(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.03 น. ของวันที่11/07/61)
แนวโน้มวันที่ 12 กรกฎาคม 2561
ความตึงเครียดของสงครามการค้าที่ทวีความร้อนแรงขึ้น เมื่อคณะบริหารภายใต้การนำของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐระบุว่า เตรียมเรียกเก็บภาษี 10% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มเติมอีกมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งครอบคลุมถึงสินค้าจำนวน 6,031 รายการ ตั้งแต่สินค้าเพื่อผู้บริโภคไปจนถึงสินค้าด้านการเกษตร โดยมาตรการล่าสุดนี้อาจจะมีผลบังคับใช้ในเดือนก.ย. ทางด้านกระทรวงพาณิชย์จีนได้ออกแถลงการณ์ในเวลาต่อมาว่า จีนจะใช้มาตรการตอบโต้ และจะนำเรื่องดังกล่าวฟ้องร้องต่อองค์การการค้าโลก (WTO) อย่างไรก็ดี ดัชนีดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นไม่มากและหยวนอ่อนค่าลงเล็กน้อย เนื่องจากการเก็บภาษีระลอกใหม่จะยังไม่มีผลบังคับใช้ในช่วงเดือนสิงหาคม ราคาทองคำจึงได้รับแรงกดดันไม่มากนัก ทั้งนี้ พันธมิตรองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) จัดการประชุมสุดยอดเป็นเวลา 2 วัน ในวันพุธและวันพฤหัสนี้ โดยพิจารณายกระดับด้านทหารให้แข็งแกร่งมากที่สุดนับตั้งแต่สงครามเย็นและวางแผนขยายการควบคุมอำนาจของรัสเซียเพิ่มเติม การประชุมดังกล่าวอาจสร้างความตึงเครียดระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น หากปธน.ทรัมป์หยิบยกประเด็นการใช้จ่ายด้านกลาโหมเข้าสู่ที่ประชุม รวมทั้งการกล่าวหาว่า รัสเซียพยายามบั่นทอนเสถียรภาพตะวันตกด้วยการโจมตีทางไซเบอร์และพฤติกรรมซ่อนเร้น หากประเด็นดังกล่าว สร้างความตึงเครียดระหว่างประเทศ ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยก็จะได้รับแรงหนุนเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์ เดินทางถึงกรุงบรัสเซลล์ ประเทศเบลเยียม ตั้งแต่เมื่อช่วงค่ำของวันอังคาร เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำนาโต้ โดยหลังจากนั้นจะเดินทางเยือนสหราชอาณาจักร และพบปะหารือกับนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ในกรุงเฮลซิงกิของฟินแลนด์ ตามลำดับ เบื้องต้นประเมินว่าหากราคาทองคำทดสอบแนวต้านที่ 1,261 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 1,270 ดอลลาร์ต่อออนซ์และยังไม่สามารถผ่านได้ นักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขาย นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบางส่วนออกมาบ้าง
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำยังมีการเคลื่อนไหวในแบบ Sideway หรือแกว่งตัวออกด้านข้าง แนะนำรอจังหวะเข้าซื้อ โดยสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้มากอาจเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณ 1,247 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้น้อยแนะนำให้รอดูบริเวณโซนแนวรับสำคัญ 1,237 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และรอขายทำกำไรบางส่วนบริเวณแนวต้านแรกที่ 1,261 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนที่เหลือให้รอทำกำไรบริเวณแนวต้านถัดไปที่ 1,270 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ เพื่อลดความเสี่ยงพอร์ตการลงทุน ซึ่งหากนักลงทุนไม่มีวินัยในการลงทุนที่จะตัดขาดทุน จะทำให้เกิดความเสียหายที่ไม่อาจควบคุมได้อีกต่อไป
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,247 (19,600บาท) 1,237 (19,450บาท) 1,222 (19,200บาท)
แนวต้าน 1,261 (19,850บาท) 1,270 (20,000บาท) 1,278 (20,150บาท)
GOLD FUTURES (GFQ18)
แนวรับ 1,247 (19,800บาท) 1,237 (19,640บาท) 1,222 (19,400บาท)
แนวต้าน 1,261 (20,020บาท) 1,270 (20,170บาท) 1,278 (20,290บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999