Money Expo Korat 2019 เงินสะพัดกว่า 1 หมื่นล้านบาท แบงก์เจาะเศรษฐีภูธรคนแห่ลงทุนเพิ่ม

พุธ ๑๔ สิงหาคม ๒๐๑๙ ๑๔:๑๑
งานมหกรรมการเงินโคราช ครั้งที่ 13 Money Expo Korat 2019 จัดโดย วารสาร "การเงินธนาคาร" วันที่ 9-11 สิงหาคม 2562 ยอดเงินสะพัดในงาน 3 วันกว่า 10,000 ล้านบาท สินเชื่อบ้าน/รีไฟแนนซ์บ้านยอดฮิตกว่า 4,200 ล้านบาท ผู้ประกอบการขอสินเชื่อเอสเอ็มอี 2,400 ล้านบาท ประชาชนแห่ลงทุนเพิ่มผลตอบแทน ดันยอดซื้อประกันทะลุ 1,500 ล้านบาท ฝากเงิน/ซื้อสลากออมทรัพย์/พันธบัตร/หุ้นกู้กว่า 660 ล้านบาท ลงทุนกองทุนรวมกว่า 350 ล้านบาท

นางสาวภาคนี วิริยะรังสฤษฎ์ ประธานจัดงานร่วมงานมหกรรมการเงิน Money Expo เปิดเผยว่า งานมหกรรมการเงินโคราช ครั้งที่ 13 Money Expo Korat 2019 ระหว่างวันที่ 9-11 สิงหาคม 2562 ณ เอ็มซีซี ฮอลล์ เดอะมอลล์ นครราชสีมา ประสบความสำเร็จอย่างดีอีกครั้ง โดยมีประชาชนและผู้ประกอบการธุรกิจในโคราชและจังหวัดใกล้เคียงเดินทางมาเช้าชมงานอย่างคึกคักกว่า 200,000 คน ส่งผลให้มียอดธุรกรรมทางการเงินการลงทุนเกิดขึ้นในงาน 3 วัน รวม 10,400 ล้านบาท จากผู้สมัครใช้บริการกว่า 26,800 ราย

สินเชื่อบ้านและรีไฟแนนซ์บ้าน ยังครองแชมป์อันดับ 1 มีผู้สมัครใช้บริการเป็นวงเงิน 4,220 ล้านบาท โดยธนาคารได้ให้บริการสินเชื่อบ้านภายในงานอย่างครบวงจรทั้ง ซื้อ สร้าง ต่อเติม ซ่อมแซม และไถ่ถอน จำนอง พร้อมโปรโมชั่นอัตราดอกเบี้ยต่ำสุด 0% แถมด้วยสิทธิพิเศษต่างๆ เช่น การยกเว้นค่าธรรมเนียมประเมินราคา ค่าจดจำนอง ค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ ซึ่งประชาชนที่ยื่นขอกู้ในงานสามารถรู้ผลการอนุมัติสินเชื่อเบื้องต้นได้ทันที

สินเชื่อเอสเอ็มอี มียอดเงินกู้สูงเป็นอันดับ 2 กว่า 2,400 ล้านบาท โดยมีแคมเปญอัตราดอกเบี้ยพิเศษสำหรับเจ้าของธุรกิจที่ยื่นขอกู้ภายในงาน เช่น อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ต่ำสุด 5.5% ต่อปี และให้วงเงินกู้สูงสุดถึง 100 ล้านบาท ส่วนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ใช้ระบบบัญชีเดียวจะได้รับอัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นพิเศษเพียง 1% ต่อปี

ปีนี้ผลิตภัณฑ์ด้านการออมและการลงทุนได้รับความสนใจเป็นพิเศษ เนื่องจากประชาชนที่เข้าชมงานต้องการเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนในภาวะอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มลดลง และธนาคารได้นำทีม Wealth มาให้บริการด้านการลงทุนเพื่อสร้างความมั่งคั่งให้กับลูกค้าภายในงานอีกด้วย

