คณะกรรมการกนง. กล่าวย้ำว่า อัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันยังคงเอื้อต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจมหภาคมีแนวโน้มขยายตัวชัดเจนต่อเนื่องจากการส่งออกสินค้าและการท่องเที่ยวที่ขยายตัวดีขึ้น ส่วนการลงทุนของภาครัฐขยายตัวได้น้อยกว่าคาด แต่การบริโภคภาคเอกชนมีแนวโน้มขยายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ส่วนแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ กนง. คาดว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะปรับตัวสู่ระดับเป้าหมายในช่วง 1-4% ช้ากว่าที่ประเมินไว้ในไตรมาส 4/2560 แต่ยังไม่มีความจำเป็นต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากการปรับขึ้นอย่างช้าๆ ของราคาสินค้ามีสาเหตุมาจากต้นทุนเป็นหลัก โดยทาง กนง. ยังคงติดตามสถานการณ์ค่าเงินบาทที่แข็งค่ามากกว่าสกุลเงินในภูมิภาคอย่างใกล้ชิด
คณะกรรมการกนง. มีกำหนดการประชุมรอบถัดไปในวันที่ 27 กันยายน 2560 โดย กนง.มองว่าอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงอยู่ในระดับต่ำและย้ำถึงปัจจัยเสี่ยงจากต่างประเทศ อาทิ แนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจโลกและความเสี่ยงจากปัญหาภูมิรัฐศาสตร์โลก รวมถึงความเสี่ยงจากภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำนานเกินไป ทั้งนี้ กลุ่มงาน
โกลบอลมาร์เก็ตส์มองว่า กนง. น่าจะยังคงดอกเบี้ยไว้ที่ 1.5% ตลอดปีนี้ โดยการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกน่าจะยังไม่เกิดขึ้นก่อนกลางปี 2561 เนื่องจากการลงทุนภาคเอกชนฟื้นตัวอย่างช้าๆ แรงกดดันด้านเงินเฟ้อด้านอุปสงค์ที่ต่ำ และการแข็งค่าของเงินบาท