บาท) 1,223 (19,860บาท) 1,213 (19,700บาท)
แนวต้าน 1,255 (20,380บาท) 1,266 (20,550บาท) 1,274 (20,680บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999