และล่าสุดก็ได้เห็นการเข้าไปเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนหลักของรายการ The Face 4 All-Stars ซึ่งถือเป็นรายการดังที่สร้างคอนเทนด์แฟชั่นและเอนเตอร์เทนเมนท์ได้อย่างโดดเด่นในทุกๆ ซีซั่น พร้อมทั้งมีรูปแบบรายการที่ตรงกับ Brand Personality ของ ME ซึ่งซีซั่นที่ 4 นี้ได้ระดมความพิเศษแบบจัดเต็มมาไว้ในรายการ ทั้งเมนเทอร์คนดังที่ขนมาถึง 6 คน และเหล่าผู้เข้าแข่งขันที่นำเอาผู้ที่เคยผ่านการแข่งขันในรายการตั้งแต่ซีซั่นที่ 1-3 ให้ได้กลับมาประชันฝีมือกันอีกครั้ง จึงนับเป็นอีกหนึ่งซีซั่นที่ทุกคนจับตามอง ซึ่งหลังจากออกอากาศมาแล้วประมาณ 6 Episode ก็ได้รับการตอบรับจากผู้ชมเป็นอย่างดี เห็นได้จากกระแสที่มีการพูดถึงอย่างมากในโซเชียล
ME นับเป็นแบงก์แรกๆ ที่เข้าไปเป็นผู้สนับสนุนรายการด้านแฟชั่นและเอนเตอร์เทนเมนท์ โดยสนับสนุนเงินรางวัลให้ผู้ชนะเป็นจำนวนเงิน 1,000,000 บาท พร้อมทั้งได้ร่วมเป็น Commentator ในการมอบโจทย์ และตัดสินการแข่งขันทั้งในช่วง Master Class และ Campaign โดยการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของรายการนั้น ME จะให้ทางผู้เข้าแข่งขันได้ทำโจทย์เพื่อพรีเซ็นต์คอนเซ็ปของ ME คือ "Always Get MORE" โดยคุณไม่ต้องทำอะไรมาก แต่คุณได้รับผลตอบแทนที่มากนั่นเอง หรือทำน้อยแต่ได้มาก ซึ่งเป็นความท้าทายสำหรับเมนเทอร์ที่จะต้องตีโจทย์ และนำเสนอโชว์ออกมาให้ดูโดดเด่น เรียบ เท่ห์ และดู MORE ผ่าน Brand Personality ของ ME คือ เป็นคนฉลาด สมาร์ท เท่ห์ และมีสไตล์เป็นของตนเอง และที่สำคัญทำอย่างไรให้แบงก์กิ้งเป็นแฟชั่น เป็นเรื่องสนุก เป็นเกมส์ตามรูปแบบของรายการ ซึ่งจะทำให้ผู้ชมสนุกและมีส่วนร่วมไปกับเกมส์โดยไม่รู้ตัว และในขณะเดียวกันก็สอดแทรกทัศนคติที่ดีต่อการออมเงินด้วย
การเข้าไปเป็นผู้สนับสนุนหลักของรายการ The Face 4 All-Stars ในครั้งนี้ เป็นการสื่อสารแบรนด์ให้ออกมาในลักษณะของการทำ Branded Content ซึ่งเป็นการสื่อสารในรูปแบบที่ทำให้ภาพของการโฆษณาและความบันเทิงไม่ได้แยกตัวออกจากกันอย่างชัดเจน กล่าวคือ ขณะที่ผู้ชมกำลังเพลิดเพลินกับความบันเทิงที่ได้รับก็จะซึมซับตัวแบรนด์ หรือสินค้าและบริการนั้นไปแบบไม่รู้ตัวด้วยความเนียนไปกับเนื้อหาโดยไม่รู้สึกว่าถูกรบกวน แน่นอนว่า การทำ Branded Content กับรายการ The Face นั้น นอกจากผู้ชมจะได้รับรู้ถึงคอนเซปต์ที่แบรนด์ต้องการสื่อสารแล้ว ในขณะเดียวกัน เบรนด์ได้นำตัวเองเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นแมส พร้อมทั้งขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้นอีกด้วย
ME นับเป็นผู้พลิกรูปแบบธนาคารที่ฉีกทุกกฎการธนาคารรูปแบบเดิม ตั้งแต่ตัวผลิตภัณฑ์เงินฝาก ที่นำเสนอคอนเซปต์ "Self-Service Banking to Get MORE" ดิจิทัลแบงก์กิ้งให้คุณทำธุรกรรมด้วยตนเอง ได้ทุกที่ ทุกเวลา ผ่านช่องทางออนไลน์ แอปพลิเคชัน และบริการ Call Center เพื่อผลตอบแทนที่มากกว่า ไม่มีสมุดบัญชี ไม่ต้องไปสาขา และการทำการตลาดแบบ Disruptive ฉีกและแตกต่าง เป็นธนาคารที่พูดมากกว่าเรื่องเงิน โดยสะท้อนแง่มุมที่เป็นไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวันที่ใกล้ตัวจนเราคาดไม่ถึงว่าจะเกี่ยวข้องกันได้ เช่น แคมเปญเติมน้ำมันฟรี เพียงเติมด้วยตนเอง ซึ่งสะท้อนการเป็นบัญชีเงินฝากที่ลูกค้าทำธุรกรรมด้วยตัวเองแล้วจะได้ผลตอบแทนที่มากกว่า หรืออย่างแคมเปญปลุกเงินให้ตื่น ซึ่งได้รับ Guinness World Record แคมเปญเปิดตัวน้ำหอมกลิ่นความความสำเร็จ และแคมเปญนี้ ME is MORE ที่ออกมาเพื่อตอกย้ำให้เห็นถึงการให้ผลตอบแทนที่มากกว่าของ ME เมื่อเทียบกับบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ทั่วไป
ดังนั้น ความน่าสนใจในการทำตลาดในขวบปีที่ 7 ของ ME by TMB นอกจากเป้าหมายในการสร้างตัวเลขเติบโตของลูกค้าใหม่ไม่ต่ำกว่า 20% แล้ว ยังอยู่ที่การขยายบริการทางการเงินใหม่ๆ ตลอดจนการทำการตลาดให้ครอบคลุมไลฟ์สไตล์ทางการเงินของคนรุ่นใหม่ ทำให้การขยับตัวของ ME แต่ละครั้งถูกจับตามองพร้อมๆ กับให้ความสนใจว่าจะมีการสร้างปรากฏการณ์ที่แปลกใหม่ชนิดฉีกกฎของการทำตลาดผลิตภัณฑ์การเงินแบบไม่เคยมีใครทำมาก่อนอีกหรือไม่