“AECS ” หุ้นไทยรับข่าวบวกเจรจาการค้าสหรัฐ-จีนคืบ แนะลงทุนหุ้นได้อานิสงส์ค่าเงินบาทแข็งค่า –กลุ่มโรงพยาบาล-กลุ่มจำนำทะเบียนรถ

อังคาร ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๙ ๑๔:๓๖
บล.เออีซี ระบุ หุ้นไทยตอบรับปัจจัยบวกต่างประเทศการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ส่งสัญญาณดีขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดเลื่อนระยะเวลาการเก็บภาษีจีนออกไปจากเดิม 1 มีนาคม และเปิดเจรจารอบใหม่ปลายเดือนมีนาคมนี้ พร้อมแนะจับตาการชัตดาวน์สภาอีกครั้ง หากไม่ผ่านงบสร้างกำแพงของสหรัฐ และการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจ โดยให้กรอบการลงทุนแนวรับ 1,661 จุด แนวต้าน 1,78 จุด แนะกลยุทธ์ลงทุนหุ้นได้รับอานิสงส์ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น –กลุ่มโรงพยาบาล-กลุ่มจำนำทะเบียนรถ

บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) หรือ AECS ระบุว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยมีทิศทางเชิงบวกมากขึ้น โดยได้ปัจจัยหนุนจากความคืบหน้าการเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีนเป็นหลัก เนื่องจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลทรัมป์ ประกาศเลื่อนการขึ้นภาษีนำเข้าออกไปจากวันที่ 1 มี.ค. เพื่อให้มีเวลาในการเจรจามากขึ้น และอาจมีการเจรจาการค้ากันในช่วงปลายเดือน มี.ค. ที่สนามกอล์ฟของทรัมป์ในรัฐฟลอริด้า โดยสหรัฐได้มีข้อตกลงเบื้องต้นกับจีนจะมีการซื้อสินค้าทั่วไปและสินค้าโภคภัณฑ์จากสหรัฐฯ 10 รายการมูลค่า 1.2 ล้านล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยเสี่ยงจากการประกาศใช้ภาวะฉุกเฉินแห่งชาติโดยประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลทรัมป์ เพื่อให้มีงบในการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก เมื่อวันที่ 15 ก.พ. ที่ผ่านมาอาจถูกยับยั้งโดยสภาคองเกรสหากมีมติมากกว่า 2 ใน 3 ในสภาฯ แต่ทรัมป์ยังมีอำนาจในการคัดค้านหรือวีโตได้

รวมทั้งตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ที่จะประกาศในสัปดาห์นี้ ได้แก่ GDP ไตรมาสที่ 4 , ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต (ISM ManufacturingPMI) ประจำเดือน ก.พ. ที่ตลาดคาดว่าจะออกมาชะลอตัว และจับตาท่าทีของสหรัฐฯและยุโรปในช่วง 90 วันที่อยู่ระหว่างการพิจารณาขึ้นภาษีรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ โดยก่อนหน้านี้นายโดนัลด์ ทรัมป์เคยขู่ที่จะใช้มาตรการ Safe Guard ในสินค้ากลุ่มดังกล่าวด้วยการเก็บภาษีสูงถึง 25%

ส่วนตลาดหุ้นไทยมีทิศทางเชิงบวก จากความคืบหน้าที่ดีขึ้นหลังการประชุมผู้นำเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน บวกกับ เม็ดเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติที่พลิกกลับมาซื้อสุทธิใน MTD ทำให้มองว่า SET Index มีแนวต้านระยะสั้นที่ 1,667 จุด และแนวต้านระยะกลางรอทดสอบที่ระดับ 1,678 จุด แนะนำกลยุทธ์ซื้อ 3 กลุ่มหุ้นเด่น ดังนี้ 1. กลุ่มที่ได้รับอานิสงส์ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น แนะนำ SYNEX, FTE และ AAV 2. กลุ่มโรงพยาบาล เป็นหุ้นกลุ่ม Defensive ที่น่าสนใจยามตลาดผันผวน จากกระแสเงินสดแข็งแกร่ง

ไม่ผันผวนตามสภาวะเศรษฐกิจและธุรกิจยังสามารถขยายตัวได้ต่อเนื่องแนะนำ EKH, RJH, BCH และ BDMS 3.กลุ่มจำนำทะเบียนรถ รับผลบวกจากกฎระเบียบมีความชัดเจนยิ่งขึ้น แนะนำ SAWAD และ MTC

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๑ เม.ย. อ.อ.ป. ร่วม พิธีสรงน้ำพระ ขอพร เนื่องในวันสงกรานต์ประจำปี 2567 ทส.
๑๑ เม.ย. 1 จาก 1,159 ศูนย์การค้า เดอะ พาลาเดียม เวิลด์ ช้อปปิ้ง ส่งมอบลอตเตอรี่ที่ไม่ถูกรางวัล จำนวน 125,500 ใบ ให้กับศูนย์สาธารณสงเคราะห์เด็กพิเศษ วัดห้วยหมู
๑๑ เม.ย. JPARK ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ผถห. อนุมัติปันผล 0.0375 บาทต่อหุ้น
๑๑ เม.ย. สเก็ตเชอร์ส สนับสนุนเทคโนโลยีเพื่อความสบายแก่บุคลากรทางการแพทย์ บริจาครองเท้ารุ่น GOwalk 7(TM) สำหรับบุคลากรทางการแพทย์
๑๑ เม.ย. ศูนย์คนหายไทยพีบีเอส ร่วมกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ทำงานเชิงป้องกัน เก็บก่อนหาย ในผู้สูงอายุ
๑๑ เม.ย. จุฬาฯ อันดับ 1 ของไทย การจัดอันดับมหาวิทยาลัยโดย QS WUR by Subject 2024
๑๑ เม.ย. ครั้งแรกในไทย 'Pet Us' เนรมิตพื้นที่จัดกิจกรรม มะหมามาหาสงกรานต์ ชวนน้องหมาทั่วทั้ง 4 ภาคร่วมสนุกในช่วงสงกรานต์ 13-14 เมษายน ตอกย้ำความสำเร็จฉลอง 'Pet Us' ครบ 3
๑๑ เม.ย. LINE STICKER OCHI MOVE จาก OCEAN LIFE ไทยสมุทร คว้ารางวัลชนะเลิศ Best Sponsored Stickers in Insurance ในงาน LINE THAILAND AWARDS
๑๑ เม.ย. วว. ผนึกกำลังหน่วยงานเครือข่าย พัฒนาเชื่อมโยงการค้า ตลาด วิจัย เทคโนโลยี นวัตกรรม สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
๑๑ เม.ย. บริษัท เค วัน วัน ดี จำกัด ถือฤกษ์ดีจัดพิธีบวงสรวง ซีรี่ส์ Girl's Love เรื่องใหม่ Unlock Your Love : รักได้ไหม ?