นายธวัชชัย พุฒิพิริยะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภคในจังหวัดเชียงราย เปิดเผยถึง ผลประกอบการบริษัทฯ งวดไตรมาส 2/2560 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 14.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนร้อยละ1.26 และมีอัตรากำไรสุทธิเท่ากับร้อยละ 3.62 ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากยอดขายรวมเติบโตขึ้น โดยมีรายได้จากการขายและการให้บริการอยู่ที่ 389.75 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 26.56 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 7.31 ขณะที่กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 51.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปีก่อน 4.35 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 9.21 มีอัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับร้อยละ 13.22 และมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารและภาษีเงินได้เพิ่มขึ้น 4.50 ล้านบาท
สำหรับผลประกอบการบริษัทฯ งวด 6 เดือนแรก สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2560 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 28.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 3.76 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 15.10โดยมีอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 3.74 มีรายได้จากการขายและบริการเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 767.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 55.14 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 7.74 โดยยอดขายที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการเปิดสาขาอย่างต่อเนื่องตามแผนงานที่บริษัทฯ ได้วางไว้ ขณะที่ บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 101.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 12.56 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 14.09 โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับร้อยละ 12.52 การเพิ่มขึ้นของอัตรากำไรขั้นต้นเกิดจากการขยายสาขาที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของบริษัทฯ ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงกว่ารายได้จากการขายส่งของสำนักงานใหญ่ และการได้รับค่าสนับสนุนจากการขายของผู้จำหน่าย เนื่องจากบริษัทฯ มีการเติบโตของยอดขายอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้นที่ไว้วางใจบริษัทฯ ด้วยดีเสมอมา คณะกรรมการมีมติให้จ่ายปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสด จากผลการดำเนินงานงวดวันที่ 1 มกราคม 2560 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2560 จำนวน 0.015 บาท/หุ้น รวมเงินจ่ายปันผลทั้งสิ้น 12 ล้านบาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 17 สิงหาคม 2560 และวันที่จ่ายปันผล วันที่ 29 สิงหาคม 2560
ด้านเภสัชกรหญิง อมร พุฒิพิริยะ รองกรรมการผู้จัดการ เปิดเผยถึง ภาพรวมธุรกิจค้าปลีกของ บริษัทฯ ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาทรงตัว ตามภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ การจับจ่ายใช้สอยผู้บริโภคไม่คึกคักมากนัก ขณะที่ธนพิริยะก็ยังคงรักษาการเติบโตที่ดีให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ได้ และมองว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีกว่างวดครึ่งปีแรกที่ผ่านมา โดยเฉพาะไตรมาส 4 ที่เป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ จะมีการจับใช้สอยจากผู้บริโภคเพิ่มขึ้นและเป็นฤดูกาลการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงราย ประกอบกับการรับรู้รายได้จากสาขาใหม่ที่ส่วนใหญ่ทยอยเปิดในช่วงครึ่งปีหลัง
ทั้งนี้ ในปี 2560 บริษัทฯ ตั้งเป้าเปิดสาขาเพิ่มอีก 4 สาขา โดยในเดือนเมษายนที่ผ่านมา เปิดสาขาแรกไปแล้วที่อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ในปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาเปิดสาขาที่สอง สาขาท่าวังทอง อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา และคาดว่าสาขาที่สาม ในจังหวัดเชียงราย จะเปิดได้ในช่วงต้นเดือนกันยายนนี้ ส่วนสาขาที่สี่ อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา จะเปิดช่วงต้นเดือนธันวาคม ทำให้สิ้นปี 2560 ธนพิริยะจะมีสาขารวมกันทั้งสิ้น 19 สาขา โดยใช้งบลงทุนรวมประมาณ 60 ล้านบาท
และอีกกุญแจสำคัญในการดูแลบริหารจัดการที่ดี จากศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่ที่มีประสิทธิภาพบนพื้นที่กว่า 10,000 ตร.ม. รองรับสินค้าได้มากขึ้น ได้เปิดใช้งานได้อย่างเต็มศักยภาพเรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน 2560 ที่ผ่านมา เป็นอีกปัจจัยสนับสนุนการขยายสาขาในช่วงต่อจากนี้ของธนพิริยะให้เป็นต้นแบบค้าปลีกของคนไทยที่แข็งแกร่งกว่าเดิม