กูรูคาด"FPI"กำไรปีนี้ทะยาน 50%จากปีก่อน อานิสงส์ลดต้นทุนล็อกราคาวัตถุดิบ-เพิ่มกำลังการผลิต

พุธ ๑๐ เมษายน ๒๐๑๙ ๑๐:๕๑
กูรูคาด"FPI"กำไรปีนี้เติบโต 50%จากปีก่อนแตะ 188 ล้านบาท เนื่องจากเพิ่ประสิทธิภาพการลดต้นทุน โดยล็อกราคาวัตถุดิบล่วงหน้า พร้อมเพิ่มกำลังผลิต ช่วยลดผลกระทบบาทแข็งค่าได้เป็นอย่างดี ขณะที่ยอดขายในภูมิภาคตะวันออกกลางฟื้นตัว ประเมินอัตรากำไรขั้นต้นแตะ 20-21% แนะทยอยซื้อหุ้น พร้อมเคาะราคาพื้นฐานหุ้นละ 3 บาท

บล.คิงฟอร์ด จำกัด(มหาชน) เผยแพร่บทวิเคราะห์ว่า จากการประชุมนักวิเคราะของบริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) หรือFPI ประเมินว่าแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส1/62 คาดกำไรฟื้นตัวจากงวดเดียวกันปีก่อน ซึ่งการที่ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้รวมกลับมาเติบโต 12%มาอยู่ที่ 2,200 ล้านบาท โดยได้แรง หนุนจาก ยอดขายในภูมิภาคตะวันออกกลางฟื้นตัว โดยเฉพาะลูกค้ารายใหญ่ในประเทศซาอุดิอาระเบีย เริ่มกลับมาสั่งซื้อสินค้าหลังจากที่ชะลอตัวในปีก่อนเนื่องจากปรับเพิ่มภาษีVAT 5% การรับรู้รายได้จากการขายชิ้นส่วนงาน OEM ราว 200 ล้านบาทต่อปี จากลูกค้าในประเทศ (TOYOTA) และงานส่งออก ออสเตรเลีย (MAZDA)

นอกจากนี้ เพื่อลดผลกระทบจากค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่า บริษัทจึงวางแผนเพิ่มกำลังผลิตและการลดต้นทุนด้วยการล็อกราคาวัตถุดิบล่วงหน้า รวมถึงปรับปรุงการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่วนค่าใช้จ่ายในการบริหาร SG&A คาดว่าจะลดลงจากปีก่อน จากการจัดเก็บหนี้ค้างชำระและคุมค่าใช้จ่ายที่ปรึกษาในการทำโครงการต่างๆได้ดีเบื้องต้นเราคาดว่าจะช่วยให้อัตรากำรขั้นต้นขยับขึ้นมาที่ระดับ 20-21%

ขณะที่ประเมินส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนเข้ามาราว18 ล้านบาท เทียบจากปีก่อน 3.5 ล้านบาท หลักๆจากSAFE ที่มีกำไรจากโรงไฟฟ้าชีวมวลดีขึ้น เนื่องจากต้นทุนเศษไม้เริ่มมีการปรับตัวลดลงในเดือนม.ค.ถึงก.พ. และผลการดำเนินงานในอินเดียดีขึ้น เบื้องต้นประเมินกำไรสุทธิปี62-63 มีโอกาสฟื้นตัว 50% จากงวดเดียวกันปีก่อน และปี 63 อยู่ที่ 198ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิราว 8-9%

"ทั้งนี้เรามองว่า แนวโน้มผลประกอบการจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วและน่าจะทยอยดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส1/62 เป็นต้นไป โดยภาพรวมมองธุรกิจการขายชิ้นส่วนยานยนต์ในตลาด After Market ยังคงเติบโตได้ด้วยจำนวนตัวเลขรถยนต์สะสมทั้งโลกที่ขยายตัวราว 5-6%ต่อปี แม้ว่าอนาคตจะมี EV Car มาทดแทนแต่เราเชื่อว่า จะไม่ส่งผลกระทบต่อบริษัทเนื่องจากยังมีตลาดรถเก่าในประเทศที่กำลังพัฒนา (ตะวันออกกลาง แอฟริกา เอเชีย ถือเป็นฐานลูกค้าหลักในปัจจุบันของบริษัท) รองรับไปอีกมากกว่า 18ปี(อิงการประเมินของสมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย) รวมถึงสินค้าส่วนใหย่อย่างกันชน หรือชุดแต่งก็เป็นชิ้นส่วนที่มีโอกาสการเปลี่ยนทดแทนกันบ่อยๆ "

อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้นอาจจะขาย Sentimentบวก เรื่องการเลื่อนนำ SAFE Energy เข้าตลาดออกไป เนื่องจากยังต้องหาโครงการใหม่ๆเข้ามาเพิ่มเติม ส่วนValuationหากลองประเมินเบื้องต้นที่พีอีเรโช 24.5 เท่า ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยย้อนหลังในอดีต 5 ปี ใกล้เคียงกับอัตราการเติบโตปี 62-63 ราว 25% (โดยมองว่าซื้อขายที่พีอีเรโชสูงกว่า กลุ่มยานยนต์ได้เพราะเป็นธุรกิจTrading) เบื้องต้นได้ราคาเหมาะสมที่ 3 บาท ด้วยDownside ที่ค่อนข้างต่ำมากแล้ว น่าจะเป็นโอกาสในการทยอยซื้อ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๙ เม.ย. บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๙ เม.ย. รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๙ เม.ย. กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๙ เม.ย. ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๙ เม.ย. กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๙ เม.ย. เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๙ เม.ย. สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๙ เม.ย. GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๙ เม.ย. เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๙ เม.ย. เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4