(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.52 น. ของวันที่ 04/01/61)
แนวโน้มวันที่ 05 มกราคม 2561
ข้อมูลการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างของสหรัฐแตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์ในเดือนพ.ย. และกิจกรรมโรงงานในเดือนธ.ค. แข็งแกร่งกว่าที่คาดไว้ ส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) สาขาแอตแลนตา ประเมินว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจเติบโตในระดับ 3.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในไตรมาส 4 ซึ่งยืนยันแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐที่สดใส ขณะที่รายงานการประชุมกำหนดนโยบายล่าสุดของเฟด บ่งชี้ว่า แนวโน้มตลาดแรงงานสหรัฐแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องและการขยายตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ แม้ว่าเจ้าหน้าที่ผู้กำหนด นโยบายังคงกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่ระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง แต่เฟดจะยังคงขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป และอาจจะดำเนินการเร็วขึ้น ถ้าเงินเฟ้อปรับตัวเร็วขึ้น ปัจจัยดังกล่าวกระตุ้นให้ดอลลาร์แข็งค่า จนราคาทองคำเกิดแรงขายทำกำไรออกมา นอกจากนี้วาณิชธนกิจ Bank of America Merrill Lynch (BAML) คาดว่าตลาดหุ้นสหรัฐอาจวิ่งขึ้นต่อได้อีกเกือบ 20% ในปี 2561 กระแสการคาดการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ทองคำในฐานะสินทรัพย์ถูกลดความน่าสนใจลง อย่างไรก็ตามข้อมูลของสถาบันบริษัทการลงทุน (ICI) ของสหรัฐแสดงว่า ในช่วงสิ้นปี 2560 นักลงทุนกองทุนสหรัฐยังคงมีท่าทีระมัดระวังในการลงทุนเช่นเดียวกับในช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยยังชื่นชอบพันธบัตรและหุ้นทั่วโลกมากกว่าหุ้นภายในตลาดสหรัฐ หลังจากกองทุนหุ้นดึงดูดเงินลงทุน 4.1 พันล้านดอลลาร์ในช่วงสัปดาห์ที่สิ้นสุดในวันที่ 27 ธ.ค. ด้วยความกังวลที่เกิดขึ้น วายแอลจีเชื่อว่าจะกลับมาเป็นปัจจัยพยุงราคาทองคำได้ ทั้งนี้แนะนำติดตามการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ อาทิ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร, อัตราการว่างงาน และรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงเดือนธ.ค.ในวันศุกร์นี้ โดยการเข้าซื้อจำเป็นต้องวางแผนให้ชัดเจน สุดท้ายอยากฝากว่าการเคลื่อนไหวของราคาทองคำอย่างรวดเร็ว มีเพียงวิธีการจัดพอร์ตการลงทุนเท่านั้นที่จะลดความเสี่ยงในการลงทุน และทำให้นักลงทุนสามารถรับความผันผวนของตลาดได้ ซึ่งการลงทุนที่มากเกินไปจะสร้างความเสี่ยงให้กับนักลงทุนเป็นอย่างมาก
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำอาจมีการดีดตัวในช่วงสั้นๆขึ้นมาบ้าง โดยประเมินแนวต้านแรกไว้ที่ระดับ 1,317 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถขึ้นไปยืนเหนือแนวรับได้มีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1,328 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถผ่านไปได้ราคาทองคำมีแนวโน้มย่อตัวลงมาบริเวณแนวรับ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากราคายังหลุดแนวรับแรก ราคาทองคำจะปรับตัวลงสู่แนวรับถัดบริเวณโซน 1,293 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เบื้องต้นในการเข้าสะสมทองคำ นักลงทุนสามารถสังเกตได้ว่าราคาทองคำยังทำจุดต่ำสุดใหม่หรือไม่ ซึ่งหากไม่สามารถหยุดการทำในลักษณะนี้ได้ นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายที่อาจส่งผลให้เกิดการอ่อนตัวของราคาลงไปอีก
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,300 (19,800บาท) 1,293 (19,700บาท) 1,284 (19,550บาท)
แนวต้าน 1,317 (20,100บาท) 1,328 (20,250บาท) 1,337 (20,400บาท)
GOLD FUTURES (GFG18)
แนวรับ 1,300 (19,930บาท) 1,293 (19,820บาท) 1,284 (19,680บาท)
แนวต้าน 1,317 (20,190บาท) 1,328 (20,360บาท) 1,337 (20,500บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999