Market Outlook 4Q60

ศุกร์ ๐๖ ตุลาคม ๒๐๑๗ ๑๐:๒๗
ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) คาดการณ์ภาพรวมการลงทุนในช่วงไตรมาส 4 ปี 2560 คาด SET แกว่ง Sideway to Sideway Up ประเมินกรอบแนวต้านบริเวณ 1700 จุด และรับ 1640 จุด โดยมีปัจจัยผลักดันจากภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว ส่งผลบวกต่อตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศ EM

แนวโน้มดอกเบี้ยสหรัฐฯที่ไม่เร่งตัวขึ้นเร็ว ขณะที่เงินเฟ้อโดยรวมยังคงอยู่ในระดับต่ำ เป็นปัจจัยหนุนทิศทาง Fund Flow อยู่ในกลุ่มประเทศ EM ต่อเนื่อง

สัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยที่มีทิศทางที่ดีขึ้นในทุกภาคส่วน นำโดย ภาคท่องเที่ยวไทยที่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเร่งตัวขึ้น 4 เดือนติดต่อกัน สู่ระดับใกล้เคียงจุดสูงสุดในช่วงเดือน มค. 2017 โดยหากพิจารณาเป็นรายประเทศจะพบว่า สัญญาณการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีน มีการฟื้นตัวได้อย่างมีนัยสำคัญ ส่วนทางด้านทิศทางการส่งออก ก็มี sentiment บวกเช่นเดียวกัน โดย พบว่ายอดการส่งออกเดือน สค. สามารถขยายตัวได้ถึง 13.2%YoY ส่วนในแง่มุมการบริโภค ก็เริ่มมีสัญญาณที่ดี นำโดย ความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวขึ้นในเดือน สค. เป็นเดือนแรก หลังจากหดตัว 3 เดือนติดต่อกัน โดยจากการลองสอบถามบริษัทจดทะเบียนหลายแห่งใน เชิงของ same store sale growth (%SSSG) ก็เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยในช่วงไตรมาส 3 ดังนั้นจึงเป็นปัจจัยบวกเพิ่มเติมหนุนแนวโน้ม GDP ยังขยายตัวขึ้นได้ต่อเนื่อง นอกจากนี้ ทางด้านการลงทุนภาคเอกชน พบว่า ดัขนีความเชื่อมั่นในการทำธุรกิจ สามารถปรับขึ้น 3 เดือน ติดต่อกัน เช่นเดียวกับ ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม เดือน สค. ขยายตัวสูงสุดในรอบ 9 เดือนคาดเม็ดเงิน LTF/RMF จะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยผลักดันตลาดปรับตัวขึ้นเพิ่มเติมได้ในช่วงปลายปี

Risk

นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ US เช่น นโยบายภาษี ซึ่งหากสามารถขับเคลื่อนได้ อาจส่งผลต่อ Fund Flow ไหลกลับ แต่อย่างไรก็ดีเม็ดเงินดังกล่าวก็คาดจะไม่มีนัยสำคัญมากนัก เนื่องจากเม็ดเงินที่ไหลเข้าจากต่างชาติในช่วงก่อนหน้าไม่ได้มีขนาดมากมายนัก

แนวโน้มค่าเงินดอลล่าร์ ที่อาจกลับมาแข็งค่า หลังช่วงที่ผ่านมาค่าเงินดอลล่าร์อ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการพลิกกลับของค่าเงิน อาจกระทบต่อทิศทาง Fund Flow ได้บ้าง

Investment Strategy

ประเมิน SET target 12 เดือนข้างหน้าที่ระดับ 1712 จุด อิง PE Ratio ที่ระดับ 16 เท่า โดยสำหรับกลยุทธ์การลงทุนแนะนำ สลับมาสะสม Domestic Plays มากขึ้น โดยเน้นกลุ่มค้าปลีกที่ได้ประโยชน์จากภาคการท่องเที่ยวกำลังเข้าสู่ช่วง High Season (Touristic & consumption benefit) เช่น CPALL, BJC, HMPRO, ROBINS*, CPN ผสานกลุ่มที่ยังคงมี earning momentum เชิงบวกในช่วง 2H60 เช่นกลุ่ม Finance (SAWAD, KTC), Petrochem (IVL, PTTGC), Healthcare (BDMS, BCH, RJH*), Media (VGI, PLANB*, MACO), Property (SPALI, LPN, WHA*)

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๙ เม.ย. บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๙ เม.ย. รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๙ เม.ย. กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๙ เม.ย. ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๙ เม.ย. กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๙ เม.ย. เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๙ เม.ย. สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๙ เม.ย. GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๙ เม.ย. เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๙ เม.ย. เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4