ส่วนผลการดำเนินงานโครงการ "คลินิกแก้หนี้" ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ริเริ่มจัดตั้งโครงการขึ้น เพื่อเป็นหน่วยงานกลางในการช่วยเหลือประชาชนแก้ไขปัญหาหนี้ส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันและมีหนี้ค้างชำระอยู่กับธนาคารพาณิชย์หลายแห่งให้สามารถแก้ไขปัญหาหนี้สินให้ได้ข้อยุติในคราวเดียว แบบ One-Stop Service รวมทั้งชำระหนี้ของตนเองได้อย่างเหมาะสมตามความสามารถที่แท้จริง ควบคู่กับการเสริมสร้างวินัยทางการเงินที่ดีนั้น จากการเริ่มดำเนินการเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน จนถึง 30 กันยายน 2560 มีผู้สนใจติดต่อสอบถามผ่าน Call Center และยื่นใบสมัครถึงประมาณ 28,000 ราย หรือเฉลี่ยประมาณ 4,000 รายต่อเดือน โดยมีภาระหนี้เงินต้นเฉลี่ยรายละ 230,000 บาทและมีหนี้กับธนาคารเฉลี่ย 3 แห่งต่อราย นับเป็นโครงการที่ช่วยแก้ไขปัญหาหนี้ส่วนบุคคลไม่มีหลักประกันและหาข้อยุติในเรื่องภาระหนี้สินของลูกหนี้รายย่อยตามนโยบายของ ธปท.ได้อย่างชัดเจน แต่ด้วยข้อจำกัดของคุณสมบัติและเงื่อนไขที่กำหนดไว้ ทำให้ปริมาณผู้เข้าร่วมโครงการยังไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ซึ่งขณะนี้ SAM ร่วมกับ ธปท.และธนาคารพาณิชย์ที่เข้าร่วมโครงการอยู่ระหว่างการพิจารณาปรับเงื่อนไขคุณสมบัติ เพื่อขยายฐานลูกค้าเป้าหมายไปยังบุคคลธรรมดาที่ไม่มีรายได้ประจำ (Self Employed) รวมถึงกลุ่มลูกหนี้ที่มีการดำเนินคดีแต่ยังไม่เข้าสู่กระบวนการล้มละลาย ตลอดจนการผ่อนปรนหลักเกณฑ์ในการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ เพื่อรองรับและช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยให้สามารถเข้าร่วมโครงการได้เพิ่มขึ้น
นางฐิติมา ได้กล่าวถึงผลตอบรับของลูกหนี้ที่เข้าร่วมโครงการคลินิกแก้หนี้โดยภาพรวมว่า "หลังจากได้ลงนามในสัญญาปรับโครงสร้างหนี้แล้ว ลูกหนี้เหล่านี้สามารถกลับไปดำเนินชีวิตได้ตามปกติ เนื่องจากโครงการฯ คิดอัตราดอกเบี้ยต่ำและพิจารณาตามความสามารถของลูกหนี้ จึงช่วยลดความกังวลเรื่องการผ่อนชำระหนี้ได้มาก ทั้งยังอำนวยความสะดวกให้สามารถชำระเงินได้โดยตรงที่โครงการฯ เพียงที่เดียว พร้อมให้คำแนะนำและความรู้พื้นฐานทางการเงินเพิ่มเติมให้แก่ลูกหนี้อีกด้วย
สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการดังกล่าว สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ Call Center 02-610-2266 และสมัครผ่านเว็บไซต์ www.คลินิกแก้หนี้.com หรือ www.debtclinicbysam.com