JCK พร้อมแล้ว สำหรับอานิสงส์ผังเมือง EEC – สงครามการค้า ผู้ประกอบการแห่ย้ายฐานการผลิตมาไทย นิคม TFD คาด ปีนี้กวาดยอดขายที่ดิน 150 – 200 ไร่

พฤหัส ๒๖ กันยายน ๒๐๑๙ ๑๕:๔๒
JCK ยิ้มรับอานิสงส์ผังเมือง EEC และสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐ กดดันผู้ประกอบการย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทย โดยเฉพาะพื้นที่ที่อยู่ในเขต EEC ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ส่งผลให้นิคมอุตสาหกรรม TFD ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเข้ามาดูพื้นที่อย่างต่อเนื่อง คาดปีนี้จะกวาดยอดขายที่ดิน 150-200 ไร่

นายอภิชัย เตชะอุบล ประธานกรรมการ บริษัท เจซีเค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (JCK) หรือชื่อเดิมคือ บมจ.ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม (TFD) เปิดเผยว่า จากการที่รัฐบาลให้ความสำคัญและส่งเสริมโครงการ Eastern Economic Corridor (EEC) หรือ โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ซึ่งเป็นแผนยุทธศาสตร์ภายใต้ไทยแลนด์ 4.0 ด้วยการพัฒนาเชิงพื้นที่ ที่ต่อยอดความสำเร็จมาจากแผนพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ Eastern Seaboard โดยมีเป้าหมายหลักในการเติมเต็มภาพรวมในการส่งเสริมการลงทุน เป็นการยกระดับอุตสาหกรรมของประเทศ โดยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและทำให้เศรษฐกิจของไทยเติบโตได้ในระยะยาว

โดยระยะแรกจะเป็นการยกระดับพื้นที่ในเขต 3 จังหวัด คือ ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา ซึ่งในพื้นที่ดังกล่าว บริษัทฯ มีนิคมอุตสาหกรรมอยู่ในเขตจังหวัดฉะเชิงเทรา คือ นิคมอุตสาหกรรม TFD 1 และนิคมอุตสาหกรรม TFD 2 ตั้งขนานกับถนนมอเตอร์เวย์กรุงเทพ-ชลบุรี กม.42 อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา จึงทำให้เป็นที่ดึงดูดใจผู้ประกอบการที่จะเข้ามาลงทุนในพื้นที่ของบริษัทฯ

ประกอบกับมีประเด็นความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ จนเกิดสงครามการค้าขึ้นมาตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคม 2561 โดยสหรัฐได้จัดเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ทำให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมที่มีฐานการผลิตอยู่ในประเทศจีนต่างได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว ผู้ประกอบการเหล่านั้นจึงพากันย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศอื่น โดยมีประเทศไทยอยู่ในตัวเลือกลำดับต้นๆ โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ EEC ซึ่งรัฐบาลได้ให้สิทธิพิเศษแก่นักลงทุนเป็นพิเศษ

"นิคม TFD ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก เพราะอยู่ในพื้นที่ EEC อยู่ใกล้กรุงเทพมหานครใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 30 นาทีเท่านั้น โดยนักลงทุนได้เริ่มเข้ามาดูพื้นที่อย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2562 เป็นต้นมา คาดว่าภายในปีนี้น่าจะมียอดการขายที่ดิน 150-200 ไร่"

ประธานกรรมการ JCK กล่าวต่อถึงเรื่องที่ดินเช่าจากกรมธนารักษ์ ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษนครพนม เนื้อที่ประมาณ 1,335 ไร่ ว่าปัจจุบันกำลังปรับปรุงผังการใช้ประโยชน์ที่ดิน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและจะเริ่มเข้าทำการปรับพื้นที่ในปลายปีนี้ คาดว่าจะเริ่มสร้างรายได้ให้แก่บริษัทตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นไป โดยขณะนี้บริษัทฯได้รับการติดต่อจากผู้ประกอบการทั้งชาวไทยและต่างชาติหลายรายที่มีความประสงค์ เข้าร่วมกับบริษัทฯเพื่อทำการพัฒนาที่ดินแปลงนี้ โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาและตัดสินใจเลือกผู้ประกอบการที่มีศักยภาพที่จะเข้ามาเป็นพันธมิตรกับบริษัทฯ เพื่อนำความรู้และความชำนาญของแต่ละฝ่ายมาขับเคลื่อนร่วมกันดำเนินโครงการ ONE NAKRONPHANOM

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๒ บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๗:๓๓ รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๗:๔๔ กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๗:๔๒ ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๗:๑๕ กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๗:๑๕ เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๗:๒๙ สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๗:๑๐ GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๗:๔๓ เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๖:๓๖ เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4