7UPกางแผนระยะสั้น-ระยะยาวชี้แจงผู้ถือหุ้น มั่นใจปลดเครื่องหมาย “C” ภายในไตรมาส3/62

อังคาร ๐๔ มิถุนายน ๒๐๑๙ ๑๐:๑๙
7UP จัดชี้แจงผู้ถือหุ้น เปิดแผนระยะสั้น-ระยะยาว เร่งเครื่องแรงทุกธุรกิจ พลังงาน –ปั๊มน้ำมัน- สาธารณูปโภค และสื่อสาร มั่นใจดันผลประกอบการพลิกเป็นบวกตั้งแต่ไตรมาส 2/62 หนุนส่วนทุนเกิน 50% คาดปลดเครื่องหมาย "C" ได้ภายในไตรมาส 3/62 พร้อมเผยมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติออกและเสนอขาย 7UP-W4 จำนวน 605.91 ล้านหน่วย อายุ 3 ปี เสนอขายผู้ถือหุ้น สัดส่วน 5:1 ในราคา 0.05 บาท

นายสิทธิชัย กฤชวิวรรธน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซเว่น ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ7UP เปิดเผยว่า บริษัทได้จัดประชุมชี้แจงต่อผู้ถือหุ้น ผู้ลงทุนและผู้ที่เกี่ยวข้อง ถึงแผนธุรกิจของบริษัทในระยะสั้นและระยะยาว มีวัตถุประสงค์มุ่งแก้ไขให้ส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทสูงกว่า 50%ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว เพื่อปลดเครื่องหมาย "C"

สำหรับแผนในระยะสั้น คาดว่าจะรับรู้ผลเชิงบวกจาก 4 ธุรกิจหลัก ประกอบด้วย 1.ธุรกิจโรงไฟฟ้า คาดว่าจะบันทึกกลับการตั้งด้อยค่าในส่วนของโรงไฟฟ้าวิทัยมูลค่า 50 ล้านบาทได้ในไตรมาส2/2562 และคู่สัญญาได้เสนอให้โรงไฟฟ้าในภาคใต้ 2 แห่ง กำลังการผลิตรวม 6 เมกกะวัตต์ เพื่อทดแทนโรงไฟฟ้าวิทัย โดยมีราคาขายไฟสูงถึง 5.14 บาทต่อหน่วย

2.ธุรกิจปรับปรุงคุณภาพน้ำ ดำเนินธุรกิจภายใต้บริษัทย่อย บริษัท แซม วอเตอร์ ซัพพลาย จำกัด(SAM) ได้ส่งมอบงานปรับปรุงคุณภาพน้ำสำหรับฟาร์มกุ้งให้กับบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด(มหาชน)หรือCPF เฟสที่ 1 จำนวน 5 โครงการ กำลังการผลิต 50,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ทุก 10,000 ลูกบาศก์เมตร จะคิดค่าบริการประมาณ 1 ล้านบาท เริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2562 และจะส่งมอบงานเฟสที่ 2 จำนวน 2 โครงการ กำลังการผลิต 14,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ภายในไตรมาส 3/2562 ขณะที่เฟสที่ 3 จะเป็นโครงการปรับปรุงคุณภาพน้ำในระบบปิด(Green House) กำลังการผลิต 2 แสนลูกบาศก์เมตรต่อวัน คาดว่าจะได้ข้อสรุปในปี 2562 นี้

ทั้งนี้ ธุรกิจปรับปรุงคุณภาพน้ำมีความต้องการและโอกาสเติบโตสูงในอนาคต จากความต้องการใช้น้ำของ CPF และผู้ประกอบการรายอื่น ทำให้บริษัทมีความมั่นใจว่าธุรกิจดังกล่าวจะกลายเป็นหนึ่งในธุรกิจหลัก สร้างรายได้สำคัญในอนาคต

3.ธุรกิจวิทยุสื่อสารโทรคมนาคม ผ่านการลงทุนในบริษัทย่อย บริษัท อินฟอร์เมติกซ์ พลัส จำกัด หรือIFP ล่าสุดได้รับงานวางสายไฟเบอร์ออพติคมูลค่า 15 ล้านบาท และคาดว่าจะได้รับงานในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวมูลค่าราว 10 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ โดยเฟสแรกคาดว่ามีระยะทาง 146 กิโลเมตร

4.กลุ่มธุรกิจแก๊ส ด้วยจำนวนสถานีบริการแก๊สLPG ที่มี 30 แห่ง ในปีที่ผ่านมาสร้างรายได้ให้กับบริษัท 400 ล้านบาท และมีกำไร 40 ล้านบาท คาดว่าในปี 2562 นี้ จะยังสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับบริษัท

"บริษัทมีความเชื่อมั่นว่าด้วยผลของมาตรการระยะสั้นนี้จะส่งผลบวกให้ผลประกอบการของบริษัทพลิกเป็นบวกได้ตั้งแต่ไตรมาส 2/2562 นี้ และคาดว่าภายในไตรมาส 3/2562 จะสามารถปลดเครื่องหมาย "C" ได้ ขณะเดียวกันบริษัทได้ศึกษาโครงการลงทุนในระยะยาวควบคู่ไปกับการดำเนินแผนระยะสั้น เพื่อมุ่งสร้างการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพให้กับบริษัท"นายสิทธิชัยกล่าว

