กรุงศรีมองเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 32.85-33.25 คาดผลกระทบสงครามการค้ายังกดดันค่าเงิน

จันทร์ ๒๙ ตุลาคม ๒๐๑๘ ๑๕:๑๘
กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 32.85-33.25 ต่อดอลลาร์ เทียบกับระดับปิดอ่อนค่าที่ 33.12 ต่อดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังตลาดผิดหวังตัวเลขการค้าระหว่างประเทศของไทย ส่งผลให้เงินบาทอ่อนค่าอย่างรวดเร็วท้ายสัปดาห์ตามกระแสเงินทุนไหลออกจากตลาดเกิดใหม่ ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1.1 หมื่นล้านบาท แต่ซื้อพันธบัตรสุทธิ 7.2 พันล้านบาท ส่วนเงินดอลลาร์แข็งค่าเทียบกับสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่ยกเว้นเงินเยน ขณะที่ตลาดหุ้นทั่วโลกเผชิญแรงเทขายอย่างหนักท่ามกลางความกังวลครั้งใหม่เกี่ยวกับแนวโน้มการเติบโตของภาคธุรกิจเอกชนและเศรษฐกิจโลก ส่วนธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) คงนโยบายตามเดิมและยืนยันว่าโครงการซื้อสินทรัพย์ 2.6 ล้านล้านยูโรจะสิ้นสุดลงในปีนี้ พร้อมทั้งส่งสัญญาณว่าอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยหลังเดือนกันยายน 2562

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่านักลงทุนจะจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ เช่น การใช้จ่ายส่วนบุคคล กิจกรรมภาคบริการ รวมถึงการเติบโตของค่าจ้าง เพื่อประเมินทิศทางดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) นอกจากนี้ การประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) และธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) รวมถึงประเด็นต่างๆ ที่รุมเร้าบรรยากาศการลงทุน อาทิ ผลกระทบของข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน สถานการณ์ตลาดพันธบัตรอิตาลี ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเจรจา Brexit ความผันผวนของตลาดหุ้นและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเข้าสู่การเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ ในวันที่ 6 พฤศจิกายน ล้วนเป็นปัจจัยที่จะชี้นำการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนเช่นกัน

สำหรับปัจจัยภายในประเทศ นักลงทุนจะติดตามตัวเลขเงินเฟ้อเดือนตุลาคมที่จะประกาศในสัปดาห์นี้ ขณะที่ค่าเงินบาทจะยังคงเผชิญแรงกดดันจากตัวเลขยอดส่งออกเดือนกันยายนซึ่งหดตัวครั้งแรกในรอบ 19 เดือน และเริ่มได้รับผลกระทบเชิงลบจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า สงครามการค้า และส่วนหนึ่งอาจสะท้อนการเร่งส่งออกในช่วงก่อนที่มาตรการกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนจะมีผลบังคับใช้ อย่างไรก็ตาม ยอดนำเข้าบ่งชี้ถึงสัญญาณการฟื้นตัวต่อเนื่องของอุปสงค์ในประเทศ เราคาดว่าภาวะเช่นนี้อาจสร้างความท้าทายมากขึ้นต่อการตัดสินใจดำเนินนโยบายการเงิน แม้เราจะยังมีมุมมองว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยสู่ระดับ 1.75% ในปีนี้เพื่อดูแลความเสี่ยงด้านเสถียรภาพซึ่งอาจรุนแรงขึ้นในอนาคต

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๐:๕๓ เซ็นทารา เปิดตัว โคซี่ เวียงจันทน์ น้ำพุ โรงแรมไลฟ์สไตล์สมัยใหม่ ใจกลางเมือง พร้อมอิสระแห่งการเดินทาง
๑๐:๐๙ THE GAIN ยกขบวนวิทยากรระดับประเทศ มุ่งสู่งานสัมมนา การเทรดและลงทุนปี 2024
๑๐:๒๗ W เผย IFA หนุนเพิ่มทุน 2.5 พันล้านหุ้นขาย PP รับแผนเข้าถือหุ้นฟรุตต้าฯ 51% พร้อมปลดล็อก CBC
๑๐:๓๐ ผถห.TFG โหวตหนุนแจก TFG-W4 ฟรี! อัตรา 10 : 1 ราคาใช้สิทธิ 3.80 บ.พร้อมจ่ายปันผลเงินสด 0.01 บ./หุ้น ปักธงปี 67 รายได้โต 10%
๑๐:๑๙ ASIA เตรียมขายหุ้นกู้มีหลักประกัน มูลค่า 300 ลบ. อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ย 7 - 7.20% มูลค่าหลักประกันเฉียด 1,600 ลบ. คาดเปิดจองซื้อวันที่ 27 - 29 พ.ค.
๑๐:๓๘ ไมเนอร์ โฮเทลส์ ประกาศรวมอัตลักษณ์องค์กรในระดับโลก ด้วยการรีแบรนด์ เอ็นเอช โฮเทล กรุ๊ป เป็น ไมเนอร์ โฮเทลส์ ยุโรป แอนด์
๑๐:๕๔ ยูนิโคล่ร่วมกับมารีเมกโกะ เปิดตัว UNIQLO x Marimekko คอลเลคชันลิมิเต็ดเอดิชันประจำฤดูร้อน 2024 เติมเต็มความสดใสให้ซัมเมอร์ ในธีม Joyful Summer
๑๐:๔๒ TERA ฟอร์มเจ๋ง! เปิดเทรดวันแรกเหนือจอง 122.86% ลุยให้บริการ T.Cloud รับอนาคตธุรกิจคึกคัก ปักหมุดผลงาน 3 ปีเติบโตเฉลี่ยเกิน
๑๐:๐๙ โบรกฯ แสกน GFC ส่งซิก Q1/67 พุ่ง
๑๐:๐๐ ผถห. WINMED ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.0295 บ./หุ้น-รับเงิน 21 พ.ค.นี้ รุกตรวจคัดกรอง มะเร็งปากมดลูก เพิ่มรายได้ประจำผถห. ตั้งเป้ารายได้ปี 67 โตเกิน 20%