(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.25 น. ของวันที่ 10/08/60)
แนวโน้มวันที่ 11 สิงหาคม 2560
นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อต่ำจะไม่เป็นอุปสรรคต่อเฟดในการปรับลดงบดุลจำนวน 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนกันยายน แต่จะทำให้เฟดชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงเดือนธันวาคม หรือนานกว่านั้น ปัจจัยดังกล่าวทำให้นักลงทุนจับตา กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ค.ในวันศุกร์นี้ เพื่อประเมินทิศทางอัตราเงินเฟ้อ ทั้งนี้ ทองคำได้รับแรงหนุนเพิ่ม จากภาวะปั่นป่วนวุ่นวายทางการเมืองในสหรัฐ เมื่อเจ้าหน้าที่ของสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) ได้บุกค้นบ้านของนายพอล มานาฟอร์ต อดีตประธานฝ่ายหาเสียงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หลังจากเขาไปให้การต่อวุฒิสภาสหรัฐ โดยรายงานระบุว่า เจ้าหน้าที่ FBI ออกจากบ้านไปพร้อมเอกสารซึ่งยังไม่แน่ชัดว่ามีความสำคัญในแง่ใด แต่ประเด็นดังกล่าวสะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า กรณีที่รัสเซียพยายามแทรกแซงการเลือกตั้งเพื่อช่วยนายทรัมป์ ถือเป็นปัญหาใหญ่ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำในประเทศยังคงถูกกดดันจากแนวโน้มค่าเงินบาทที่แข็งค่าต่อเนื่อง ซึ่งรอยเตอร์เปิดเผยผลโพลล์ล่าสุดที่สอบถามนักวิเคราะห์, เทรดเดอร์ และผู้จัด การกองทุน 11 ราย บ่งชี้ว่า นักลงทุนได้ปรับเพิ่มสถานะซื้อในสกุลเงินส่วนใหญ่ในเอเชียและคาดการณ์ในทางบวกต่อสกุลเงินบาทของไทยขึ้นสู่จุดสูงสุดในรอบกว่า 3 ปีในช่วงสองสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 10 ส.ค. ในขณะที่บาทพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งกว่าสกุลเงินอื่นๆในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ใน ปี 2560 โดยบาทต่อดอลลาร์ทะยานขึ้นมาแล้ว 7.62% จากช่วงต้นปี 2560 เบื้องต้นแนะนำนักลงทุนจับตาการเคลื่อนไหวของราคาทองคำอย่างใกล้ชิด หากราคาทดสอบแนวต้านที่ 1,287 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ถ้าราคาไม่ผ่านแนวต้าน นักลงทุนอาจต้องระวังแรงขาย โดยหากราคามีการย่อตัวลงมาบริเวณแนวรับ 1,266 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็เป็นจุดที่เข้าซื้อเก็งกำไร
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณที่ 1,287 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบางส่วนออกมาบ้าง หรือถ้าราคาสามารถผ่านไปได้ให้นักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้แนะนำให้ถือต่อไป เพื่อไปขายทำกำไรที่แนวต้านถัดไป และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลงมา ไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนสามารถเก็งกำไร โดยเน้นไปที่การลงทุนระยะสั้น ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,266 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,251 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนเพื่อควบคุมความเสี่ยง
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,266 (19,900บาท) 1,251 (19,650บาท) 1,243 (19,550บาท)
แนวต้าน 1,287 (20,250บาท) 1,295 (20,400บาท) 1,309 (20,600บาท)
GOLD FUTURES (GFQ17)
แนวรับ 1,266 (20,020บาท) 1,251 (19,790บาท) 1,243 (19,660บาท)
แนวต้าน 1,287 (20,360บาท) 1,295 (20,490บาท) 1,309 (20,710บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999