สำหรับแผนระยะยาวจะประกอบไปด้วย ธุรกิจกำจัดขยะ กำจัดกากขยะอุตสาหกรรม ปัจจุบันได้รับใบอนุญาตจัดการกากอุตสาหกรรมประเภท 101 105 และ 106 และปี 2563 จะเริ่มก่อสร้างเตาเผาขยะ กำลังการผลิต 330 ตันต่อวัน และระดับกำลังการผลิตดังกล่าวสามารถผลิตไฟฟ้าจำนวน 9 เมกกะวัตต์ บริษัทมีความเชื่อมั่นว่าธุรกิจกำจัดขยะจะเป็นอีกธุรกิจในอันที่จะสร้างรายได้หลัก เนื่องจากความตื่นตัวในการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมของผู้ประกอบการ และพบว่าค่าธรรมเนียมของการกำจัดขยะอุตสาหกรรมอยู่ในช่วง 3,500-12,000 บาทต่อตัน สูงกว่าขยะครัวเรือนหลายเท่าตัว

ขณะเดียวกันบริษัทเตรียมจะเสนอตัวเป็นผู้กำจัดสารปนเปื้อนบนแท่นขุดเจาะน้ำมัน ภายในระยะเวลา 15-20 ปี โดยต้องดำเนินการภายใต้สนธิสัญญามินามาตะว่าด้วยการกำจัดสารปรอท ซึ่งจะต้องล้างสารปรอทรวมถึงสิ่งปนเปื้อนก่อนจะนำไปดำเนินการในขั้นตอนที่เกี่ยวข้องต่อไป

บริษัทยังมีความสนใจลงทุนร่วมกับบริษัท โกลด์ ชอร์ส จำกัด เพื่อรับสัมปทานธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำประปาให้กับการประประส่วนภูมิภาค(กปภ.) เพื่อส่งน้ำประปาให้กับจังหวัดภูเภ็ต ขณะนี้รอความชัดเจนในเรื่องของแผนธุรกิจคาดจะได้ข้อสรุปในเดือนกรกฎาคม 2562

พร้อมกันนี้ บริษัทฯได้จัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2562 ที่ประชุมมีมติให้ออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท รุ่นที่ 4 (7UP - W4) หรือ วอร์แรนต์ จำนวนไม่เกิน 605.91 ล้านหน่วย เสนอขายให้ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ตามสัดส่วนการถือหุ้น ในอัตราส่วน 5 หุ้นสามัญ ต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ ในราคาหน่วยละ 0.05 บาท

วอร์แรนต์ดังกล่าว มีอายุ 3 ปี กำหนดให้ใช้สิทธิแปลงสภาพในเดือนมิถุนายนของทุกปี เริ่มตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นไป กำหนดราคาใช้สิทธิครั้งที่ 1 ที่ 0.50 บาทต่อหุ้น การใช้สิทธิครั้งที่ 2 ที่ราคา 1.25 บาทต่อหุ้น และการใช้สิทธิครั้งที่ 3 ที่ราคา 2.25 บาทต่อหุ้น

ลักษณะธุรกิจของ7UP

กลุ่มบริษัทประกอบธุรกิจหลัก 4 ธุรกิจ ได้แก่ 1.) ธุรกิจตัวแทนนายหน้าในการจัดจำหน่าย แก๊ส LPG 2.) ธุรกิจพลังงานทดแทน/พลังงานทางเลือก 3.) ธุรกิจวิทยุสื่อสารโทรคมนาคม และ Internet of Things (IoT) และ4.) ธุรกิจปรับปรุงคุณภาพน้ำสำหรับฟาร์มกุ้ง

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๒:๑๔ องค์การบรรจุภัณฑ์โลก จับมือ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย ร่วมจัดกิจกรรมสัมมนาออนไลน์
๑๒:๑๒ การแข่งขันกีฬาขี่ม้าโปโลรายการ King Power International Ladies' Polo Tournament 2024
๑๒:๔๔ DEXON ปักธงรายได้ปี 67 ทะลุ 700 ลบ. โชว์ Backlog เฉียด 280 ลบ. ล็อคมาร์จิ้น 35-40%
๑๒:๑๐ JPARK ร่วมงาน Dinner Talk ผู้บริหารจดทะเบียนพบนักลงทุน จ.ราชบุรี
๑๒:๒๓ นีเวีย ซัน และ วัตสัน จับมือต่อปีที่สองชวนดูแลท้องทะเล กับโครงการ เพราะแคร์ จึงชวนแชร์ ร่วมพิทักษ์รักษ์ทะเลไทย
๑๒:๕๗ Cloud เทคโนโลยีที่อยู่ใกล้ตัว เพียงแค่คุณไม่รู้เท่านั้นเอง
๑๒:๒๘ โรยัล คานิน ร่วมกับ เพ็ทแอนด์มี จัดงาน Royal Canin Expo 2024: PAWRENTS' DAY เพื่อสร้างโลกที่ดีขึ้นสำหรับน้องแมวและน้องหมา
๑๒:๑๐ STEAM Creative Math Competition
๑๒:๔๔ A-HOST ร่วมวาน MFEC Inspire ขึ้นบรรยายพร้อมจัดบูธ Cost Optimization Pavilion
๑๒:๔๗ ฟินเวอร์! ส่องความคิ้วท์ 'ฟอส-บุ๊ค' ควงคู่ร่วมงาน Discover Thailand เสิร์ฟโมเมนต์ฉ่ำให้แฟนๆ ได้ดับร้อนกันยกด้อมรับซัมเมอร์ และร่วมส่งต่อความสุขในกิจกรรม 'Exclusive Unseen Food Trip กับ คู่ซี้