บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) หรือ AECS เปิดเผยว่า ทิศทางการลงทุนในตลาดหุ้นไทย Technical View คาด SET Index สัปดาห์แกว่งตัวSideway เพื่อขึ้นไปทดสอบแนวต้าน Major Downtrend line ที่ 1,717 จุด แต่ยังให้น้ำหนักในทางลงมากกว่าโดยคาดจะถูกแรงเทขายทำกำไรบริเวณแนวต้านดังกล่าว กดดัชนีลงมาบริเวณแนวรับ Gap 1,680 จุด
ส่วนตลาดหุ้นต่างประเทศจะมีแนวโน้มเคลื่อนไหวแบบ Sideway แม้จะมีปัจจัยบวกจากแถลงการณ์จากนายเจอโรม พาวเวล เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาแสดงถึงมุมมองเชิงบวกต่อการขยายตัวของ เศรษฐกิจ และยืนยันที่จะทยอยขึ้นดอกเบี้ยนโยบายแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่ในช่วงกลาง-ยาวเรายังให้น้ำหนักกับประเด็นข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนมากกว่า
ซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาการเจรจาขั้นต้นระหว่างตัวแทนของทั้ง 2 ประเทศยังไม่เห็นความคืบหน้ามากนัก อีกทั้งปัจจุบัน USTR อยู่ระหว่างการเริ่มทำ Public Hearing ต่อการเก็บภาษีสินค้าจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ซึ่งมีกำหนดสิ้นสุดวันที่ 5 ก.ย. นี้ บวกกับเงื่อนไขในการเจรจาที่ค่อนข้างเข้มงวด ทำให้มองว่าปัจจัยดังกล่าวมีความไม่แน่นอนอยู่มาก และจากการเก็บภาษีในครั้งก่อนมูลค่ารวม 5 หมื่นล้านดอลลาร์ (อัตราภาษี 25%) คาดจะเริ่มทยอยส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของ เศรษฐกิจโลกมากขึ้นเรื่อยๆ ผลจากนโยบายการค้าจะมี Lag Time ค่อนข้างนาน
อีกทั้งเมื่อเวลาผ่านไปภาษีสินค้าที่สูงขึ้นจะเริ่มเกิดกระบวนการส่งผ่านต้นทุนไปยังผู้บริโภคกดดันให้เงินเฟ้อในสหรัฐฯ-จีน เร่งตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว เราจึงแนะนำให้นักลงทุนคงความระมัดระวังต่อปัจจัยต่างประเทศและติดตามประเด็นดังกล่าวอย่างใกล้ชิด
ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ "Selective Buy" ในหุ้นที่จ่ายปันผลระหว่างกาล โดยคิดเป็นอัตราผลตอบแทนราว 2.1-3.8% ซึ่งขึ้นเครื่องหมายในช่วง 2 เดือนนี้เลือกROJNA (หุ้นละ 0.2 บาท XD 29 ส.ค.), LH (หุ้นละ 0.4 บาท XD 28 ส.ค.), TSR (หุ้นละ 0.08 บาท XD 28 ส.ค.), KCAR (หุ้นละ 0.4 บาท XD 28 ส.ค.), SENA (หุ้นละ 0.109757 บาท XD 28 ส.ค.), MAJOR (หุ้นละ 0.65 บาท XD 29 ส.ค.)และ AH (หุ้นละ 0.7 บาท XD 29 ส.ค.)
ส่วนในทางเทคนิค Sector ที่คาด Outperform ตลาด สัปดาห์นี้ เลือกกลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค(ENERG) ได้แก่ BGRIM , BCPG , WHAUP