นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JWD ผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชนระดับอาเซียน เปิดเผยว่า หลังจากคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทฯ มีมติอนุมติให้ JWD Asia Holding Private Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในประเทศสิงคโปร์และบริษัท Prosper Logistics Joint Stock Company ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในประเทศเวียดนาม เข้าดำเนินการซื้อหุ้น 23.66% ในบริษัท TRANSIMEX CORPORATION ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์อย่างครบวงจร ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศรายใหญ่ในประเทศเวียดนามที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์และมีมูลค่าหลักทรัพย์อยู่ใน 500 อันดับแรก โดยใช้เงินลงทุนรวมประมาณ 527.4 ล้านบาท (ประมาณ 390,000 ล้านดองเวียดนาม) ล่าสุดได้ดำเนินการรับโอนหุ้นเป็นที่เรียบร้อย พร้อมทั้งได้รับสิทธิ์เป็นกรรมการใน TRANSIMEX CORPORATION 1 ตำแหน่งในปัจจุบัน ซึ่งถือเป็นการลงทุนใหญ่ครั้งสำคัญในปีนี้เพื่อขยายธุรกิจในภูมิภาคอาเซียนให้ครบ 9 ประเทศภายในปีนี้
การเข้าลงทุนครั้งนี้คาดว่าจะส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานของ JWD ในปีนี้ เนื่องจากจะเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรตามสัดส่วนการถือหุ้นใน TRANSIMEX CORPORATION ตั้งแต่ไตรมาส 2/62 เป็นต้นไป โดยปัจจุบัน TRANSIMEX CORPORATION เป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์อย่างครบวงจรรายใหญ่อันดับ 3 ในเวียดนาม ในปีที่ผ่านมามีรายได้ประมาณ 3,000 ล้านบาท และกำไรสุทธิประมาณ 300 ล้านบาท และคาดว่าจะเห็นผลการดำเนินงานเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในปีนี้
ทั้งนี้ TRANSIMEX CORPORATION ดำเนินธุรกิจตั้งแต่ปี 2526 ปัจจุบันมีธุรกิจหลัก ได้แก่ สถานีคัดแยกและบรรจุสินค้ารวมถึงศูนย์กระจายสินค้า (ICD & DC) ให้บริการโลจิสติกส์และขนส่งสินค้า (Logistics & Transportation) ตัวแทนนำเข้าและส่งออกสินค้าระหว่างประเทศรวมถึงตัวแทนสายการเดินเรือ (Freight Forwarding & Shipping Agency) และธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เกี่ยวเนื่องกับโลจิสติกส์ (Real Estate) โดยมีพื้นที่ให้บริการรวมประมาณ 4 แสนตารางเมตร และมีเน็ตเวิร์กด้านการให้บริการโลจิสติกส์ที่แข็งแกร่งซึ่งจะช่วยสร้างฐานธุรกิจที่เข้มแข็งในเวียดนาม
ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JWD กล่าวว่า ปัจจัยที่เข้าลงทุนใน TRANSIMEX CORPORATION เพื่อรุกขยายฐานธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ในประเทศเวียดนาม ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายการขยายธุรกิจในภูมิภาคอาเซียน เนื่องจากเวียดนามเป็นประเทศที่มีศักยภาพการเติบโตที่ดี เศรษฐกิจอยู่ในช่วงที่กำลังขยายตัว และเป็นฐานการผลิตสินค้าที่สำคัญในภูมิภาคนี้ จึงมีความต้องการใช้บริการด้านโลจิสติกส์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่านับตั้งแต่ปี 2562 – 2567 ภาพรวมธุรกิจให้บริการ
โลจิสติกส์และตัวแทนนำเข้า-ส่งออกสินค้า จะมีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ย 14 – 16% ต่อปี ถือว่ามีการขยายตัวที่ดีมาก
"เรามองว่าการขยายธุรกิจในเวียดนาม นอกจากจะส่งผลดีต่อการขยายธุรกิจให้บริการด้านโลจิสติกส์แล้ว จะช่วยส่งเสริมแผนงานขยายธุรกิจให้บริการอาหาร (Food Service) อีกด้วย เนื่องจาก TRANSIMEX CORPORATION เพิ่งรุกเข้าสู่ธุรกิจห้องเย็น และเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจร ในอนาคตจึงสามารถร่วมมือกันขยายธุรกิจโลจิสติกส์ในด้านอื่น ๆ อาทิ การรับฝากและขนส่งสินค้าเคมีภัณฑ์ สินค้าอันตราย และยานยนต์ ซึ่ง JWD มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมานาน" นายชวนินทร์ กล่าว