NER เข้าซื้อขาย SET วันแรก เดินหน้าขยายกำลังการผลิตอีกเท่าตัว ภายในปี 2563

พุธ ๐๗ พฤศจิกายน ๒๐๑๘ ๑๑:๕๓
บมจ. นอร์ทอีส รับเบอร์ หรือ "NER" เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เป็นวันแรก ย้ำนำเงินไปซื้อเครื่องจักรและสร้างโรงงานใหม่ เพื่อขยายกำลังการผลิตสินค้ายางพาราแปรรูปอีกเท่าตัวภายในปี 2563 ส่วนราคายางผันผวน บริษัทสามารถบริหารความเสี่ยงได้ เนื่องจากNER ใช้นโยบาย matching ออเดอร์ ด้านที่ปรึกษามั่นใจราคาหุ้นสะท้อนธุรกิจและผลประกอบการที่เติบโตต่อเนื่องจากธุรกิจ มุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าตลาดทั้งในและต่างประเทศ

นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. นอร์ทอีส รับเบอร์ หรือ NER ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยางพาราแปรรูป เปิดเผยว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันนี้ ถือว่าเป็นก้าวสำคัญของบริษัท ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจและความมุ่งมั่นของคณะกรรมการ คณะผู้บริหารและทีมงานของบริษัทที่ต้องการระดมทุนเพื่อการขยายธุรกิจและสร้างความน่าเชื่อถือในระดับสากลให้เป็นที่ยอมรับจากคู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ

การระดมทุนครั้งนี้ NER จะนำไปปรับปรุงเครื่องจักรยางแผ่นผสม (RSS Mixtures Rubber) ทำให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 60,000 ตันต่อปีซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2562 และมีแผนที่จะสร้างโรงงานใหม่เพื่อขยายกำลังการผลิตยางแท่ง (STR) และยางแท่งผสม (Mixtures Rubber) กำลังการผลิต 172,800 ตันต่อปี ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2563 ซึ่งหากโรงงานใหม่แล้วเสร็จ จะส่งผลให้กำลังการผลิตรวมทั้งหมดของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 465,600 ตันต่อปี จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิต 232,800 ต่อปี ส่วนเงินระดมทุนส่วนที่เหลือจะนำไปใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ

สำหรับการแข่งขันด้านราคายางนั้น เนื่องจากบริษัทมีนโยบายการกำหนดราคาขายแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือการขายแบบครั้งเดียว(Spot) และการขายแบบมีสัญญาระยะยาว (Long term contract) ซึ่งบริษัทใช้วิธีการ matching ออเดอร์ และกำหนดราคาขายสินค้าด้วยวิธีต้นทุนบวกด้วยกำไร (Cost plus margin)ประกอบกับการพิจารณาราคาตลาดของสินค้าในขณะนั้น โดยสินค้าของบริษัทมีคุณภาพตามมาตรฐาน นอกจากนี้บริษัทยังมีการจัดทำสัญญากับลูกค้าทุกรายที่มีการซื้อขายกัน โดยจะจัดทำสัญญาเมื่อมีการตกลงซื้อขายกันสำเร็จ

สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2560 มีรายได้ 9,819.70 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 224.12 ล้านบาท และสำหรับงวด 6 เดือนแรกของปี 2561 บริษัทมีรายได้รวม 3,976.51 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 166.67 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 4.19%

นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานกรรมการ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า NER ถือว่าเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมยางพาราในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีประสบการณ์การดำเนินธุรกิจกว่า 12 ปี ปัจจุบันมียอดขายในประเทศคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ60 และต่างประเทศร้อยละ 40 สำหรับแผนธุรกิจของบริษัทมีแผนการขยายกำลังการผลิตตลอดจนหาลูกค้าใหม่เพื่อรองรับกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน และสำหรับการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) จะช่วยให้ NER มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง อีกทั้งเพิ่มโอกาสทางธุรกิจทั้งในและต่างประเทศให้เป็นที่ยอมรับมากยิ่งขึ้น ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะทำให้บริษัทสามารถขยายตลาดและสร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืนในระยะยาว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๕๔ กทม. เตรียมปรับปรุงพัฒนาระบบการให้บริการงานทะเบียนสำนักงานเขต
๑๗:๑๗ สมาคมเพื่อนชุมชน ส่งเสริมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ถ่ายทอดองค์ความรู้ แนวทางลดก๊าซเรือนกระจก
๑๗:๔๑ กทม. เร่งติดตั้งเสา-ตะแกรงรั้วกั้นเกาะกลางถนนวิสุทธิกษัตริย์ที่ถูกรถชนเสียหาย
๑๗:๐๔ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ขอเชิญชวนนักศึกษา และบุคคลทั่วไป เข้าร่วมงาน M-Sci JOB FAIR 2024 หางานที่ใช่ สร้างงาน สร้างโอกาส วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 เวลา 13.00-16.00 น. ณ หอประชุม รักตะกนิษฐ
๑๗:๒๘ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค นำเสนอโซลูชั่นดิจิทัลลุยตลาดอาคารอัจฉริยะเพื่อความยั่งยืน
๑๖:๒๙ จิม ทอมป์สัน เผยทิศทางการพา แบรนด์ผ้าเมืองไทย ผงาดเวทีโลก ส่องกลยุทธ์การครีเอตผลงานคุณภาพให้สอดรับเทรนด์สิ่งทอระดับสากล
๑๖:๓๘ อาดิดาสจับมือนักฟุตบอลระดับตำนาน ส่งแคมเปญ 2006 JOSE 10 สร้างแรงบันดาลใจและความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัดให้กับเหล่านักฟุตบอลเยาวชนหญิง
๑๖:๑๐ Maison Berger Paris พาชมเครื่องหอมบ้าน 2 คอลเลคชั่นใหม่ MOLECULE และ JOY จัดเต็มเซ็ตของขวัญ ครบทุกรูปแบบความหอม สร้างบรรยากาศหรูหราพร้อมกลิ่นหอมบริสุทธิ์
๑๖:๕๗ กทม. เตรียมระบบเฝ้าระวัง-ควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 หลังเทศกาลสงกรานต์
๑๕:๑๕ NCC. ผนึก ททท. ขยายตลาดท่องเที่ยวมูลค่าสูง ชี้ตลาดท่องเที่ยวเฉพาะทาง (Niche Market) โต ลุยจัดงาน Thailand Golf Dive Expo plus OUTDOOR Fest