กรุงศรีคาดเงินบาทซื้อขายในกรอบ 30.50-30.80 จับตามาตรการอีซีบี หลังค่าเงินยูโรอ่อน

จันทร์ ๐๙ กันยายน ๒๐๑๙ ๑๖:๐๖
กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาท ในสัปดาห์นี้ว่ามีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 30.50-30.80 ต่อดอลลาร์ เทียบกับระดับปิดอ่อนค่าที่ 30.66 ต่อดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นและพันธบัตรไทย 3.5 พันล้านบาท และ 1.16 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ ส่วนเงินดอลลาร์แข็งค่าเทียบกับเยน ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้นและสินทรัพย์เสี่ยงได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่าสหรัฐฯ และจีนจะหาทางยุติสงครามการค้ารวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่แข็งแกร่งเกินคาด

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า ตลาดจะจับตาการประชุมธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) วันที่ 12 ก.ย. ซึ่งคาดว่าจะมีมติลดอัตราดอกเบี้ยลงและส่งสัญญาณการดำเนินโครงการเข้าซื้อสินทรัพย์รอบใหม่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี เงินยูโรอ่อนค่าลงนับตั้งแต่การประชุมเมื่อเดือนก.ค. สะท้อนคาดการณ์ของตลาดเกี่ยวกับแนวโน้มการผ่อนคลายนโยบายการเงิน ดังนั้น มาตรการของอีซีบีอาจไม่เพียงพอที่จะกระตุ้นแรงขายเงินยูโรรอบใหม่ นอกจากนี้ นักลงทุนจะให้ความสนใจกับข้อมูลเงินเฟ้อและยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ หลังจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่แย่กว่าคาด ไม่กระทบดอลลาร์มากนัก และประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) กล่าวว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ไม่มีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะถดถอย ส่วนเงินปอนด์มีแนวโน้มผันผวนสูงแม้ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี หลังสมาชิกรัฐสภาอังกฤษ อนุมัติร่างกฎหมายเลื่อนเส้นตาย Brexit ออกไปเป็นครั้งที่สาม โดยเรามองว่าความหวังที่จะหาทางออกที่ราบรื่นของ Brexit อาจเป็นเพียงการยื้อเวลาความไม่แน่นอนออกไป

สำหรับปัจจัยในประเทศ กระทรวงพาณิชย์คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 2562 จะเพิ่มขึ้น 0.8-0.9% ต่ำกว่าขอบล่างของกรอบเป้าหมายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) โดยเป็นผลจากฐานราคาน้ำมันที่สูงในปี 2561 และเงินบาทแข็งค่า ส่วนอุปสงค์ในประเทศมีสัญญาณชะลอตัว ทั้งนี้ ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ เงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ระดับ 0.87% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 0.55% เราคาดว่ากนง. มีแนวโน้มที่จะใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนปรนมากขึ้นและส่งสัญญาณการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้งในการประชุมเดือน ก.ย. เนื่องจากผลกระทบทางเศรษฐกิจจากปัจจัยภายนอกมีความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งเรามองว่า กนง. จะปรับลดดอกเบี้นนโยบายลงสู่ระดับ 1.25% ภายในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๒ บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๗:๓๓ รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๗:๔๔ กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๗:๔๒ ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๗:๑๕ กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๗:๑๕ เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๗:๒๙ สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๗:๑๐ GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๗:๔๓ เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๖:๓๖ เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4