กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า นักลงทุนยังคงลังเลที่จะเข้าซื้อดอลลาร์แม้ว่าตัวเลขตำแหน่งการจ้างงานในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นสดใสเกินคาด ขณะที่ ในการประชุมรอบล่าสุด เฟดตัดทิ้งคำว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป บ่งชี้ว่าการคุมเข้มนโยบายการเงินของเฟดอาจจะใกล้ยุติลงแล้วท่ามกลางความไม่แน่นอนจากปัญหาเศรษฐกิจโลก สงครามการค้า และความขัดแย้งเรื่องงบประมาณสหรัฐฯ โดยประธานเฟดกล่าวว่าเหตุผลที่สนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย "ได้อ่อนแอลง" นอกจากนี้ เฟดระบุว่างบดุลของเฟดอาจมีขนาดใหญ่กว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ สะท้อนทิศทางนโยบายใกล้เข้าสู่ภาวะสมดุล สำหรับสัปดาห์นี้ ตลาดโลกจะให้ความสนใจกับการแถลงนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์ และดัชนีภาคบริการสหรัฐฯ รวมถึงการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) หลังจากสมาชิกสภาสหราชอาณาจักรไม่สามารถตกลงกันเพื่อเลื่อนกำหนดระยะเวลา Brexit ออกไป
สำหรับปัจจัยภายในประเทศ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะมีการประชุมวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ซึ่งเราคาดว่าในรอบนี้จะตรึงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 1.75% ด้วยเสียงไม่เป็นเอกฉันท์ ขณะที่ธปท.กล่าวว่าเงินบาทที่แข็งค่าเร็วจะเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะนำมาพิจารณาในการประชุมสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตาม ทางการมองว่าการลงทุนโครงการขนาดใหญ่จะไม่ได้รับผลกระทบแม้ว่าอาจมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล โดยเศรษฐกิจไทยยังแข็งแกร่งเพียงพอรองรับการขึ้นดอกเบี้ยในอนาคตได้ โดยเฉพาะการบริโภคที่ยังหนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจในปีนี้ ส่วนปัญหาฝุ่นละออง ธปท.คาดว่ายังไม่กระทบกับการท่องเที่ยว ทั้งนี้ นักลงทุนจะเฝ้าติดตามมุมมองต่อภาวะเศรษฐกิจการเงินของกนง.เพื่อประเมินทิศทางและจังหวะเวลาสำหรับการปรับดอกเบี้ยในระยะถัดไป