ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร “บ. ไทยลักซ์ เอ็นเตอร์ไพรซ์” ที่ “BB” เปลี่ยนแนวโน้ม เป็น “Negative” จาก “Stable” และยกเลิกอันดับเครดิตองค์กร

พุธ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๘ ๑๗:๔๑
ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ไทยลักซ์ เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ "BB" และปรับลดแนวโน้มอันดับเครดิตเป็น "Negative" หรือ "ลบ" จาก "Stable" หรือ "คงที่" การปรับลดแนวโน้มอันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงผลประกอบการทางการเงินของบริษัทที่ต่ำกว่าคาด การลงทุนที่สูงกว่าประมาณการ และความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในการหาเงินทุนมาชำระคืนเงินกู้เดิมที่ครบกำหนด พร้อมกันนี้ ทริสเรทติ้งยกเลิกอันดับเครดิตองค์กรของบริษัทไทยลักซ์ เอ็นเตอร์ไพรซ์ ตามความประสงค์ของบริษัท ดังนั้น อันดับเครดิตของบริษัทที่ประกาศต่อสาธารณชนมาก่อนหน้านี้จะไม่ได้รับการทบทวนอีกต่อไปนับจากวันที่ประกาศนี้

ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2560 ผลประกอบการของบริษัทอ่อนแอลงมาก และต่ำกว่าประมาณการของทริสเรทติ้ง ผลการดำเนินงานของบริษัทได้รับผลกระทบจากความล่าช้าในการดำเนินงานเชิงพาณิชย์ของโรงไฟฟ้าหลายโรงที่บริษัทได้ลงทุนไว้ และค่าใช้จ่ายจำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับการซื้อกิจการ บริษัทมีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการซื้อกิจการในธุรกิจไฟฟ้าประมาณ 98 ล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2560 เงินทุนจากการดำเนินงานของบริษัทยังคงติดลบโดยลดลงมาอยู่ที่ระดับ -37 ล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2560 ลดลงจาก -26 ล้านบาทในปี 2559 ภาระหนี้สินของบริษัทสูงขึ้นมากและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการลงทุนที่เพิ่มขึ้นในธุรกิจไฟฟ้า อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 57.4% ณ เดือนกันยายน 2560 จาก 44.9% ในปี 2559 นอกจากนี้ บริษัทได้ประกาศการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพในประเทศญี่ปุ่นเพิ่มเติมอีกจำนวน 19 โรงเป็นมูลค่า 1,725 ล้านบาท การลงทุนนี้เป็นการลงทุนเพิ่มเติมจากแผนการลงทุนเดิมที่ประกาศไว้จำนวนประมาณ 4,000 ล้านบาทสำหรับการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังความร้อนใต้พิภพและพลังงานลมในช่วงปี 2561-2563 กระแสเงินสดส่วนเกินเพื่อรองรับการชำระหนี้ของบริษัทอ่อนแอมาก อัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่ายอยู่ที่ 0.7 เท่าในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2560 เทียบกับระดับ 1.9 เท่าในปี 2559 และ 9.6 เท่าในปี 2558

บริษัทมีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในการหาเงินทุนเพื่อนำมาชำระคืนเงินกู้เดิมที่ครบกำหนด เนื่องจากผลประกอบการที่อ่อนแอลง และไม่สามารถดำรงเงื่อนไขทางการเงินตามที่ระบุในสัญญาเงินกู้ของธนาคารแห่งหนึ่งได้ อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทเท่ากับ 1.6 เท่า ณ เดือนกันยายน 2560 ซึ่งมากกว่าระดับที่ระบุไว้ในเงื่อนไขสัญญาเงินกู้ที่ 1.5 เท่า บริษัทมีหนี้สินที่จะครบกำหนดชำระจำนวนมากในช่วง 12 เดือนข้างหน้า ซึ่งประกอบด้วยเงินกู้ระยะสั้นจำนวน 378 ล้านบาท และหุ้นกู้จำนวน 986 ล้านบาท บริษัทมีสภาพคล่องบางส่วนจากเงินลงทุนในหลักทรัพย์ในความต้องการของตลาดและเงินลงทุนในตั๋วแลกเงินประมาณ 1,500 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนกันยายน 2560 สำหรับรองรับการชำระคืนหนี้ที่ครบกำหนด

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๒ บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๗:๓๓ รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๗:๔๔ กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๗:๔๒ ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๗:๑๕ กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๗:๑๕ เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๗:๒๙ สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๗:๑๐ GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๗:๔๓ เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๖:๓๖ เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4