รัฐบาลประเทศเซนต์คิตส์และเนวิสฟื้นฟูบ้านเรือน 900 หลังผ่านกองทุนฟื้นฟูผู้ประสบภัยจากพายุเฮอร์ริเคน
ข่าวข่าวประชาสัมพันธ์หุ้น การเงิน การธนาคาร Monday September 10, 2018 10:21รัฐบาลประเทศเซนต์คิตส์และเนวิสประกาศว่า ประชาชน 900 ครัวเรือนได้รับประโยชน์จากกองทุนฟื้นฟูผู้ประสบภัยจากพายุเฮอร์ริเคน (Hurricane Relief Fund) ที่ก่อตั้งโดยนายกรัฐมนตรีทิโมธี แฮร์ริส โดยการอัดฉีดเงินสดมูลค่า 11.5 ล้านดอลลาร์ได้ช่วยให้ผู้ประสบภัยจากพายุเฮอริเคนเออร์มาและมาเรียสามารถฟื้นฟูบ้านเรือนของตนเองได้
เงินกองทุนดังกล่าวได้มาจากโปรแกรมการลงทุนเพื่อขอสัญชาติ (CBI) ที่ริเริ่มขึ้นในปีพ.ศ. 2527 โดยนักลงทุนจะได้รับสัญชาติเซนต์คิตส์และเนวิสเมื่อลงทุนในเศรษฐกิจของประเทศ และหนึ่งในนั้นก็คือการลงทุนในกองทุนฟื้นฟูผู้ประสบภัยจากพายุเฮอร์ริเคน ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มระยะ 6 เดือนที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักลงทุนที่ต้องการสนับสนุนประเทศให้ผ่านพ้นฤดูพายุเฮอริเคนที่ท้าทาย
หลังจากประสบความสำเร็จในการจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูผู้ประสบภัยจากพายุเฮอร์ริเคน นายกรัฐมนตรีทิโมธี แฮร์ริส ก็ได้จัดตั้งกองทุนเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ( Sustainable Growth Fund หรือ SGF ) ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา ส่งเสริมการท่องเที่ยวให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น สนับสนุนผู้ประกอบการท้องถิ่น ตลอดจนพัฒนาโครงการทางเศรษฐกิจและสังคมอื่นๆ เพื่อประโยชน์ของประชาชน
พอล ซิงห์ ผู้อำนวยการ CS Global Partners บริษัทที่ปรึกษาทางกฎหมายระหว่างประเทศชั้นนำที่เชี่ยวชาญด้านการขอสัญชาติและการพำนัก กล่าวว่า "นักลงทุนจำนวนมากต้องการมีส่วนร่วมในกองทุนเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งจะช่วยให้การขอสัญชาติเซนต์คิตส์และเนวิสเป็นไปอย่างรวดเร็วและคุ้มค่า" ทั้งนี้ กองทุนเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนกำหนดให้ลงทุน 150,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อคน หรือ 195,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อครอบครัว 4 คน จึงดึงดูดครอบครัวใหญ่ที่ต้องการความมั่นคง รวมถึงนักธุรกิจที่ต้องการเดินทางอย่างสะดวกสบายไปยังกว่า 150 ประเทศและดินแดนทั่วโลก เช่น เขตเชงเก้น รวมถึงศูนย์กลางธุรกิจอย่างสิงคโปร์ ฮ่องกง และลอนดอน
เซนต์คิตส์และเนวิสโดดเด่นในเรื่องการสร้างความสัมพันธ์ทางการทูตกับนานาประเทศ ซึ่งความพยายามดังกล่าวก็ประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี เห็นได้จากดัชนีการลงทุนเพื่อขอสัญชาติ ( CBI Index ) ที่เผยแพร่โดยนิตยสาร Professional Wealth Management ในเครือ Financial Times ที่ระบุว่า โปรแกรมการลงทุนเพื่อขอสัญชาติของเซนต์คิตส์และเนวิส ซึ่งถือว่าเป็นมาตรฐานระดับแพลทินัมของอุตสาหกรรม คว้าอันดับ 1 มาครองอย่างภาคภูมิ เนื่องจากกระบวนการขอสัญชาติ การเดินทาง เงื่อนไขการพำนัก และการตรวจสอบสถานะไม่ยุ่งยากซับซ้อน
ขณะที่ความวุ่นวายทางการเมืองก่อให้เกิดความไม่แน่นอนมากขึ้นทั่วโลก แนวคิดการถือสองสัญชาติผ่านการลงทุนจึงเป็นทางออกที่ดีทั้งสำหรับชาวเซนต์คิตส์และเนวิสรวมถึงพลเมืองที่ได้สัญชาติผ่านการลงทุน
Latest Press Release
ผ่านการประกาศงบการเงินปี 2561 ไปไม่นาน บมจ.นอร์ทอีส รับเบอร์ นำทีมโดย ชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เตรียมเปิดบ้านต้อนรับ คณะนักลงทุนในโอกาสเพื่อเดินทางดูความคืบหน้าในการดำเนินธุรกิจยางพาราของบริษัท โดยมีที่ปรึกษาทางการเงินอย่าง สมภพ...
ทีเอ็มบี หรือ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) จัดงาน TMB The Economic Insight 2019 'เจาะลึกเศรษฐกิจไทยพร้อมตั้งรับ EEC ในยุคดิจิทัล' เพื่อให้บริการด้านข้อมูลเชิงเศรษฐกิจที่เป็นประโยชน์แก่ลูกค้าธุรกิจ จำนวน 400 ราย...
เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด นำโดย นางหทัยรัตน์ อติชาติ (ที่ 2 จากขวา) ผู้จัดการฝ่ายนโยบายด้านรัฐกิจและกิจการสัมพันธ์ ได้มอบงบประมาณสนับสนุนโครงการ "ฟื้นฟูลุ่มน้ำป่าสัก ตามรอยพ่อ" ระยะที่ 3 จำนวน 12,980,000 บาท โดยมี นายไตรภพ...
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า โรงงานผลิตพืช (Plant Factory) เป็นทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจในฐานะเครื่องมือทางการเกษตรที่มีความแม่นยำสูง ด้วยการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ในยุคเกษตร 4.0 เพื่อเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร โดยคาดว่า...
นายนพพร เทพสิทธา (ที่ 5 จากซ้าย) ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) และดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี (กลาง) อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เข้าเยี่ยมชมและติดตามความคืบหน้าของโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี...