“AECS ”มองหุ้นไทยได้แรงหนุนสหรัฐ-ยุโรปยุติเก็บภาษีสินค้าอุตฯ ให้กรอบดัชนี 1,680-1,725 – แนะลงทุนหุ้นQ2กำไรดี

พุธ ๐๑ สิงหาคม ๒๐๑๘ ๑๕:๑๗
บล.เออีซี (AECS) มองหุ้นไทยได้อานิสงส์ สหรัฐฯ - ยุโรปจับมืออยุติการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าอุตสาหกรรมที่ไม่รวมรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ แนะจับตาผลการประชุมเฟด และการประชุมของ 5 5 ประเทศผู้ผลิตยานยนต์รายใหญ่ของโลก EU ให้กรอบดัชนี 1,680-1,725 จุด แนะลงทุนหุ้นผลการดำเนินงานไตรมาส 2/61 เด่น ชู HMPRO-SPALI- ANAN-QH-AP-SC-ORI-SNC-TKS-KKP-MC-SMPC

บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) หรือ AECS เปิดเผยว่า ทิศทางการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในช่วงสัปดาห์นี้ (1-3 ส.ค.) คาดได้รับ Sentiment เชิงบวก หลังสหรัฐฯ และยุโรปตกลงที่จะร่วมมือกันเพื่อเตรียมยุติการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าอุตสาหกรรมที่ไม่รวมรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ ส่งผลให้นักลงทุนคลายความกังวลสงครามการค้าระหว่างสองฝ่าย

อย่างไรก็ดีในมุมมองทางเทคนิคตลาดหุ้นไทยรอบนี้รีบาวด์ขึ้นกว่า 100 จุด จากระดับต่ำสุด 1,584 จุด ซึ่งสัปดาห์นี้ SET Index มีโอกาสติดแนวต้านสำคัญ Downtrend Lineที่ 1,725 จุด คาดชะลอการปรับขึ้นต่อ และต้องระวังแรงขายทำกำไร

ส่วนปัจจัยต่างประเทศที่ยังคงต้องจับต่อเนื่อง อาทิ การประเมินผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 31 ก.ค. – 1 ส.ค. นี้โดยแม้ข้อมูลจาก Fed Fund Futures คาดจะยังไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งนี้ แต่ยังมีความไม่แน่นอนในส่วนของการดำเนินนโยบายการเงินในช่วงที่เหลือของปีนี้ เนื่องจากล่าสุดตัวเลข เศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาค่อนข้างแข็งแกร่งกว่าที่ตลาดคาด อาจนำไปสู่การขึ้นดอกเบี้ยที่เร่งตัวมากขึ้น

รวมทั้งการประชุมระหว่าง 5 ประเทศผู้ผลิตยานยนต์รายใหญ่ของโลก EU, แคนาดา เม็กซิโก เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ที่กรุงเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ เพื่อเตรียมมาตรการโต้ตอบและแผนรับมือหากสหรัฐฯ มีการเก็บภาษีนำเข้ายานยนต์เพิ่ม ตามผลสืบสวนตามมาตรา 232 ที่มีกำหนดเสร็จสิ้นช่วงสิ้นเดือน ส.ค. สร้างความไม่แน่นอนให้กับหุ้นกลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์

ขณะที่ปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และ จีนที่ยังไม่มีสัญญาณเชิงบวกต่อการเจรจารอบใหม่ จากเงื่อนไขของสหรัฐฯ ที่ตั้งไว้ค่อนข้างเข้มงวด เพิ่มการนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ และ ยกเลิกสนับสนุนบริษัทเทคโนโลยี จึงแนะนำกลยุทธ์การลงทุนติดตามประเด็นดังกล่าวอย่างใกล้ชิดและเพิ่มความระมัดระวังความผันผวนที่มาจากปัจจัยต่างประเทศ

ดังนั้นประเมินว่าสัปดาห์นี้ SET Index มีโอกาสติดแนวต้านสำคัญ Downtrend Line ที่ 1,725 จุด คาดชะลอการปรับขึ้นต่อ และต้องระวังแรงขายทำกำไร และแนะนำ"Selective Buy" ในหุ้นมูลค่าไม่แพงและกำไรยังโตสดใส ดังนี้ 1.หุ้นค้าปลีกที่ช่วงไตรมาส 2/2561 ประกาศกำไรโตแกร่ง เช่น HMPRO กำไรโต 16.0% จากปีก่อน 2. หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่คาดกำไรยังสดใสในไตรมาส 2/2561 เช่น SPALI, ANAN, QH, AP, SC, ORI และ3. หุ้นที่จ่ายปันผล(Div. Yield) สูงเกินปีละ 5% เช่น SNC, TKS, KKP, MC, SMPC

ส่วนในทางเทคนิคมองต่อเนื่องสัปดาห์นี้ SET จะขยับทดสอบแนวต้าน 1,715-1,725 จุด ตามลำดับ อย่างไรก็ดีควรระวังแรงขายแนวต้าน มองการขึ้นทดสอบแนวต้านของSET เป็นโอกาสขายทำกำไร หรือกำหนด Trailing Stop กรณีปิดต่ำกว่า 1,680 จุด โดยกลุ่มที่คาดจะ Outperform สัปดาห์นี้ เลือกกลุ่มพาณิชย์ COMM มีหุ้นที่น่าสนใจ ได้แก่ROBINS , MC , GLOBAL และกลุ่มพลังงาน ENERG ได้แก่ ESSO , BPP

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๑:๓๘ โอซีซี มอบฝาขวดน้ำ เพื่อทำเก้าอี้ให้น้อง ๆ ในโรงเรียนขาดแคลน
๑๑:๑๘ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จับมือมหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดศูนย์ทดสอบหลักสูตร CISA ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
๑๑:๓๕ 'ราชบุรี มีลาย' อนุรักษ์มรดกแห่งภูมิปัญญาท้องถิ่น ชูอัตลักษณ์ 'ลายผ้าราชาบุรี (กาบโอ่งนกคู่) รองผู้ว่าฯ เมืองโอ่ง
๑๑:๕๓ พีทีที สเตชั่น ร่วมกับ ทิพยประกันภัย มอบความสะดวกและรวดเร็ว ซื้อประกันภัยผ่าน QR Code
๑๑:๐๙ FTI จัดงานประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2567 ผถห.อนุมัติจ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น
๑๐:๑๙ รมว.อว. เป็นประธานเปิดบูธนิทรรศการผลงาน @ Thai Pavilion พร้อมให้กำลังใจนักประดิษฐ์ไทย นำเสนอผลงานสิ่งประดิษฐ์นานาชาติเจนีวา ครั้งที่
๑๐:๔๖ BRIDGESTONE TURANZA T005 EV ยางพรีเมียมสมรรถนะสูงสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า เหนือระดับด้วยเทคโนโลยี ENLITEN(R)ได้รับเลือกเป็นยางล้อมาตรฐานติดตั้งในรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ MG4 XPOWER
๐๙:๑๔ อพท. เปิดรับสมัคร สุดยอดนวัตกรรมเพื่อการท่องเที่ยวยั่งยืน เพื่อพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ชิงเงินรางวัลกว่า 130,000
๐๙:๔๑ หนังสือ Royal Thai Cuisine ตำรับอาหารไทยชาววัง วิทยาลัยดุสิตธานี
๑๘ เม.ย. เด็ก ม.กรุงเทพ ยกทีม คว้าชนะเลิศครีเอทคลิปสั้นได้ใจฟูมาก