นายศีลวัต สันติวิสัฎฐ์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า จากการเปิดให้บริการหนังสือค้ำประกันบนอินเทอร์เน็ต (K CONNECT-LG) ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถขอออกหนังสือค้ำประกัน ต่ออายุหนังสือฯ ผ่านระบบออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน ล่าสุดธนาคารกสิกรไทยได้พัฒนายกระดับบริการด้วยการเชื่อมต่อกับเทคโนโลยีบล็อกเชนของบริษัท บีซีไอ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อให้บริการหนังสือค้ำประกันของธนาคารอยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์อย่างครบวงจร 100% ตั้งแต่การขอออกหนังสือค้ำประกัน การต่ออายุหนังสือค้ำประกัน จนถึงการวางหนังสือค้ำประกันที่ส่งตรงถึงผู้รับวางหนังสือค้ำประกันทันที ช่วยอำนวยความสะดวกและลดต้นทุนในการจัดการเอกสารและการดูแลข้อมูล ตลอดจนลดขั้นตอนในการทำงาน ของลูกค้าภายใต้ความปลอดภัยระดับโลก ด้วยการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการให้การใช้งานคล่องตัวขึ้น ปลอดภัย เชื่อถือได้ ป้องกันการปลอมแปลงหนังสือค้ำประกัน ทำให้ผู้ออกหนังสือค้ำประกันสามารถวางหนังสือค้ำประกันได้เร็วขึ้น ผู้รับวางหนังสือค้ำประกันสามารถตรวจสอบเอกสารได้รวดเร็ว และสามารถตรวจสอบสถานะได้ตลอด 24 ชั่วโมง
นายศีลวัต กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงแรกธนาคารจะเปิดให้บริการหนังสือค้ำประกันบนอินเทอร์เน็ตผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชนกับกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ 3 ราย ได้แก่ เอสซีจี บริษัท จีซี มาร์เก็ตติ้ง โซลูชั่นส์ จำกัด และไออาร์พีซี นอกจากนั้นลูกค้าที่ยังต้องการหนังสือค้ำประกันฉบับจริง ยังสามารถรับเอกสารที่สาขาธนาคารได้เร็วขึ้นภายใน 5 ชั่วโมง จากเดิมต้องใช้เวลาถึง 1 วัน ช่วยให้ลูกค้ารู้กำหนดเวลาที่แน่นอน วางแผนการทำธุรกิจได้คล่องตัวยิ่งขึ้น ทั้งยังสามารถสั่งพิมพ์ใบเสร็จค่าธรรมเนียมหนังสือค้ำประกันจากระบบเพื่อนำส่งให้กรมสรรพากรได้อีกด้วย ลูกค้าที่สนใจใช้บริการ K CONNECT-LG สามารถสมัครใช้บริการได้ที่ผู้ดูแลความสัมพันธ์ลูกค้า หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ K-BIZ Contact Center 02-8888822
ทั้งนี้ ในปี 2561 มีการออกหนังสือค้ำประกันผ่านระบบสถาบันการเงินไทยมูลค่ากว่า 1.35 ล้านล้านบาท จำนวนมากกว่า 500,000 ฉบับ ซึ่งธนาคารกสิกรไทยมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 29% เป็นอันดับ 1 ในตลาดในขณะนี้ โดยมีสัดส่วนการใช้บริการหนังสือค้ำประกันผ่านช่องทางสาขา 68% และช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ 32% โดยตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนการใช้บริการผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์เป็น 50% ภายในสิ้นปี 2563 นี้