“บล.แอพเพิล เวลธ์” คาดหุ้นไทยเดือนก.ค.รีบาวน์กลับ” แนะจับตาทิศทาง Dollar Index หากแข็งค่าไม่เกินระดับ 95 มีลุ้นทะยานกลับ 80-100 จุด

อังคาร ๐๓ กรกฎาคม ๒๐๑๘ ๑๐:๐๔
บล.แอพเพิล เวลธ์ เผยหุ้นไทยเดือน ก.ค. ฝากอนาคตไว้ที่ทิศทางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐชี้ หาก Dollar Indexแข็งค่าไม่เกินกว่าระดับ 95 ดัชนีหุ้นมีลุ้น รีบาวน์กลับ 80-100 จุด แนะซื้อบริเวณ 1,580 จุด ในหุ้นกลุ่มแบงก์ BBL, KKP ,กลุ่ม Domestic Play เช่น CPALL , ADVANC , กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง & นิคมฯ เช่น CK , STEC , AMATA และกลุ่มส่งออก เช่นCPF , GFPT , KCE

นายอภิชัย เรามานะชัย รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ แอพเพิล เวลธ์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงที่ผ่านมาปรับตัวลดลง หลุดแนวรับสำคัญที่ 1,730 จุด และปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง ต่ำกว่าแนวรับที่ประเมินไว้เบื้องต้นที่ 1,680 จุด ส่งผลให้โครงสร้างทางเทคนิคของ SET เป็นขาลงยาว โดยมีแนวรับถัดไปบริเวณ 1,580 – 1,600 จุด ประกอบกับ RSI Indicator เริ่มเข้าสู่ระดับ Oversold ที่มีนัยสำคัญ จากประเด็นกระแสเงินทุนไหลออก หลังจากเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งภายในปีนี้ ซึ่งอาจจะส่งผลให้ดอกเบี้ยสหรัฐสูงกว่าไทยราว 75 bps – 100 bps ขณะที่ประเด็นมาตรการกีดกันการค้าการลงทุนระหว่างสหรัฐกับจีนกดดัน ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติยังลดความเสี่ยงการลงทุนในตลาดเกิดใหม่ และทำให้ภาวะการลงทุนในเดือน มิ.ย.61 ที่ผ่านมาดัชนีหุ้นไทยปิด ลดลง7.60 % จากเดือนพ.ค. 2561

สำหรับทิศทาง Fund Flow ของนักลงทุนต่างชาติช่วง 6 เดือนแรก ที่ผ่านมายังคงขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยจำนวน 5,727 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ยังซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตรไทยจำนวน 3,482 ล้านเหรียญสหรัฐ ปัจจัยสำคัญ มาจากแรงกดดันของทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐที่จะปรับขึ้นอีก 2 ครั้งภายในปีนี้ ส่งผลให้ดอกเบี้ยสหรัฐในช่วงปลายปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 2.375% ขณะที่ดอกเบี้ยนโยบายไทยหากปรับขึ้น 1 ครั้งภายในปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 1.75% ดังนั้นส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ย Real Interest rate สหรัฐอยู่ที่ 0.375% เทียบกับไทยที่ 0.23% ส่งผลให้ทิศทางเงินทุนต่างชาติยังมีโอกาสไหลออกจากตลาดเงินตลาดทุนไทย

ขณะที่ปัจจัยการลงทุนในเดือน ก.ค. นี้ ต้องติดตามทิศทาง Dollar Index ว่าจะแข็งค่าเกินระดับ 95 หรือไม่ หากดอลลาร์สหรัฐยังแข็ง ค่าจะส่งผลลบต่อ Fund Flow ในตลาดเกิดใหม่ รวมถึง ประเด็นมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐต่อจีน หากยืดเยื้อจนมีการขึ้นภาษีต่อกันระดับ 2 แสนดอลลาร์สหรัฐ อาจจะส่งผลลบต่อการค้าโลก รวมถึงข้อจำกัดการลงทุนของต่างชาติในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสหรัฐ

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิเคราะห์ประเมินความเสี่ยง ว่าการปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นไทย น่าจะเริ่มลดลง และคาดว่าสหรัฐคงไม่ใช้มาตรการกีดกันการค้าจนถึงขนาดเกิดวิกฤตค่าเงินหยวนและการขายพันธบัตรสหรัฐมูลค่า 1.18 ล้านล้านดอลลาร์ที่จีนถืออยู่ ทั้งนี้ ประเมินแนวรับที่ระดับ 1,540 – 1,595 จุด ( Forward P/E 14.0 – 14.5x ) แนะซื้อ ในกลุ่มธนาคาร BBL, KKP ( สินเชื่อขยายตัวดี และน่าจะได้รับผลกระทบจากฟรีค่าธรรมเนียมโอนน้อย ), กลุ่ม Domestic Play เช่น CPALL , ADVANC , กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง & นิคมฯ เช่น CK , STEC , AMATA และกลุ่มส่งออก เช่นCPF , GFPT , KCE

" หากมีการยืนยันจุดต่ำสุดบริเวณ 1,580 – 1,600 จุด จริง ดัชนี SET มีโอกาส Rebound กลับ ราว 80 - 100 จุด ประเด็นที่ต้องระวังคือ ดัชนี Dollar Index จะต้องไม่แข็งค่าเกินกว่าระดับ 95 ซึ่งอาจจะส่งผลให้ดัชนี SET มีโอกาสผันผวนขาลงมากกว่าแนวรับที่ประเมินไว้ แนะนำซื้อ ณ ดัชนีบริเวณ 1,580 จุด"นายอภิชัย กล่าวในที่สุด

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๒ บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๗:๓๓ รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๗:๔๔ กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๗:๔๒ ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๗:๑๕ กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๗:๑๕ เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๗:๒๙ สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๗:๑๐ GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๗:๔๓ เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๖:๓๖ เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4