"ประชาชนผู้เข้าชมงานสนใจรับคำปรึกษาจากทีมงานผู้เชี่ยวชาญเพื่อวางแผนการเงินการลงทุนอย่างคึกคัก ทั้งการตรวจเช็กสุขภาพทางการเงิน การวางแผนการเงินการลงทุนในแต่ละช่วงชีวิต เช่น การเรียนต่อ การแต่งงาน การซื้อบ้าน รวมถึงการเกษียณอายุ"

โดยมียอดซื้อ ประกันชีวิต/ประกันภัยและแบงก์แอสชัวรันส์ สูงเป็นอันดับ 3 คิดเป็นทุนประกัน 1,520 ล้านบาท แบบประกันที่ลูกค้าให้ความสนใจคือ แบบประกันประเภทสะสมทรัพย์มีเงินคืนทุกปี โดยรับเงินคืนสูงสุดปีละ 10% คิดเป็นผลตอบแทนเฉลี่ย (IRR) 2-3% ต่อปี และได้รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษี

รวมทั้ง ยังสนใจซื้อประกันสุขภาพเริ่มต้นที่ทุนประกัน 20-100 ล้านบาท คุ้มครองได้ทั่วโลก และประกันวินาศภัย ได้แก่ ประกันอัคคีภัยบ้านและโรงงาน ประกันการเดินทาง ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล โดยสำนักงาน คปภ. ได้นำ "ประกันภัย 100" มาแจกให้กับผู้เข้าชมงานที่ร่วมเล่นเกมในบูธ โดยจะได้รับความคุ้มครองกรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุสูงสุด 100,000 บาท และกรณีเสียชีวิตจากการเจ็บป่วย 5,000 บาท

"นอกจากผู้เข้าชมงานจะสนใจลงทุนซื้อประกันชีวิตเพราะได้รับผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นแล้ว ภายในงานยังมีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าที่มาซื้อประกันเฉพาะในงานเท่านั้น เช่น ซื้อประกันชีวิต รับทันที ทองคำแท่ง 20 บาท แพ็กเกจทัวร์ริเวียร่า-ไต้หวัน/ญี่ปุ่น กระเป๋าเดินทาง บัตรของขวัญ ฯลฯ ตามเบี้ยประกันที่กำหนด, ซื้อประกันสุขภาพ/ประกันวินาศภัยในราคาส่วนลดพิเศษ และยังผ่อนจ่ายเบี้ยประกันได้ด้วยอัตราดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 10 เดือน"

อันดับ 4 เงินฝากและสลากออมทรัพย์/พันธบัตร/หุ้นกู้ มีมูลค่ารวมกว่า 660 ล้านบาท ซึ่งภายในงานมีบริการเปิดบัญชีเงินฝากดิจิทัลที่สมัครผ่านโมบายล์แบงกิ้งโดยไม่ต้องใช้สมุดคู่ฝาก โดยให้อัตราดอกเบี้ยสูงกว่าบัญชีออมทรัพย์ปกติ เช่น เงินฝากออมทรัพย์ดิจิทัล ซีไอเอ็มบี ไทย อัตราดอกเบี้ย 2% ต่อปี, ME by TMB 1.7% ต่อปี, ออมทรัพย์ SCB Easy 1.5% ต่อปี และ K-eSavings 1.5% ต่อปี นอกจากนี้ ยังมีลูกค้ารายใหญ่มาฝากเงินภายในงานเพื่อรับโปรโมชั่นพิเศษ ทั้งอัตราดอกเบี้ยและของพรีเมี่ยมที่มอบให้เฉพาะลูกค้าที่ทำธุรกรรมในงานเท่านั้น

ปีนี้ยอดเงินลงทุนใน กองทุนรวม มีมูลค่ากว่า 350 ล้านบาท กองทุนที่ได้รับนิยมคือ กองทุนผสมตราสารหนี้และตราสารทุน โดยผู้ลงทุนยอมรับความเสี่ยงสูงขึ้นเพื่อให้มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่มากขึ้น, กองทุน Term Fund อายุ 6 เดือน หรือ 1 ปี ซึ่งเป็นโค้งสุดท้ายก่อนที่จะมีการเก็บภาษีกองทุนตราสารหนี้ในวันที่ 20 สิงหาคมนี้ และกองทุน LTF & RMF สำหรับผู้ที่ต้องการใช้สิทธิ์ในการลดหย่อนภาษี ประกอบกับเป็นจังหวะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวลดลงทำให้การลงทุนในกองทุนหุ้นมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น

