“AECS ” กังวลสงครามการค้าจีน-สหรัฐ-เฟดขึ้นดอกเบี้ย ให้กรอบดัชนี 1,730-1,770 จุด-แนะลงทุนหุ้นเด่นในแต่ละ Sector

อังคาร ๒๕ กันยายน ๒๐๑๘ ๑๒:๐๒
บล.เออีซี (AECS) จับตาปัญหาสงครามการค้าสหรัฐ-จีนบานปลาย หลังจีนปฎิเสธเจรจากับสหรัฐ และการเก็บภาษีรอบใหม่มีผลบังคับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเฟดเตรียมขึ้นดอกเบี้ยรอบใหม่ในการประชุม 25-26 ก.ย.นี้ ใกรอบดัชนีแนวต้าน 1,770 จุด และแนวรับ 1,730 จุด แนะกลยุทธ์ลงทุนในหุ้นเด่นในกลุ่มพลังงาน-นิคม-ธนาคาร-ค้าปลีก-ประกัน-อาหาร

บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) หรือ AECS เปิดเผยว่า ทิศทางการลงทุนในตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ยังคงจับตาความเคลื่อนไหวของปัจจัยต่างประเทศเป็นหลัก โดยเฉพาะปัญหาสงครามการค้าที่ยังไม่ได้ข้อสรุปและยืดเยื้อ ล่าสุดรัฐบาลจีนยกเลิกการเจรจาด้านการค้ากับสหรัฐฯ หลังสัปดาห์ที่ผ่านมาสหรัฐฯ เดินหน้าแผนเก็บภาษีสินค้าจีนรอบใหม่มูลค่ารวมกว่า 2 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย. ที่ผ่านมา ส่งผลให้มูลค่าสินค้าที่ถูกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นเป็น 2.5 แสนล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 50% ของมูลค่าส่งออกทั้งหมดของจีนที่ส่งไปสหรัฐฯ ซึ่งคาดจะเริ่มมีผลกระทบด้านราคาส่งผ่านมายังผู้ผลิตและผู้บริโภคของทั้ง 2 ประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ กดดันทิศทางเงินเฟ้อใน การดีดตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว

อีกทั้งการดำเนินนโยบายการเงินของเฟด โดยจะมีการประชุมเกิดขึ้นในวันที่ 25-26 ก.ย. นี้ ซึ่งจากข้อมูลของ Fed Fund Futures ได้สะท้อนถึง Implied Prob. ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในครั้งนี้สูงถึง 97.9% แต่นักลงทุนยังรอติดตามมุมมองของเฟดที่มีต่อสงครามการค้าที่จะเริ่มส่งผลกระทบต่อ เศรษฐกิจ สหรัฐฯ มาก รวมถึงความเป็นไปได้ที่เฟดจะเร่งขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้นเพื่อสกัดอัตราเงินเฟ้อที่จะเพิ่มขึ้นอย่างเร่งตัว ซึ่งเริ่มสังเกตได้จาก Leading Indicator ของภาคการบริโภคและภาคการผลิตที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ดีล BREXIT ที่เกิดความล้มเหลว หลังจากนางเทรีซ่า เมย์ นายกฯ อังกฤษ ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าการเจรจาดังกล่าวประสบปัญหาชะงักงัน เนื่องจากนายโดนัลด์ ทัสค์ ประธานกลุ่ม EU ไม่รับข้อเสนอ BREXIT ที่ต้องการให้อังกฤษสามารถทำการค้าแบบเสรีกับ EU ต่อได้ ทำให้อังกฤษอาจจะต้องถอนตัวจาก EU แบบไร้ข้อตกลง Hard BREXIT ตามประชามติเดิม

ดังนั้นประเมินว่า SET Index พักฐานในแนวโน้มขาขึ้น โดยมีแนวต้านถัดไปที่ 1,770 จุด และแนวรับ 1,730 จุด และกลยุทธ์การลงทุนในกลุ่มพลังงาน ชู PTG, BANPU, BCPG กลุ่มนิคม AMATA, WHA, ROJNA กลุ่มธนาคาร TMB, กลุ่มค้าปลีก ROBINS, CPALL, กลุ่มประกัน BLA, SMK, กลุ่มอาหาร M, TKN, HTC ส่วนทางเทคนิคสำหรับนักเก็งกำไรและนักลงทุน กรณีมีหุ้นอาจแบ่งขายทำกำไรแนวต้าน กรณีไม่มีหุ้น เน้นการซื้อเมื่อย่อตัวแนวรับ 1,745-1,730 จุด พร้อมตั้ง Stop Loss หากถอยหลุด 1,730 จุด

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๑ เม.ย. อ.อ.ป. ร่วม พิธีสรงน้ำพระ ขอพร เนื่องในวันสงกรานต์ประจำปี 2567 ทส.
๑๑ เม.ย. 1 จาก 1,159 ศูนย์การค้า เดอะ พาลาเดียม เวิลด์ ช้อปปิ้ง ส่งมอบลอตเตอรี่ที่ไม่ถูกรางวัล จำนวน 125,500 ใบ ให้กับศูนย์สาธารณสงเคราะห์เด็กพิเศษ วัดห้วยหมู
๑๑ เม.ย. JPARK ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ผถห. อนุมัติปันผล 0.0375 บาทต่อหุ้น
๑๑ เม.ย. สเก็ตเชอร์ส สนับสนุนเทคโนโลยีเพื่อความสบายแก่บุคลากรทางการแพทย์ บริจาครองเท้ารุ่น GOwalk 7(TM) สำหรับบุคลากรทางการแพทย์
๑๑ เม.ย. ศูนย์คนหายไทยพีบีเอส ร่วมกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ทำงานเชิงป้องกัน เก็บก่อนหาย ในผู้สูงอายุ
๑๑ เม.ย. จุฬาฯ อันดับ 1 ของไทย การจัดอันดับมหาวิทยาลัยโดย QS WUR by Subject 2024
๑๑ เม.ย. ครั้งแรกในไทย 'Pet Us' เนรมิตพื้นที่จัดกิจกรรม มะหมามาหาสงกรานต์ ชวนน้องหมาทั่วทั้ง 4 ภาคร่วมสนุกในช่วงสงกรานต์ 13-14 เมษายน ตอกย้ำความสำเร็จฉลอง 'Pet Us' ครบ 3
๑๑ เม.ย. LINE STICKER OCHI MOVE จาก OCEAN LIFE ไทยสมุทร คว้ารางวัลชนะเลิศ Best Sponsored Stickers in Insurance ในงาน LINE THAILAND AWARDS
๑๑ เม.ย. วว. ผนึกกำลังหน่วยงานเครือข่าย พัฒนาเชื่อมโยงการค้า ตลาด วิจัย เทคโนโลยี นวัตกรรม สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
๑๑ เม.ย. บริษัท เค วัน วัน ดี จำกัด ถือฤกษ์ดีจัดพิธีบวงสรวง ซีรี่ส์ Girl's Love เรื่องใหม่ Unlock Your Love : รักได้ไหม ?