(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.10 น. ของวันที่ 10/01/62)
แนวโน้มวันที่ 11 มกราคม 2562
รายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ประจำวันที่ 18-19 ธ.ค. 2561 บ่งชี้ว่า กรรมการหลายคนมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะผันผวนที่เกิดขึ้นในตลาดการเงินและการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก กรรมการส่วนใหญ่สามารถอดทนรอต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ รายงานดังกล่าวสอดคล้องกับความเห็นประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)สาขาต่างๆ ทั้งนี้ นายเอริค โรเซนเกรน ประธานเฟดสาขาบอสตัน ประเมินว่า เฟดอาจยังคงจำเป็นต้องปรับขึ้นดอกเบี้ย 2 ครั้งในปี 2562 แต่เขาไม่สามารถปฏิเสธความเป็นไปได้ที่ว่า เฟดอาจจำเป็นต้องผ่อนคลายนโยบายจริงๆ ทางด้านนายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโก ระบุว่า เฟดสามารถรอคอยและใช้ครึ่งแรกของปีนี้ เพื่อประเมินความเสี่ยงที่เพิ่มสูงขึ้นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ ขณะที่นายราฟาเอล บอสติค ประธานเฟดสาขาแอตแลนตา ระบุว่า บริษัทต่างๆแสดงความระมัดระวังและลังเลมากขึ้นในการลงทุน ซึ่งมีแนวโน้มถ่วงการเติบโตในปีนี้ซึ่งอาจทำให้เฟดอดทนเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม เขาคาดถึงการปรับขึ้นเพียง 1 ครั้งในปีนี้ แนวโน้มดังกล่าวกดดันดอลลาร์ให้ร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญอื่นๆ หลังจากนักลงทุนมั่นใจมากขึ้นว่าเฟดจะไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐ นอกจากนี้ ราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากประเด็น สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือฟิทช์ เรทติ้งส์ ออกมาเตือนถึงความเป็นไปได้ในการลดอันดับความน่าเชื่อถือระดับ "AAA" ของสหรัฐในช่วงต่อไปของปีนี้ หากการปิดดำเนินการรัฐบาลแบบต่อเนื่อง(ชัตดาวน์) กระทบเพดานหนี้สินและขัดขวางการกำหนดงบประมาณสหรัฐ ทั้งนี้"หากการชัตดาวน์นี้ดำเนินไปจนถึงวันที่ 1 มี.ค. และเพดานหนี้สินกลายเป็นปัญหาในช่วงหลายเดือนนับจากนั้น เราอาจจำเป็นต้องเริ่มคิดเกี่ยวกับกรอบงานนโยบาย, ความไม่สามารถผ่านงบประมาณ อย่างไรก็ตามข้อมูลเศรษฐกิจในยูโรโซนยังคงอ่อนแออย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฝรั่งเศสและเยอรมนีส่งผลให้คาดกันในวงกว้างว่า ธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี)จะยังคงดำเนินนโยบายเชิงผ่อนคลายในปี 2562 ซึ่งกดดันสกุลเงินยูโรและราคาทองคำ ส่งผลให้การขยับขึ้นของราคาทองคำค่อนข้างจำกัด แม้ว่าราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวในกรอบในทิศทางค่อยๆขยับขึ้น แนะนำติดตามการเปลี่ยนแปลงของราคาเพื่อปรับสถานะให้สอดคล้องกับทิศทางราคาทองคำ
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้าน 1,299-1,309 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จะทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงมา โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,280-1,276 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาน่ากลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านอีกครั้ง สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือรอดูบริเวณ 1,280-1,276 ดอลลาร์ต่อออนซ์หากสามารถยืนได้อย่างมั่นคง ถือเป็นจุดซื้อเก็งกำไรระยะสั้น แต่หากยืนไม่ได้ต้องระมัดระวังแรงขายที่ออกมาอาจทำให้ราคาย่อตัวลงสู่แนวรับถัดไป โดยหากราคาหลุดแนวรับ 1,265 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,276 (19,250บาท) 1,265 (19,100บาท) 1,256 (18,950บาท)
แนวต้าน 1,299 (19,650บาท) 1,309 (19,800บาท) 1,318 (19,900บาท)
GOLD FUTURES (GFG19)
แนวรับ 1,276 (19,390บาท) 1,265 (19,220บาท) 1,256 (19,090บาท)
แนวต้าน 1,299 (19,740บาท) 1,309 (19,890บาท) 1,318 (20,030บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999