ฟิทช์ เรทติ้งส์: บริษัทประกันชีวิตไทยปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ ในขณะที่แนวโน้มอุตสาหกรรมมีการแข่งขันสูงขึ้น

ศุกร์ ๐๘ มีนาคม ๒๐๑๙ ๑๑:๐๑
ฟิทช์เชื่อว่าการที่บริษัทประกันชีวิตในประเทศไทยให้ความสำคัญมากขึ้นกับคุณภาพของแหล่งที่มาของรายได้จะส่งผลดีต่อฐานะทางเครดิต (Credit profile) ของบริษัท โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่บริษัทดำเนินธุรกิจภายใต้สภาวะทางธุรกิจที่มีความท้าทายสูง อีกทั้งผลิตภัณฑ์บางประเภทเผชิญกับแนวโน้มการแข่งขันที่สูงขึ้นและอาจกดดันความสามารถในการทำกำไรของบริษัทได้

บริษัทประกันชีวิตชั้นนำบางแห่งได้เริ่มปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจโดยมุ่งเน้นปัจจัยด้านคุณภาพของรายได้เพิ่มขึ้นซึ่งสอดคล้องกับมุมมองของฟิทช์ที่มีความเห็นว่ารายได้ของธุรกิจที่มีคุณภาพดีและสม่ำเสมอจะช่วยสนับสนุนฐานะทางเครดิตโดยรวมของบริษัทได้ โดยเฉพาะการดำเนินธุรกิจประกันชีวิตในสภาวะที่อัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับต่ำและกฏเกณฑ์การกำกับดูแลมีความเข้มงวดมากขึ้น

การเติบโตของอุตสาหกรรมประกันชีวิตไทยในช่วงเวลาที่ผ่านมานั้นมาจากการขยายตัวของเบี้ยประกันของผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตแบบชำระเบี้ยครั้งเดียว (Single Premium) และผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ซึ่งมีมูลค่าเบี้ยประกันสูง แต่ขณะนี้บริษัทประกันชีวิตชั้นนำบางแห่งได้เริ่มปรับปรุงประเภทของผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอให้กับลูกค้ารายใหม่ เนื่องจากการคาดการณ์ถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากความเสี่ยงของตัวผลิตภัณฑ์และจากมาตรฐานการบัญชีฉบับใหม่ที่จะประกาศใช้ในอนาคต ดังนั้นบริษัทประกันชีวิตจะเน้นการขายผลิตภัณฑ์ประเภทให้ความคุ้มครอง (Protection) เนื่องจากผลิตภัณฑ์ประเภทดังกล่าวมีอัตรากำไรที่ดีกว่าและบริษัทจะมีเบี้ยรับที่สม่ำเสมอมากกว่า

สมาคมประกันชีวิตไทยคาดว่าเบี้ยประกันชีวิตจะมีอัตราการขยายตัวที่ 3%-5% ในปี 2562 ซึ่งใกล้เคียงกับอัตราการขยายตัวของเบี้ยประกันชีวิตรับในปีก่อนหน้า โดยปัจจัยกดดันที่สำคัญของอุตสาหกรรมจะยังคงเป็นภาระหนี้สินครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจของประเทศไทยที่ไม่สูง และกฏระเบียบที่บังคับใช้กับอุตสาหกรรมประกันชีวิตมีความเข้มงวดมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เบี้ยประกันรับจากผลิตภัณฑ์ประเภทคุ้มครองสุขภาพและผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน (investment-linked) จะสามารถขยายตัวต่อไปในระยะกลางจากความต้องการของผู้บริโภคที่อยู่ในระดับสูง

บริษัทประกันชีวิตไทยน่าจะไม่เปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ลงทุนอย่างมีนัยสำคัญในระยะสั้นเนื่องจากโดยภาพรวมบริษัทประกันชีวิตยังคงดำเนินนโยบายการลงทุนที่ระมัดระวังรวมถึงเงินกองทุนที่อาจต้องดำรงเพิ่มขึ้นภายใต้เกณฑ์การดำรงเงินกองทุนตามความเสี่ยงในระยะที่สอง (RBC2) ที่มีความเข้มงวดเพิ่มขึ้นหากมีการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งเกณฑ์การดำรงเงินกองทุนฯ ดังกล่าวของประเทศไทยน่าจะเริ่มมีผลบังคับใช้ภายในปี 2562

รายงานเรื่อง "Thailand Life Insurance Market Dashboard 2019" สามารถดูได้จาก www.fitchratings.com

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๑:๓๘ โอซีซี มอบฝาขวดน้ำ เพื่อทำเก้าอี้ให้น้อง ๆ ในโรงเรียนขาดแคลน
๑๑:๑๘ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จับมือมหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดศูนย์ทดสอบหลักสูตร CISA ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
๑๑:๓๕ 'ราชบุรี มีลาย' อนุรักษ์มรดกแห่งภูมิปัญญาท้องถิ่น ชูอัตลักษณ์ 'ลายผ้าราชาบุรี (กาบโอ่งนกคู่) รองผู้ว่าฯ เมืองโอ่ง
๑๑:๕๓ พีทีที สเตชั่น ร่วมกับ ทิพยประกันภัย มอบความสะดวกและรวดเร็ว ซื้อประกันภัยผ่าน QR Code
๑๑:๐๙ FTI จัดงานประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2567 ผถห.อนุมัติจ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น
๑๐:๑๙ รมว.อว. เป็นประธานเปิดบูธนิทรรศการผลงาน @ Thai Pavilion พร้อมให้กำลังใจนักประดิษฐ์ไทย นำเสนอผลงานสิ่งประดิษฐ์นานาชาติเจนีวา ครั้งที่
๑๐:๔๖ BRIDGESTONE TURANZA T005 EV ยางพรีเมียมสมรรถนะสูงสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า เหนือระดับด้วยเทคโนโลยี ENLITEN(R)ได้รับเลือกเป็นยางล้อมาตรฐานติดตั้งในรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ MG4 XPOWER
๐๙:๑๔ อพท. เปิดรับสมัคร สุดยอดนวัตกรรมเพื่อการท่องเที่ยวยั่งยืน เพื่อพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ชิงเงินรางวัลกว่า 130,000
๐๙:๔๑ หนังสือ Royal Thai Cuisine ตำรับอาหารไทยชาววัง วิทยาลัยดุสิตธานี
๑๘ เม.ย. เด็ก ม.กรุงเทพ ยกทีม คว้าชนะเลิศครีเอทคลิปสั้นได้ใจฟูมาก