(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.51น. ของวันที่ 20/09/60)
แนวโน้มวันที่ 21 กันยายน 2560
ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) จะประกาศมติการประชุมนโยบายในวันพฤหัสบดีนี้และคาดว่าบีโอเจจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ -0.1% และยังคงนโยบายผ่อนคลายการเงินเชิงรุก เพื่อพยุงเงินเฟ้อที่ยังคงต่ำกว่าระดับเป้าหมาย แม้เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวเล็กน้อยก็ตาม ซึ่งหากเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ อาจลดลงกดดันต่อ ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ให้เร่งคุมเข้มนโยบายการเงิน ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังจาก อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของยูโรโซนเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือนในเดือนส.ค. ทั้งนี้ แหล่งข่าว 6 รายเปิดเผยว่า กรรมการอีซีบี ไม่เห็นด้วยกับการกำหนดวันที่แน่นอนสำหรับการยุติโครงการพิมพ์ธนบัตรในการประชุมในเดือนหน้า ซึ่งเพิ่มโอกาสที่พวกเขาจะยังคงทางเลือกในการขยายโครงการดังกล่าวอีกครั้ง ประเด็นดังกล่าวทำให้นักลงทุนรอดูความชัดเจนมติการประชุมนโยบายของธนาคารกลางต่าง ๆ เพื่อใช้เป็นปัจจัยขับเคลื่อนราคาทองคำระยะถัดไป อย่างไรก็ตาม ทองคำยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับต่ำสดในรอบ 2 สัปดาห์ หลังจากตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นวอลล์สตรีทพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง ทั้งนี้ ราคาทองคำในประเทศยังคงได้รับแรงกดดัน จากค่าเงินบาทต่อดอลลาร์ในขณะนี้ยืนใกล้เคียงระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 28 เดือน ที่ 33.04 ขณะที่ตั้งแต่ต้นปีนี้ เงินบาทแข็งค่าขึ้นมาแล้วราว 8.2% ซึ่งเป็นสกุลเงินที่แข็งค่าที่สุดในเอเชีย ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ระบุก่อนหน้านั้นว่า เงินบาทแข็งค่า จากดอลลาร์อ่อนค่า, การเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของไทย และกังวลการเมืองลดลง เบื้องต้นประเมินว่า หากราคาทองคำไม่สามารถทะลุผ่านกรอบบนที่ 1,319-1,330 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไปได้ อาจเห็นการย่อตัวของราคากลับลงมาบริเวณโซน 1,300-1,294 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งบริเวณแนวต้านไม่สามารถยืนได้อย่างแข็งแกร่งทำให้ราคาทองคำมีแนวโน้มจะอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับอีกครั้ง
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจี แนะนำรอจังหวะเข้าซื้อโดยสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้อาจเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้น้อยแนะนำให้รอดูบริเวณโซนแนวรับ 1,294 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และรอขายทำกำไรบางส่วนบริเวณแนวต้านแรกที่ 1,319 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนที่เหลือให้รอไปปิดสถานะทำกำไรบริเวณแนวต้านถัดไปที่ 1,330 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ เพื่อลดความเสี่ยงพอร์ตการลงทุน ซึ่งหากนักลงทุนไม่มีวินัยในการลงทุนที่จะตัดขาดทุน จะทำให้เกิดความเสียหายที่ไม่อาจควบคุมได้อีกต่อไป
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,300 (20,300บาท) 1,294 (20,200บาท) 1,286 (20,100บาท)
แนวต้าน 1,319 (20,650บาท) 1,330 (20,800บาท) 1,339 (20,950บาท)
GOLD FUTURES (GFV17)
แนวรับ 1,300 (20,450บาท) 1,294 (20,360บาท) 1,286 (20,230บาท)
แนวต้าน 1,319 (20,760บาท) 1,330 (20,930บาท) 1,339 (21,070บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999