(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.32 น. ของวันที่ 30/03/61)
แนวโน้มวันที่ 02 เมษายน 2561
สหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ซึ่งรวมถึงจำนวนผู้ขอสวัสดิการว่างงานที่ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 45 ปี ส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้น โดยระหว่างสัปดาห์ดัชนีดอลลาร์แตะจุดสูงสุดรอบ 1 สัปดาห์ ที่ 90.178 จากปัจจัยต่างๆ ซึ่งรวมถึงความวิตกเกี่ยวกับนโยบายกีดกันการค้าโลกและความคืบหน้าในประเด็นโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือที่ผ่อนคลายลง จนหนุนให้ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้น ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำลง ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาการเคลื่อนไหวของ ดอลลาร์ว่าจะสามารถฟื้นตัวได้มากน้อยเพียงใดเพราะหากเทียบเป็นไตรมาส ดอลลาร์ปรับลงมากกว่า 2% สำหรับไตรมาส1/2561 ซึ่งเป็นการร่วงลงติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 5 ขณะที่สภาพความไม่แน่นอนต่อสงครามการค้ายังคงดำเนินต่อไป โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ได้โยงเรื่องภาษีนำเข้าสำหรับกรณีของแคนาดาและเม็กซิโก กับผลการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรี NAFTA โดยมีกรอบการเจรจารอบต่อไปวันที่ 8 เม.ย. ขณะที่สหภาพยุโรป แคนาดา เม็กซิโก บราซิล ออสเตรเลีย และอาร์เจนติน่า มีเส้นตายอยู่ที่วันที่ 1 พ.ค. ในการบรรลุการเจรจาการค้า เพื่อหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษีเหล็กกล้าและอะลูมิเนียมที่แพงขึ้น ทั้งนี้ ปธน ทรัมป์อาจชะลอข้อตกลงทางการค้าที่เพิ่งบรรลุกับเกาหลีใต้ออกไปจนกว่าจะบรรลุข้อตกลงปลดอาวุธนิวเคลียร์กับเกาหลีเหนือ นอกจากนี้ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยได้รับแรงหนุนจากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับรัสเซีย โดยกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซียประกาศขับนักการทูตสหรัฐจำนวน 60 คนออกจากประเทศ พร้อมมีคำสั่งปิดสถานกงสุลของสหรัฐในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เพื่อตอบโต้สหรัฐที่ได้มีคำสั่งขับนักการทูตชาวรัสเซีย 60 คนก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ระยะสั้น ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบท่ามกลางภาวะซื้อขายเบาบางเนื่องจากตลาดเงินตลาดทุนใน ฮ่องกง, สิงคโปร์, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, ออสเตรเลีย, อังกฤษ, ฝรั่งเศส, เยอรมนี และสหรัฐปิดทำการในวันศุกร์นี้ เนื่องในวัน Good Friday และ ตลาดบางประเทศจะปิดทำการต่อเนื่องในวันจันทร์ที่ 2 เมษายนนี้ ในเทศกาลอีสเตอร์
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีแนะนำให้จับตาว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ถ้าราคาทองคำสามารถทะลุผ่านแนวต้าน และรักษาระดับยืนเหนือกรอบราคาได้ แนะนำนักลงทุนที่ถือทองคำอยู่ให้ถือต่อไป แต่หากไม่ผ่านราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวลงมา ทั้งนี้หากไม่หลุดแนวรับแนะนำให้เข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้นเช่นเดิม โดยให้รอเข้าซื้อหากราคาย่อตัวลงมาและไม่หลุดบริเวณแนวรับที่ 1,313 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งประเมินว่าราคาทองคำยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,333 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 1,346 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,313 (19,350บาท) 1,306 (19,250บาท) 1,298 (19,100บาท)
แนวต้าน 1,333 (19,700บาท) 1,346 (19,850บาท) 1,356 (20,000บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888