(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.50น. ของวันที่ 21/09/60)
แนวโน้มวันที่ 22 กันยายน 2560
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมในวันพุธ และส่งสัญญาณจะเริ่มต้นปรับลดขนาดพอร์ตลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐและหลักทรัพย์ที่ได้รับการค้ำประกันจากสัญญาจำนอง(MBS) ในเดือนต.ค. การเปิดเผยแถลงการณ์ของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) บ่งชี้ว่า เฟดคาดว่าอัตราการว่างงานอาจจะทรงตัวอยู่ที่ 4.3% ในปีนี้, 4.1% ในปี 2561 และ 4.1% ในปี 2562 เฟดแทบไม่ได้ปรับเปลี่ยนตัวเลขคาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจและอัตราการว่างงานประจำปี 2561 และช่วงหลังจากนั้น โดยขณะนี้เฟดคาดว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐอาจจะเติบโต 2.4% ในปีนี้, 2.1% ในปีหน้า และ 2.0% ในปี 2562 มุมมองดังกล่าว หนุนผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ ขณะที่ดัชนีดอลลาร์พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ ขณะที่ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอื่นๆในยูโรโซนปรับขึ้น 0.02-0.04% สะท้อนให้เห็นทิศทางอัตราดอกเบี้ยในตลาดเงินที่มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งส่งผลเชิงลบต่อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทนในรูปแบบดอกเบี้ย ทั้งนี้หลังจากเฟด เปิดเผยผลการประชุมกำหนดนโยบายในวันพุธ รอยเตอร์ก็ได้สอบถามความเห็นจากธนาคารชั้นนำในย่านวอลล์สตรีท พบว่า ธนาคาร 15 จาก 17 แห่งในโพลล์คาดว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 12-13 ธ.ค.ปีนี้ และ โพลล์คาดว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 3 ครั้งในปี 2561 ซึ่งจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 2.00-2.25 % ในช่วงสิ้นปี 2561 ยังคงกดดันราคาทองคำเพิ่มเติม สำหรับนักลงทุนในตลาดทองคำให้ดูว่าเมื่อราคาดีดตัวขึ้นราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ซึ่งหากไม่ผ่านราคาอาจจะมีการอ่อนตัวลงอีกครั้ง โดยนักลงทุนที่รอซื้อทองคำอาจรอดูการตั้งฐานของราคาโดยประเมินแนวรับไว้ที่ 1,291-1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในลักษณะอ่อนตัวลง หลังจากถูกปัจจัยพื้นฐานกดดัน โดยกรอบของราคาในช่วงนี้จะอยู่ระหว่างแนวรับที่ 1,291-1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และแนวต้านที่ 1,306- 1,317 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำนักลงทุนเข้าซื้อเมื่อราคามีการปรับตัวลงเข้าใกล้กรอบล่างของราคา โดยให้รอจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาและไม่หลุดบริเวณแนวรับ 1,291 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาหลุดแนวรับยังสามารถเข้าซื้อสะสมที่บริเวณแนวรับถัดไปที่ 1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์โดยเน้นการเข้าซื้อในช่วงสั้น ซึ่งนักลงทุนสามารถทำกำไรเมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,306 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือนักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้อาจรอทำกำไรบริเวณ 1,317 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,291 (20,200บาท) 1,280 (20,050บาท) 1,272 (19,900บาท)
แนวต้าน 1,306 (20,450บาท) 1,317 (20,650บาท) 1,326 (20,800บาท)
GOLD FUTURES (GFV17)
แนวรับ 1,291 (20,350บาท) 1,280 (20,180บาท) 1,272 (20,050บาท)
แนวต้าน 1,306 (20,590บาท) 1,317 (20,760บาท) 1,326 (20,900บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999