สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 13 มิถุนายน 2561

พุธ ๑๓ มิถุนายน ๒๐๑๘ ๑๗:๓๐
สภาวะตลาดวันที่ 13 มิถุนายน 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,293.20-1,296.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,750 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาทรงตัวจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,750 บาทต่อบาททองคำ

(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.15 น. ของวันที่ 13/06/61)

แนวโน้มวันที่ 14 มิถุนายน 2561

ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ แสดงท่าทีความขัดแย้งด้านการค้ากับประเทศคู่ค้า โดยระบุว่าเขาจะไม่ปล่อยให้ประเทศเหล่านั้นฉวยประโยชน์จากสหรัฐต่อไป ความล้มเหลวของการประชุมสุดยอด G7 เผยให้เห็นถึงความรุนแรงของความขัดแย้งทางการเมืองและความเสี่ยงที่อาจรอคอยอยู่เบื้องหน้า ปธน.ทรัมป์ ของสหรัฐตำหนิหลายต่อหลายครั้งเกี่ยวกับยอดขาดดุลการค้าจำนวนมากของสหรัฐกับนานาประเทศ โดยเฉพาะกับเยอรมนีซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ในการส่งออกภาคการผลิต และขู่ว่าจะลงโทษด้วยการเก็บภาษีต่อยุโรป ขณะที่นายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนีระบุว่า สหรัฐมียอดเกินดุลการค้าจำนวนมากกับยุโรปหากรวมภาคบริการเข้าไปด้วย พร้อมเสริมว่า ระบบคำนวณการค้าระหว่างประเทศที่มีอยู่ล้าสมัยไปแล้ว ทั้งนี้ การกำหนดภาษีนำเข้าเหล็กกล้าและอะลูมิเนียมของสหรัฐและความเป็นไปได้ในการเพิ่มภาษีนำเข้ายานยนต์ เป็นการละเมิดกฎระเบียบระหว่างประเทศอย่างชัดเจน แนวโน้มดังกล่าวกระตุ้นแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย นอกจากนี้ นักลงทุนจะจับตามองการประชุมกำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพฤหัสบดีซึ่ง ECB อาจจะส่งสัญญาณความตั้งใจในการเริ่มลดแผนการซื้อพันธบัตร ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 3 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน ซึ่งอาจจะเป็นแรงหนุนทองคำด้วยการหนุนยูโรและทำให้ดอลลาร์อ่อนลง ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายเห็นพ้องว่าการซื้อพันธบัตรรัฐบาลดังกล่าวควรยุติภายในปีนี้ แต่นายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB ได้หลีกเลี่ยงการหารืออย่างเป็นทางการใดๆเกี่ยวกับการยุติโครงการดังกล่าว เบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่า อาจต้องรอดูการเคลื่อนไหวของราคาทองคำว่าจะสามารถยืนในบริเวณ 1,307-1,315 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่งหรือไม่ หากสามารถยืนได้ประเมินว่าราคาทองคำจะขยับขึ้นชนแนวต้านในโซน 1,325 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในขณะที่หากราคาทองคำไม่สามารถยืน 1,315 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนต้องระมัดระวังการอ่อนตัวของราคาทองคำ

กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจี มีมุมมองว่าราคาทองคำยังอยู่ในช่วงการแกว่งตัวเพื่อสะสมกำลังในระยะสั้น แต่หากราคาทองคำดีดตัวขึ้นไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,307-1,315 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือไม่สามารถยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้ อาจเกิดแรงขายทำกำไรระยะสั้นออกมา หากราคาทองคำย่อตัวลงมา ประเมินแนวรับที่ 1,285-1,282 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาสามารถยืนเหนือแนวต้าน 1,307-1,315 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ราคาก็พร้อมขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ระดับ 1,325 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในระยะสั้น แนะนำให้เล่นในกรอบ โดยรอจังหวะเปิดสถานะซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณแนวรับ และขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นไปบริเวณแนวต้าน

ทองคำแท่ง (96.50%)

แนวรับ 1,282 (19,500บาท) 1,271 (19,300บาท) 1,263 (19,200บาท)

แนวต้าน 1,307 (19,900บาท) 1,315 (20,050บาท) 1,325 (20,200บาท)

หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๔:๐๔ กลุ่ม KTIS จับมือ Marubeni ประสานความร่วมมือในการขายเครดิตพลังงานหมุนเวียน (REC)
๑๔:๒๐ ผู้ถือหุ้น TIDLOR อนุมัติจ่ายปันผลเป็นหุ้น-เงินสด อัตรา 27 หุ้นสามัญ : 1 หุ้นปันผล พร้อมจ่ายเงินสด 0.2698 บ./หุ้น เตรียมขึ้น XD วันที่ 24 เม.ย. 67 รับทรัพย์ 14
๑๔:๔๙ สมาคมประกันวินาศภัยไทย ร่วมแถลงข่าวเปิดตัว โครงการพัฒนาระบบแบ่งปันฐานข้อมูลการฉ้อฉลประกันภัย
๑๔:๑๐ สสวท. เติมความรู้คู่กีฬากับ เคมีในสระว่ายน้ำ
๑๓:๐๓ ฉุดไม่อยู่! ซีรีส์ Kiseki ฤดูปาฏิหาริย์ กระแสแรง ขึ้น TOP3 บน Viu ตอกย้ำความฮอต
๑๔:๒๔ TM บริจาคอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับศูนย์ดูแลผู้สูงอายุพระราม 9
๑๔:๑๒ ผถห. JR อนุมัติจ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น พร้อมโชว์ Backlog แน่น 9,243 ลบ.
๑๔:๕๐ กรุงศรี ร่วมมือ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ พัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ และเสริมสร้างประสบการณ์ในโลกธุรกิจ
๑๔:๓๔ ธนาคารกรุงเทพรายงานกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 1 ปี 2567 จำนวน 10,524 ล้านบาท
๑๔:๑๔ กรุงศรี ร่วมมือ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ พัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ และเสริมสร้างประสบการณ์ในโลกธุรกิจ