นางสาวสุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SYNEX เปิดเผยถึง แนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่าจะเติบโตกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากเป็นช่วง
ไฮซีซั่นของธุรกิจ มีการเปิดตัวสินค้าใหม่รุ่น Flagship ออกวางจำหน่ายในช่วงปลายปีจำนวนมาก ขณะที่ สินค้ากลุ่มคอมเมอร์เชียลมีโอกาสเติบโตสูง มีอัตรากำไรที่ดี และอยู่ในเทรนด์ตามความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ได้แก่ สินค้ากลุ่ม Cloud service, Security และ IoT (Internet of Things) รวมทั้ง สินค้า Gaming ที่อยู่ในกระแสความนิยม ตลาดขยายตัวเพิ่มขึ้น เป็นโอกาสให้ซินเน็คฯ จัดจำหน่ายสินค้าควบคู่กับบริการที่มีคุณภาพออกสู่ตลาดต่อไป
ทั้งนี้ ซินเน็คฯ วางกลยุทธ์เพื่อการเติบโตในช่วงครึ่งปีหลัง ทั้งในด้านกิจกรรมการตลาด การขาย และการขยายไปยังโอกาสใหม่ ๆ มั่นใจภาพรวมปี 2562 จะสามารถเดินตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 จากปีก่อนมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 38,400 ล้านบาท
ล่าสุด ประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/2562 มีรายได้จากการขายและบริการ 7,881 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 17.67 จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 9,573 ล้านบาท มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 119 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 26.30 จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 161 ล้านบาท รายได้ที่ลดลงเนื่องจากการชะลอคำสั่งซื้อสินค้าของผู้บริโภคในกลุ่มคอนซูเมอร์ ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน อย่างไรก็ดี สินค้ากลุ่มคอมเมอร์เชียลยังมีแนวโน้มการเติบโตที่สูงขึ้น ตลอดจนการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องตามความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และความต้องการของลูกค้า รวมทั้ง การจัดกิจกรรมการตลาด เข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายทั่วประเทศ ควบคู่กับการบริหารจัดการภายใน ควบคุมค่าใช้จ่ายในอัตราที่เหมาะสม
สำหรับผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทฯมีผลการดำเนินงานในภาพรวมลดลงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา มีรายได้จากการขายและบริการ 17,435 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 5.67 จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 18,484 ล้านบาท มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 303 ล้านบาท ลดลงร้อยละ18.36 จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 371 ล้านบาท
"ปัจจัยหลักที่ทำให้รายได้จากการขายและบริการลดลง เนื่องจากการชะลอคำสั่งซื้อสินค้าของผู้บริโภคในกลุ่มคอนซูเมอร์ ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน อย่างไรก็ดี สถานการณ์ดังกล่าวได้เริ่มพลิกฟื้นกลับมาดีขึ้น โดยซินเน็คฯ มีจุดแข็งจากการเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าไอทีและสมาร์ทโฟนรวมกว่า 60 แบรนด์ชั้นนำ พร้อมที่จะขยายโอกาสการเติบโตไปยังตลาดอื่น ๆ ได้อีกมาก
และยังคงเน้นการจำหน่ายสินค้ากลุ่มคอมเมอร์เชียลที่มีอัตราการเติบโตสูง ตลอดจนการนำสินค้าใหม่ เสริมพอร์ต ครอบคลุมด้วยการให้บริการอย่างเต็มรูปแบบทั้งก่อนและหลังการขาย เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า มั่นใจจะสนับสนุนให้รายได้และผลการดำเนินงานฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลัง นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญต่อการควบคุมค่าใช้จ่ายทั้งด้านการจัดจำหน่ายและการบริหาร โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยบริหารจัดการให้ธุรกิจดำเนินไปได้อย่างรวดเร็ว เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ และสร้างโอกาสการเจริญเติบโตของธุรกิจได้อย่างยั่งยืนในอนาคต" นางสาวสุธิดา กล่าว
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 0.15 บาท คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลต่อกำไรสุทธิสำหรับงวดที่ร้อยละ 40.54 โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 20 สิงหาคม 2562 และกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 2 กันยายน 2562 เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้นที่ให้การสนับสนุนไว้วางใจอย่างสม่ำเสมอ และตอกย้ำความเชื่อมั่นแผนการเติบโตของบริษัทฯ