บลจ.กสิกรไทย จ่ายปันผล 4 กองทุนต่างประเทศ รวมกว่า 355 ล้านบาท กำหนดจ่ายเงิน 14 พ.ค.นี้

จันทร์ ๑๔ พฤษภาคม ๒๐๑๘ ๐๘:๓๐
นายนาวิน อินทรสมบัติ Chief Investment Officer (รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุนต่างประเทศ) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า บลจ.กสิกรไทยมีกำหนดจ่ายเงินปันผลกองทุนต่างประเทศจำนวน 4 กองทุน ประกอบด้วย กองทุนเปิดเค ยูเอสเอ หุ้นทุน (K-USA) ในอัตรา 0.20 บาทต่อหน่วย สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2560 - 30 เมษายน 2561 กองทุนเปิดเค ยูโรเปียน หุ้นทุน (K-EUROPE) ในอัตรา 0.20 บาทต่อหน่วย สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2560 - 30 เมษายน 2561 กองทุนเปิดเค เอเชียน สมอลเลอร์ หุ้นทุน (K-ASIA) ในอัตรา 0.20 บาทต่อหน่วย สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 - 30 เมษายน 2561 และกองทุนเปิดเค อินเดีย หุ้นทุน (K-INDIA) ในอัตรา 0.20 บาทต่อหน่วย สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2561 - 30 เมษายน 2561 โดยทั้ง 4 กองทุนจะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีรายชื่ออยู่ในสมุดทะเบียน ณ เวลา 8.00 น. ของวันที่ 30 เมษายน 2561 และมีกำหนดจ่ายเงินปันผลพร้อมกันในวันที่ 14 พฤษภาคม 2561 รวมมูลค่าเงินปันผลทั้งสิ้นกว่า 355.54 ล้านบาท

นายนาวินกล่าวเพิ่มเติมว่า ผลการดำเนินงานของกองทุน K-USA มีความโดดเด่นโดยสามารถเอาชนะเกณฑ์มาตรฐานได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ทั้งนี้ในรอบ 1 ปีบัญชีที่ผ่านมามีการจ่ายปันผลรวมทั้งสิ้นคิดเป็นเป็นอัตราจ่ายปันผลเฉลี่ยอยู่ที่ 7.2% ต่อปี โดยผลการดำเนินงานย้อนหลัง 6 เดือน ให้ผลตอบแทนที่ 9.18% เอาชนะเกณฑ์มาตรฐานซึ่งอยู่ที่ 2.22% และผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1 ปีให้ผลตอบแทนที่ 18.78% เอาชนะเกณฑ์มาตรฐานซึ่งอยู่ที่ 10.37% (ข้อมูล ณ วันที่ 30 เม.ย. 61)

"สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในช่วงที่ผ่านมา ตัวเลขประมาณการรอบแรกของ GDP ไตรมาส 1/2561 แม้จะชะลอตัวจากผลกระทบของการใช้จ่ายผู้บริโภค แต่ดัชนีที่สำคัญทางเศรษฐกิจที่ทยอยประกาศออกมาส่วนใหญ่ชี้ถึงการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง สนับสนุนแนวโน้มการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่วนผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไตรมาสแรกส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าคาด สะท้อนมุมมองเชิงบวกต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ แต่ระดับราคาหุ้นที่ค่อนข้างแพง ทำให้ความน่าสนใจยังมีน้อยกว่าภูมิภาคอื่นในเชิงเปรียบเทียบ และยังคงต้องจับตามาตรการทางภาษีเพื่อกีดกันการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน" นายนาวินกล่าว

