(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.58 น. ของวันที่ 27/11/60)
แนวโน้มวันที่ 28 พฤศจิกายน 2560
มาตรการจัดการเด็ดขาดกับการให้สินเชื่อที่มีความเสี่ยงของรัฐบาลจีนอาจจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสำหรับภาคธนาคารและนักลงทุนรายย่อย และต้นทุนการกู้ที่พุ่งสูงขึ้น จะกระทบกำไรของภาคเอกชน จนสร้างความวิตกให้กับนักลงทุนในตลาดหุ้นจีน ทั้งนี้มีแรงเทขายหุ้นบลูชิพขนาดใหญ่ของจีนจนฉุดตลาดหุ้นจีนร่วงลงต่อในวันจันทร์ หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นจีนร่วงลงตามการดิ่งลงของราคาพันธบัตร เมื่อผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี เพราะมาตรการใหม่เพื่อลดความเสี่ยงในธุรกิจบริหารสินทรัพย์ แม้ความผันผวนในสินทรัพย์เสี่ยงจะกระตุ้นแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย แต่การพุ่งขึ้นของราคาทองคำกว่า 1% ในเดือนพฤศจิกายน ส่งผลให้แรงซื้อทองคำในปัจจุบันชะลอตัวลงจากผู้ซื้อรายใหญ่อันดับต้นอย่างเช่นจีนและอินเดีย เห็นได้จากส่วนต่างราคาทองคำในประเทศจีนสูงกว่าราคาทองคำในตลาดโลกที่แคบลงเหลือเพียง 5-9 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งในสัปดาห์ที่ผ่านส่วนต่างราคาทองคำสูงถึง 7-10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ดีลเลอร์ในอินเดียยังคงเสนอส่วนลดให้ถึง 2 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในสัปดาห์นี้ ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ที่แล้ว เพราะการนำเข้าทองคำต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้นในอัตรา 10% ทั้งนี้นักลงทุนในตลาดทองคำเพิ่มความระมัดระวังในการสะสมทองคำ โดยรอดูการประชุมของสภาคองเกรสสหรัฐในวันอังคารในการพิจารณาเรื่องการเสนอชื่อนายเจอโรม พาวเวลล์ให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟด รวมทั้งจับตาความคืบหน้าประเด็นแผนปฏิรูปภาษีของสหรัฐ ซึ่งปธน.ทรัมป์มีกำหนดจะประชุมกับวุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันในวันอังคาร เพื่อพยายามผลักดันร่างกฎหมายปฏิรูปภาษี ซึ่งหากมีความชัดเจนจะส่งต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ โดยแนะนำนักลงทุนติดตามสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงอย่างใกล้ชิด และแนะนำให้ซื้อขายเก็งกำไรในระยะสั้นพร้อมตั้งจุดตัดขาดทุน เพื่อลดความเสี่ยงของพอร์ตในช่วงนี้
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำยืนเหนือบริเวณแนวรับ 1,281 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ในระยะสั้นราคาทองคำยังมีโอกาสขยับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยบริเวณนี้นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบางส่วนออกมาบ้าง โดยให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ซึ่งหากไม่ผ่านราคาอาจจะมีการอ่อนตัวลงอีกครั้ง โดยนักลงทุนที่รอซื้อทองคำอาจรอดูการตั้งฐานของราคาโดยประเมินแนวรับไว้ที่ 1,281-1,274 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำนักลงทุนซื้อขายในระยะสั้น ส่วนนักลงทุนระยะกลางคงต้องรอการย่อตัวและการตั้งฐานของราคาทองคำแล้วจึงเข้าสะสมทองคำเพิ่มเติม
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,281 (19,750บาท) 1,274 (19,650บาท) 1,266 (19,500บาท)
แนวต้าน 1,300 (20,100บาท) 1,307 (20,200บาท) 1,319 (20,400บาท)
GOLD FUTURES (GFZ17)
แนวรับ 1,281 (19,890บาท) 1,274 (19,780บาท) 1,266 (19,660บาท)
แนวต้าน 1,300 (20,190บาท) 1,307 (20,300บาท) 1,319 (20,480บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999