นางสาวภาคนีกล่าวว่า ผู้เข้าชมงานได้สมัครใช้บริการ สินเชื่อบุคคล รวมกว่า 6,100 ราย วงเงินกว่า 560 ล้านบาท สมัคร บัตรเครดิต กว่า 11,000 ราย วงเงินกว่า 550 ล้านบาท และ สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์/มอเตอร์ไซค์ มียอดกู้รวมกว่า 100 ล้านบาท

ด้านตลาดทุน ผู้เข้าชมงานได้เปิด บัญชีซื้อขายหุ้น/ตราสารอนุพันธ์/ทองคำ จำนวนกว่า 400 บัญชี และผู้เข้าชมงานยังสมัครใช้ บริการออนไลน์และดิจิทัล เช่น บริการอินเทอร์เน็ตแบงกิ้ง โมบายล์แบงกิ้ง บริการพร้อมเพย์อีกกว่า 1,900 ราย

การจัดงานมหกรรมการเงินในภูมิภาคครั้งต่อไป จะมีขึ้นที่จังหวัดระยอง คือ งานมหกรรมการเงินระยอง ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 6-8 กันยายน 2562 ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ระยอง ซึ่งเป็นการจัดงานเป็นครั้งแรกเพื่อให้บริการทางการเงินและการลงทุนด้วยโปรโมชั่นพิเศษแก่ชาวระยอง และประชาชนในจังหวัดใกล้เคียงในภาคตะวันออก

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๒:๓๖ โรงพยาบาลพระรามเก้า คว้ารางวัล Digital Transformation Initiative of the Year 2024 จากเวที Healthcare Asia Awards
๑๒:๐๐ กลับมาอีกครั้งกับงานช้อปอย่างมีสไตล์ รายได้เพื่อชุมชน ครั้งที่ 14 เดอะไนน์ เซ็นเตอร์ ติวานนท์ ชวนมาช้อป ชม ของดี ของเด็ดประจำจังหวัดปทุมธานี ระหว่าง 4 - 10
๑๒:๓๙ เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ สนับสนุนพื้นที่ กรมพลศึกษา จัดแข่งขันกีฬากระบี่กระบองระหว่างโรงเรียน กิจกรรมสร้างสรรค์เสริมทักษะเยาวชน ส่งเสริม SOFT POWER
๑๑:๑๕ TOA ย้ำแชมป์สีเบอร์หนึ่ง คว้า 2 รางวัลใหญ่ 'สุดยอดองค์กร และแบรนด์สีที่ผู้บริโภคเชื่อมั่นมากที่สุด' 13 ปีซ้อน Thailand's Most Admired Company Brand ปี
๑๑:๔๒ ไทยพีบีเอสยกระดับรู้เท่าทันภัยออนไลน์ ผนึกกำลัง 8 หน่วยงาน ป้องกัน-กวาดล้างอาชญากรรมไซเบอร์
๑๑:๕๘ ศิษย์เก่าวิศวฯ SPU กว่า 5 ทศวรรษ ร่วมย้อนวันวานในงาน วิศวฯ คืนถิ่น SEAN HOMECOMING 2024
๑๑:๑๓ เฮงลิสซิ่ง ร่วมสืบสานประเพณีท้องถิ่น ฉลองวันแห่งชัยชนะท้าวสุรนารี ประจำปี 2567
๑๑:๔๕ YouTrip สาดความคุ้มต้อนรับสงกรานต์กับ 2 โปรพิเศษ 4.4 Travel Sale และ Japan Mega Cashback รับส่วนลดสุดคุ้มจากแบรนด์ท่องเที่ยวดัง และเงินคืนสูงสุด 2,000
๑๑:๕๒ คณะเศรษฐศาสตร์ ม.รามคำแหง เชิญเข้าร่วมงานสัมมนาวิชา อนาคตเศรษฐกิจไทย: ยืดหยุ่นและยั่งยืน
๑๑:๑๐ เจแอลแอล ประเทศไทย เผยเทรนด์ ESG ของปี 2567 และเป้าหมายสู่อุตสาหกรรมสีเขียวของวงการอสังหาฯ