นายนาวินกล่าวต่อไปว่า สำหรับผลดำเนินงานของกองทุน K-ASIA มีผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน อยู่ที่ 5.33% เอาชนะเกณฑ์มาตรฐานซึ่งอยู่ที่ 3.18% ขณะที่กองทุน K-INDIA มีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นในช่วง 3 ปี และ 5 ปีย้อนหลัง โดยช่วง 3 ปีให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 10.29% ต่อปี เอาชนะเกณฑ์มาตรฐานที่ 8.63% ต่อปี และช่วง 5 ปี ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 12.49% ต่อปี เอาชนะเกณฑ์มาตรฐานที่ 9.30% ต่อปี (ข้อมูล ณ วันที่ 30 เม.ย. 61) ด้านภาพรวมเศรษฐกิจเอเชียยังคงเติบโตด้วยแรงหนุนจากการปฏิรูปของภาครัฐบาล รวมถึงการบริโภคภายในประเทศที่ขยายตัวได้ดี บวกกับอานิสงส์จากการส่งออกที่แข็งแกร่งซึ่งเป็นผลมาจากการที่เศรษฐกิจทั่วโลกเติบโตสอดคล้องกัน ส่งผลบวกต่อกำไรบริษัทจดทะเบียน และระดับราคายังถือว่าไม่แพงมากนักเมื่อเทียบกับหุ้นในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว ขณะที่เศรษฐกิจอินเดียปีนี้มีแนวโน้มฟื้นตัวจากปีที่แล้ว หลังได้รับผลกระทบจากการประกาศใช้ภาษีสินค้าและบริการที่ประกาศใช้ในปีที่ผ่านมา ด้านการปฏิรูปเศรษฐกิจในระยะยาวจากภาครัฐยังคงดำเนินต่อไปแต่คาดว่ายังไม่มีวาระใหม่ที่มีนัยยะพอต่อ sentiment ตลาด ทั้งนี้เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของภาคการลงทุนและรัฐบาลที่ยังคงหามาตรการต่างๆ เพื่อออกมาควบคุมปัญหาขาดดุลงบประมาณ ขณะที่ระดับราคาหุ้นแม้จะปรับตัวลงมา แต่ก็ยังสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตและโอกาสที่ตลาดจะปรับตัวแรงอย่างปีที่แล้วน่าจะมีจำกัด

ด้านผลการดำเนินงานกองทุน K-EUROPE ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี และ3 ปี อยู่ที่ 1.16% และ 3.93% ต่อปี ตามลำดับ เอาชนะเกณฑ์มาตรฐานซึ่งอยู่ที่ 0.53% และ 2.27% ต่อปี ตามลำดับ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 เม.ย. 61) ส่วนเศรษฐกิจของประเทศในภูมิภาคยุโรปมีแนวโน้มเติบโตไปในทิศทางเดียวกัน โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตที่ยืนเหนือระดับ 60 จุด ครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี สะท้อนการเติบโตที่แข็งแกร่ง ประกอบกับการคงนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางยุโรปยังสนับสนุนสภาพคล่องไปอย่างน้อยถึงไตรมาส 3 ของปีนี้ ส่วนประเด็นความเสี่ยงทางการเมืองลดลงและการเจรจา Brexit คืบหน้าไปในทางบวก ประกอบกับระดับราคาหุ้นที่สมเหตุสมผลและยังอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับสหรัฐฯ ทำให้หุ้นยุโรปมีความน่าสนใจ รวมถึงหุ้นยุโรปตัวเล็กที่มีรายได้ส่วนใหญ่จากในภูมิภาคเป็นหลักและมีแรงหนุนจากอุปสงค์ภายในที่แข็งแกร่ง

ผู้ลงทุนที่สนใจกองทุน K-USA กองทุน K-ASIA กองทุน K-INDIA และกองทุน K-EUROPE สามารถติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือติดต่อ KAsset Contact Center 02673 3888

กองทุน รอบผลการดำเนินงาน อัตราเงินปันผล (บาท/หน่วย)

K-USA 1พฤษภาคม2560 -30เมษายน2561 0.20

K-EUROPE 1สิงหาคม2560 -30เมษายน2561 0.20

K-ASIA 1พฤศจิกายน2560 -30เมษายน2561 0.20

K-INDIA 1กุมภาพันธ์2561 - 30เมษายน2561 0.20

*คิดจาก NAV วันที่ 30 เม.ย. 61

ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงของกองทุนได้ที่ www.kasikornasset.com หรือ บลจ.กสิกรไทย หรือธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือขอข้อมูลดังกล่าวจากบุคคลที่เสนอขายหน่วยลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ ทั้งนี้เนื่องจากกองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนจึงอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๙ เม.ย. บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๙ เม.ย. รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๙ เม.ย. กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๙ เม.ย. ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๙ เม.ย. กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๙ เม.ย. เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๙ เม.ย. สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๙ เม.ย. GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๙ เม.ย. เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๙ เม.ย. เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4