กรุงศรีคาดเงินบาทซื้อขายในกรอบ 31.50-31.85 จับตาสงครามการค้ากดดันดอลลาร์

จันทร์ ๑๓ พฤษภาคม ๒๐๑๙ ๑๕:๐๕
กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่ามีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 31.50-31.85 ต่อดอลลาร์ เทียบกับระดับปิดแข็งค่าที่ 31.57 ต่อดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังเงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 6 สัปดาห์ ขณะที่ภาพทางการเมืองของไทยชัดเจนมากขึ้น สวนทางกับค่าเงินหยวนซึ่งร่วงลงต่ำสุดในรอบ 4 เดือน ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 6.3 พันล้านบาท แต่ซื้อพันธบัตร 1.0 พันล้านบาท ด้านเงินดอลลาร์อ่อนค่าต่อเนื่องเทียบกับเงินยูโรและเยนซึ่งแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 3 เดือนส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯปรับตัวลดลงทุกช่วงอายุ

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า ความกังวลเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ในรอบนี้ไม่เพียงแต่ส่งผลลบต่อเงินหยวน แต่กลับมากดดันค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ให้อ่อนลงด้วย ซึ่งเป็นปฏิกิริยาที่แตกต่างจากปี 2561 ในครั้งนั้นดอลลาร์ยังได้แรงหนุนจากวัฎจักรการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ทั้งนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่าไม่รีบร้อนที่จะลงนามในข้อตกลงทางการค้ากับจีน โดยสหรัฐฯ เริ่มปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้าเป็น 25% จาก 10% สำหรับสินค้าจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ และรัฐบาลจีนประกาศจะตอบโต้ นอกจากนี้ ช่วงกลางสัปดาห์ตลาดจะให้ความสนใจกับข้อมูลยอดค้าปลีกของสหรัฐฯหลังจากดัชนีราคาผู้บริโภคออกมาต่ำกว่าคาด

สำหรับปัจจัยภายในประเทศ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติด้วยเสียงเอกฉันท์ให้ตรึงดอกเบี้ย โดยระบุว่าภาวะการเงินยังเอื้อต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ แต่ยังคงต้องติดตามความเสี่ยงต่อเสถียรภาพระบบการเงิน เช่น กรณีการก่อหนี้ของภาคครัวเรือน ส่วนความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกและปัจจัยในประเทศยังมีอยู่มาก และกนง.ต้องการรอประเมินผลกระทบต่างๆ ให้ชัดเจนมากขึ้น โดยทางการประเมินว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มเติบโตต่ำกว่าที่ประเมินไว้ที่ 3.8% ตามการส่งออกสินค้าและการลงทุนที่ชะลอลง ขณะที่อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มใกล้เคียงกับขอบล่างของกรอบเป้าหมายที่ 1-4% สำหรับเงินบาท กนง.คาดว่ายังเคลื่อนไหวสอดคล้องกับสกุลเงินภูมิภาค แต่อัตราแลกเปลี่ยนยังมีแนวโน้มยังผันผวน อนึ่ง การยืนยันว่าไทยจะไม่ปรับดอกเบี้ยตามต่างประเทศแต่จะพิจารณาจากปัจจัยในประเทศเป็นหลักสนับสนุนมุมมองของเราที่ว่ากนง.จะคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ตลอดปี 2562 แม้หลายประเทศ อาทิ อินเดีย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ ได้ลดดอกเบี้ยไปแล้วก็ตาม โดยทิศทางดังกล่าวอาจหนุนค่าเงินบาทอีกทางหนึ่ง

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐:๕๙ ซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล ให้การต้อนรับอาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.ศรีปทุม
๒๐:๓๑ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่เพื่อติดตามความก้าวหน้าตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
๒๐:๕๒ Vertiv เปิดตัวดาต้าเซ็นเตอร์ไมโครโมดูลาร์รุ่นใหม่ที่มี AI ในเอเชีย
๒๐:๐๙ พิธีขึ้นเสาเอก เปิดไซต์ก่อสร้าง โครงการ แนชเชอแรล ภูเก็ต ไพรเวท พูลวิลล่า บ้านเดี่ยวบนทำเลทองใจกลางย่านเชิงทะเล
๒๐:๔๖ เขตบางพลัดประสาน รฟท.-กทพ. ปรับภูมิทัศน์ เพิ่มพื้นที่สีเขียวหน้าสถานีรถไฟบางบำหรุ
๒๐:๕๘ ร่วมแสดงความยินดีแก่อธิบดีกรมยุโรป ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิลด์
๒๐:๐๓ กทม. เดินหน้าจัดกิจกรรมริมคลองโอ่งอ่าง ส่งเสริมอัตลักษณ์ กระตุ้นเศรษฐกิจ-การท่องเที่ยว
๒๐:๔๙ พาราไดซ์ พาร์ค ร่วมกับ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก พาคุณไปสัมผัสการนวดเพื่อสุขภาพจาก 4 ภูมิภาคของไทย
๒๐:๒๔ Digital CEO รุ่นที่ 7 เรียนรู้เข้มข้นต่อเนื่อง จากวิทยากรชั้นนำของวงการ
๒๐:๒๔ เด็กไทย คว้ารางวัลระดับโลก โดรนไทย ชนะเลิศนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ทางด้านอากาศยานไร้คนขับ UAV ณ กรุงเจนีวา