แนะปลูกพืชตาม Agri-Map จ.สระบุรี 'พืชอาหารสัตว์ กล้วยหอม ผักหวานป่า’ ทดแทนนาข้าว

จันทร์ ๐๗ มกราคม ๒๐๑๙ ๑๓:๓๕
นางอัญชนา ตราโช รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงแนวทางบริหารจัดการพื้นที่ตามแผนที่เกษตรเพื่อการบริหารจัดการเชิงรุก (Agri - Map) ในพื้นที่จังหวัดสระบุรี พบว่า จังหวัดสระบุรี มีพื้นที่มีความเหมาะสมมาก (S1) และปานกลาง (S2) สำหรับการปลูกข้าว รวม 517,872 ไร่ และมีพื้นที่มีความเหมาะสมน้อย(S3) และไม่เหมาะสม (N) สำหรับการปลูกข้าว รวม 26,904 ไร่ (ร้อยละ 5 ของพื้นที่ปลูกข้าวในจังหวัด) ซึ่งในพื้นที่ไม่เหมาะสม 26,904 ไร่ ดังกล่าว มีความเหมาะสมสำหรับปลูกพืชไร่ประมาณ 12,000 ไร่ โดยส่วนใหญ่อยู่ในเขตอำเภอแก่งคอย อำเภอเมือง อำเภอพระพุทธบาท และอำเภอหนองแค ที่สามารถปลูกได้ทั้ง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง และอ้อยโรงงาน

หากมองสถานการณ์ปัจจุบัน จังหวัดสระบุรี เป็นแหล่งเลี้ยงโคนมอันดับ 1 ของประเทศ พืชอาหารสัตว์จึงมีความจำเป็นอย่างมาก โดยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เป็นพืชที่มีความโดดเด่น เนื่องจากด้านอุตสาหกรรมอาหารสัตว์มีความต้องการสูง และราคาอยู่ในเกณฑ์ดี อีกทั้งนโยบายรัฐ มีโครงการส่งเสริมและสนับสนุนการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังฤดูกาลทำนา โดยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มีต้นทุนการผลิตอยู่ระหว่าง 4,400 - 4,600 บาท/ไร่ ให้ผลตอบแทนสุทธิ (กำไร) อยู่ระหว่าง 2,000 - 2,300 บาท/ไร่ แต่หากเกษตรกรปลูกพืชอาหารสัตว์ควบคู่กับการทำฟาร์มปศุสัตว์ เพื่อลดต้นทุนการผลิต พบว่า ข้าวโพดสดพร้อมฝัก ให้ผลตอบแทนสูงกว่าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในรูปเมล็ด จะมีต้นทุนการผลิต 5,636 บาท/ไร่ ให้ผลตอบแทนสุทธิเฉลี่ย 4,764 บาท/ไร่ ทั้งนี้ เกษตรกรสามารถปลูกได้ 3 รอบต่อปี กรณีมีแหล่งน้ำ ซึ่งคิดแล้วเกษตรกรจะได้ผลตอบแทนสุทธิเฉลี่ย 14,292 บาท/ไร่/ปี อย่างไรก็ตาม หากมีการรวมกลุ่มปลูก และมีเทคโนโลยีเครื่องจักรเพื่อให้บริการในการเก็บเกี่ยวและจำหน่ายในรูปข้าวโพดหมัก จะช่วยเพิ่มมูลค่าสร้างรายได้ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งเกษตรกรจะต้องมีการวางแผนการผลิตและการตลาดให้ผลผลิตออกเป็นรุ่นอย่างต่อเนื่องควบคู่ไปด้วย เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของผู้รับซื้ออย่างสม่ำเสมอ

นอกจากนี้ การปรับเปลี่ยนการผลิตและพัฒนาพื้นที่ ยังมีสินค้าทางเลือกและกิจกรรมเสริมที่น่าสนใจ อาทิ กล้วยหอม มีต้นทุนการผลิต 16,773 บาท/ไร่ ผลตอบแทนสุทธิ 19,705 บาท/ไร่ ซึ่งหากผลิตให้ออกตรงความต้องการของตลาดในช่วงเทศกาลต่างๆ เกษตรกรจะได้รับกำไรสูงกว่าช่วงปกติ และยังนำไปแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าได้อีกด้วย เช่น เค้กกล้วยหอม เป็นต้น ผักหวานป่าเป็นผักพื้นบ้านมีชื่อเสียงของจังหวัดเป็นผักที่ปลอดภัยจากสารพิษโดยธรรมชาติ เป็น "ผักสุขภาพ" ที่ผู้บริโภคมีความต้องการ มีต้นทุนการผลิต เฉลี่ย 65,720 บาท/ไร่ ผลตอบแทนสุทธิ เฉลี่ย 84,280 บาท/ไร่ ไก่พื้นเมือง ต้นทุนการผลิต เฉลี่ย 90 บาท/ตัว ผลตอบแทนสุทธิเฉลี่ย 55 บาท/ตัว เป็นสัตว์เศรษฐกิจสำคัญในชุมชนเลี้ยงไว้เพื่อการบริโภคภายในครัวเรือน และเป็นอาชีพเสริมที่สร้างรายได้ตลอดทั้งปี แถมมีราคาสูงมากขึ้นในช่วงเทศกาล

ด้านนายชีวิต เม่งเอียด ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 7 (สศท.7) กล่าวเสริมว่า นอกจากสินค้าทางเลือกข้างต้นแล้ว เกษตรกรยังสามารถปรับเปลี่ยนสำหรับปลูกพืชสมุนไพร ซึ่งเป็นพืชใช้น้ำน้อย ตลาดมีแนวโน้มความต้องการเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับจังหวัดสระบุรี มีโรงงานผลิตยาสมุนไพรและโรงพยาบาลภาครัฐที่รับซื้อสมุนไพรเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตยา รวมทั้งยังสามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่บางส่วนไปทำเกษตรผสมผสาน เพื่อลดความเสี่ยง สับเปลี่ยนหมุนเวียนการปลูกพืชหลากหลายชนิด เช่น พืชผักสวนครัว พืชสมุนไพร/เครื่องเทศ ไม้ดอก ไม้ผล รวมทั้งการเลี้ยงสัตว์ เป็นอีกแนวทางหนึ่งเพื่อให้เกษตรกร มีรายได้อย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการพัฒนาสินค้าเพื่อเพิ่มมูลค่า เช่น น้ำนมโคอินทรีย์ หน่วยงานต้องสนับสนุนเชื่อมโยงหาช่องทางการตลาด และเน้นการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้สินค้าอินทรีย์ ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ควรติดตาม สำรวจ และปรับปรุงฐานข้อมูลแผนที่ความเหมาะสมให้เป็นปัจจุบัน และร่วมวางแผนการผลิตและการตลาดสินค้าให้เหมาะสมกับพื้นที่เพื่อเกิดประโยชน์และเกษตรกรได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าการลงทุน สำหรับเกษตรกรและท่านที่สนใจต้องการสอบถามข้อมูลในพื้นที่เพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 7 โทร. 0 5640 5005 - 8 หรือ [email protected]

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๙ เม.ย. บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๙ เม.ย. รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๙ เม.ย. กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๙ เม.ย. ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๙ เม.ย. กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๙ เม.ย. เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๙ เม.ย. สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๙ เม.ย. GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๙ เม.ย. เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๙ เม.ย. เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4