ทั้งนี้บทวิเคราะห์ของ บมจ.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ได้ประเมินมูลค่าเหมาะสมที่ 6.00 บาท
บริษัทฯเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 120 ล้านหุ้น หรือ 26% ของหุ้นหลัง IPO ที่ 460 ล้านหุ้น (พาร์ 0.50 บาท) เพื่อนำเงินไปคืนหนี้สิน ลงทุนขยายกิจการ โดยประโยชน์สำคัญอีกอย่างของการ IPO หุ้น mai/service คือ ความเสี่ยงทางการเงินจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญจาก D/E 3.5 เท่า ณ สิ้นปี 2559 จะเหลือ 1.5 เท่าในสิ้นปีนี้ พร้อมที่จะขยายกิจการต่อเนื่องอีกระยะยาว
ซึ่งปี 2561 จะมีการขับเคลื่อนของทุกหน่วยธุรกิจอย่างเต็มที่ ทั้งท่าเรือ 2 แห่ง และธุรกิจสนันสนุนรอบด้านที่ขยายตัวในทุกทิศทาง (ขนส่งตู้ทางบก-ซ่อมบำรุงตู้-บรรจุ/แกะสินค้าลงตู้-คลังสินค้า-Freight Forwarder) ขณะที่อัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) จะเริ่มขยายมากขึ้นจาก 3.6% ไปสู่ 8.9% ในปี 2563 จากปริมาณของตู้คอนเทนเนอร์ที่จะเดินหน้าทำ Record High ต่อเนื่อง 17.3% CAGR และการได้ Economics of Scales และภาระดอกเบี้ยที่ทยอยลดลง เราคาดกำไรสุทธิปีหน้าที่ 108 ล้านบาท ขยายตัว 130.1 %YoY