“นักลงทุนส่วนใหญ่เชื่อมั่นผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน จากภาวะเศรษฐกิจในประเทศเติบโตต่อเนื่อง

จันทร์ ๑๒ มีนาคม ๒๐๑๘ ๑๘:๑๖
ขณะที่สถานการณ์ทางการเมืองและนโยบายทางการเงินสหรัฐเป็นปัจจัยที่นักลงทุนเฝ้าติดตามดัชนีฯ เดือนมีนาคม 2561 ปรับลดลงโดยอยู่ในภาวะร้อนแรงเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน"

นายกีรติ โกสีย์เจริญ ผู้แทนสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) ประจำเดือนมีนาคม 2561 "ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวลดลง แต่ยังคงอยู่ในภาวะร้อนแรงเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน จากความเชื่อมั่นผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน และภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ นักลงทุนติดตามสถานการณ์ทางการเมือง และนโยบายทางการเงินสหรัฐ เป็นปัจจัยกดดันความเชื่อมั่นมากที่สุด สำหรับตลาดหุ้นไทยเดือนกุมภาพันธ์ ดัชนีฯมีการปรับฐานโดยลดลงค่อนข้างมากในช่วงต้นเดือน หลังจากนั้นทยอยปรับเพิ่มขึ้นตลอดเดือน โดยดัชนีฯปิดทำการ ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์อยู่ในระดับใกล้เคียงกับสิ้นเดือนมกราคม" โดยมีรายละเอียด ดังนี้

ดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 3 เดือนข้างหน้า (พฤษภาคม 2561) อยู่ที่ 143.09 อยู่ในเกณฑ์ "ร้อนแรง" (Bullish) (ช่วงค่าดัชนีระหว่าง 120 - 160) ปรับตัวลดลง 8.70% จากเดือนที่ผ่านมาที่156.62

ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนปรับตัวลดลง โดยกลุ่มบัญชีนักลงทุนต่างประเทศยังคงอยู่ที่ระดับร้อนแรงอย่างมาก กลุ่มสถาบันภายในประเทศและกลุ่มนักลงทุนรายบุคคลปรับตัวลดลงโดยยังคงอยู่ที่ระดับร้อนแรงเช่นเดียวกับเดือนก่อนหน้า ขณะที่กลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ปรับตัวลดลงจากระดับร้อนแรงอย่างมาก มาอยู่ที่ระดับทรงตัว

หมวดธุรกิจที่น่าสนใจมากที่สุด คือ หมวดปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ (PETRO)

ส่วนหมวดธนาคาร (BANK) เป็นหมวดธุรกิจที่ไม่น่าสนใจมากที่สุด

ปัจจัยหนุนที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน

ขณะที่ปัจจัยฉุดที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ สถานการณ์ทางการเมือง

"ภาวะการลงทุนในเดือนกุมภาพันธ์ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ มีการปรับฐานราคาลดลงไปอยู่ต่ำสุดของเดือนที่ 1758.31 จุด ในช่วงต้นเดือน ตามการปรับฐานในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐที่มีการปรับตัวลดลงมากกว่า 1,000 จุด ในวันเดียว อย่างไรก็ตามหลังจากนั้น ดัชนีฯได้ทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้นตลอดเดือน โดยปรับตัวกลับมาอยู่ระดับใกล้เคียงกับดัชนีฯของเดือนมกราคม ในช่วง 1820-1830 จุด ทั้งนี้ ทิศทางการลงทุน ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นจากคาดการณ์ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน จากตัวเลขเศรษฐกิจในประเทศที่มีการเติบโตดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยนักลงทุนหันกลับมาติดตามความชัดเจนของสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศมากขึ้น โดยให้น้ำหนักเป็นปัจจัยความเสี่ยงต่อการลงทุนมากที่สุด รองลงมาได้แก่นโยบายทางการเงินของสหรัฐที่มีแนวโน้มปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมีนาคมและมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งในปีนี้"

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐:๕๙ ซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล ให้การต้อนรับอาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.ศรีปทุม
๒๐:๓๑ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่เพื่อติดตามความก้าวหน้าตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
๒๐:๕๒ Vertiv เปิดตัวดาต้าเซ็นเตอร์ไมโครโมดูลาร์รุ่นใหม่ที่มี AI ในเอเชีย
๒๐:๐๙ พิธีขึ้นเสาเอก เปิดไซต์ก่อสร้าง โครงการ แนชเชอแรล ภูเก็ต ไพรเวท พูลวิลล่า บ้านเดี่ยวบนทำเลทองใจกลางย่านเชิงทะเล
๒๐:๔๖ เขตบางพลัดประสาน รฟท.-กทพ. ปรับภูมิทัศน์ เพิ่มพื้นที่สีเขียวหน้าสถานีรถไฟบางบำหรุ
๒๐:๕๘ ร่วมแสดงความยินดีแก่อธิบดีกรมยุโรป ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิลด์
๒๐:๐๓ กทม. เดินหน้าจัดกิจกรรมริมคลองโอ่งอ่าง ส่งเสริมอัตลักษณ์ กระตุ้นเศรษฐกิจ-การท่องเที่ยว
๒๐:๔๙ พาราไดซ์ พาร์ค ร่วมกับ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก พาคุณไปสัมผัสการนวดเพื่อสุขภาพจาก 4 ภูมิภาคของไทย
๒๐:๒๔ Digital CEO รุ่นที่ 7 เรียนรู้เข้มข้นต่อเนื่อง จากวิทยากรชั้นนำของวงการ
๒๐:๒๔ เด็กไทย คว้ารางวัลระดับโลก โดรนไทย ชนะเลิศนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ทางด้านอากาศยานไร้คนขับ UAV ณ กรุงเจนีวา