(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.24 น.ของวันที่ 13/07/60)
แนวโน้มวันที่ 14 กรกฎาคม 2560
การแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต่อสภาคองเกรส มีมุมมองต่อเศรษฐกิจสหรัฐ สอดคล้องกับ รายงาน Beige Book ที่ระบุว่า "กิจกรรมทางเศรษฐกิจในเขตของเฟด ทั้ง 12 เขตขยายตัวในเดือนมิ.ย.มีอัตราการเติบโตอยู่ในระดับตั้งแต่เล็กน้อยจนถึงปานกลาง ทั้งนี้ นางเยลเลน แถลงต่อสภาคองเกรสว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของเฟดจะดำเนินไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป และมีแนวโน้มที่เฟดจะเริ่มลดพอร์ตลงทุนในหลักทรัพย์ลงในปีนี้ แม้เงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำอาจทำให้เฟด สามารถดำเนินการได้น้อยลงก็ตาม แถลงการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้เทรดเดอร์ในตลาดสัญญาล่วงหน้าคาดว่า มีโอกาสเพียง 53 % ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค. โดยปรับลดลงจากโอกาส 60 % ที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านั้นต่อไป จนกดดันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐให้ร่วงลง และกระตุ้นแรงซื้อเข้าสู่ตลาดทองคำให้ราคาฟื้นตัวขึ้นได้บ้าง ทั้งนี้ นักลงทุนติดตาม กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมิ.ย. เป็นสิ่งบ่งชี้อัตราเงินเฟ้อและเป็นสิ่งที่เฟดใช้ในการพิจารณาการคุมเข้มนโยบายการเงิน แนะนำนักลงทุนติดตาม กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย. ตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนพ.ค. ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ถูกลดความน่าสนใจลงเพราะ สินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น โดยตลาดหุ้นเอเชียและ ตลาดยุโรปปรับตัวขึ้น เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นเพื่อเก็งกำไร ตามทิศทางตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปรับตัวสูงขึ้น ขานรับแนวโน้มการคุมเข้มนโยบายการเงินของเฟด อย่างเป็นค่อยเป็นค่อยไปทั้งนี้ ในระยะสั้นราคาทองคำอาจกลับมาเคลื่อนไหวในกรอบ หากราคายืนเหนือแนวรับได้ ยังมีโอกาสขยับขึ้น นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรออกมาเพราะหากราคาไม่ผ่านราคาอาจจะมีการอ่อนตัวลงอีกครั้ง
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำจะมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวออกด้านข้างในทิศทางที่อ่อนตัวลง เบื้องต้นประเมินว่าหากราคาสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,204 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหวในลักษณะพยายามสร้างฐานราคา อย่างไรก็ตามเมื่อราคาขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,225-1,233 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังไม่สามารถผ่านไปได้แนะนำขายทำกำไรบางส่วน และแนะนำนักลงทุนเข้าซื้อเมื่อราคามีการย่อตัวเข้าใกล้บริเวณแนวรับดังกล่าว โดยในระยะสั้นหากราคาไม่หลุดแนวรับราคาทองคำยังมีโอกาสดีดตัวในช่วงสั้นและแกว่งตัวออกด้านข้างต่อไป
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,204 (19,300บาท) 1,194 (19,150บาท) 1,182 (18,950บาท)
แนวต้าน 1,225 (19,700บาท) 1,233 (19,850บาท) 1,241 (19,950บาท)
GOLD FUTURES (GFQ17)
แนวรับ 1,204 (19,480บาท) 1,194 (19,320บาท) 1,182 (19,120บาท)
แนวต้าน 1,225 (19,810บาท) 1,233 (19,960บาท) 1,241 (20,080บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999