ในไตรมาส 3 ปีนี้ บริษัทฯ ได้มีการเปิดให้บริการเพิ่ม 3 สาขาในประเทศคือ Let's Relax สาขาโรงแรมอโนมา แกรนด์ กรุงเทพฯ ภายใต้รูปแบบรับบริหารสปาในโรงแรม Let's Relax บียอนด์ ป่าตอง ภูเก็ต และ Let's Relax หัวหิน 100 และอีก 2 สาขาต่างประเทศ คือ Let's Relax China Qingdao สาขาที่ 3 ในประเทศจีน และ Let's Relax Phnom Penh Tonle Bassac สาขาที่ 3 ในประเทศกัมพูชา
สำหรับแผนการดำเนินงานในไตรมาสสุดท้าย บริษัทฯ ทยอยเปิดสาขาคงเหลือในปีนี้ อีก 5 สาขา เริ่มต้นด้วย Let's Relax เทอร์มินอล 21 พัทยา ตามด้วย Let's Relax เดอะอัลเลย์ นานา หน้ารร. Hyatt Regency Sukhumvit รวมไปถึงคอนเซปต์ Specialty Store รูปแบบใหม่ Stretch me by Let's Relax สตูดิโอยืดคลายกล้ามเนื้อเพื่อสุขภาพโดยผู้เชี่ยวชาญด้านกายภาพบำบัดที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์และศูนย์การค้าไอคอนสยาม และ Face Care by Let's Relax ศูนย์ให้บริการปรนนิบัติผิวหน้าอย่างมืออาชีพ โดยภายในสิ้นปีนี้ บริษัทฯ คาดว่าจะมีสปาทั้งหมด 55 สาขา แบ่งเป็น ระรินจินดา เวลเนส สปา จำนวน 3 สาขา Let's Relax จำนวน 38 สาขา (32 สาขาในประเทศและ 6 สาขาต่างประเทศ) Stretch me by Let's Relax จำนวน 2 สาขา Face Care by Let's Relax จำนวน 1 สาขา และ Baan Suan Massage จำนวน 11 สาขา
"สำหรับธุรกิจท่องเที่ยว ไตรมาส 4 คาดว่าจะกลับมาคึกคัก หลังคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบมาตรการกระตุ้นตลาดการท่องเที่ยว อาทิ ยกเลิกการเก็บค่าธรรมเนียมวีซ่าสำหรับกลุ่ม 21 ประเทศ (รวมจีน) เป็นระยะเวลา 60 วัน ช่วงพฤศจิกายน 2561 ถึงเดือนมกราคม 2562 เพิ่ม Double Permit ผ่อนปรนวีซ่าทางบก รวมไปถึงแคมเปญ Amazing Thailand Grand Sale Privilege Passport ซึ่งน่าจะส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ทั้ง 2 ปัจจัยบวกน่าจะส่งผลให้ผลประกอบการของบริษัทฯ เติบโตได้" วิบูลย์ กล่าวเสริม