“พีดับเบิ้ลยูซี” เผยรายได้ปี 62 โต 7% มาที่ 4.24 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

จันทร์ ๐๗ ตุลาคม ๒๐๑๙ ๑๑:๒๗
- ใช้เป้าประสงค์ในการขับเคลื่อนการเติบโตของรายได้ให้แข็งแกร่งในทุก ๆ ตลาดหลักและทุก ๆ สายงานของธุรกิจ

- พีดับเบิ้ลยูซีช่วยสร้างงานใหม่จำนวน 25,000 งาน ทำให้จำนวนพนักงานในปัจจุบันเพิ่มเป็น 276,000 ราย

- ลงทุนกว่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในการเสริมทักษะใหม่ให้แก่พนักงาน รวมทั้งพัฒนาและแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีเพื่อช่วยเหลือลูกค้าและชุมชน

- ยึดมั่นในการแก้ปัญหาช่องว่างทางทักษะให้เข้าถึงผู้คนอีกหลายล้านคนโดยทำงานร่วมกับรัฐบาล ธุรกิจ และองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร

- คุณภาพของการตรวจสอบบัญชีรุดหน้า ด้วยการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อปรับปรุงคุณภาพในทุก ๆ ธุรกิจ

- ขยายการลงทุนหลักทางด้านเทคโนโลยีสู่การเป็นหนึ่งในองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยคลาวด์มากที่สุดในโลก

PwC เผยรายได้ทั่วโลกในปี 62 โต 7% มาอยู่ที่ 4.24 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยรายได้ใน 3 สายงานทั้งธุรกิจตรวจสอบบัญชี ธุรกิจที่ปรึกษา และบริการด้านกฎหมายและภาษีในทุก ๆ ตลาดสำคัญเติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าลงทุนเพื่อปรับปรุงคุณภาพในทุก ๆ ธุรกิจ และเพิ่มพูนทักษะใหม่ โดยเฉพาะทักษะด้านดิจิทัล ให้แก่พนักงานทั่วโลก เพื่อให้สามารถให้คำปรึกษาแก่ลูกค้า ชุมชน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นายบ็อบ มอริตซ์ ประธาน บริษัท PwC โกลบอล เปิดเผยว่า บริษัทสมาชิกในเครือข่ายมีรายได้รวมกันในช่วง 12 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2562 อยู่ที่ 4.24 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.29 ล้านล้านบาท) หรือเติบโต 7% จากปีก่อน ตามอัตราแลกเปลี่ยนท้องถิ่น (หรือ 4% เมื่อคำนวณตามสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ) โดยรายได้ใน 3 สายงานทั้งธุรกิจตรวจสอบบัญชี ธุรกิจที่ปรึกษา และบริการด้านกฎหมายและภาษีในทุก ๆ ตลาดสำคัญเติบโตเพิ่มขึ้น เพราะได้รับแรงสนับสนุนจากแบรนด์ที่ทรงพลังบวกกับการลงทุนที่สำคัญอย่างต่อเนื่องเพื่อปรับปรุงคุณภาพและเพิ่มศักยภาพทั้งทางด้านเทคโนโลยีและบุคลากร

ในขณะที่ลูกค้าของเรากำลังเผชิญกับความท้าทายและโอกาสที่เพิ่มขึ้นจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ความคาดหวังของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และการเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ พวกเขาต้องการให้เราทำงานร่วมกันทั่วทั้งองค์กรเพื่อช่วยลูกค้าจัดการกับปัญหาต่าง ๆ เช่น ความปลอดภัยทางไซเบอร์ ความไว้วางใจ กฎระเบียบ และ การวางแผนเชิงกลยุทธ์ทางด้านกำลังคน ด้วยเหตุนี้ ธุรกิจของเราในสายงานเหล่านี้จึงเติบโตอย่างรวดเร็วเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น

"ในช่วงปีที่ผ่านมา เรายังมุ่งเน้นการส่งมอบคุณค่าให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของเราอย่างต่อเนื่อง โดยได้ทำงานอย่างหนักในการสร้างความไว้วางใจและช่วยเหลือลูกค้าให้สามารถแก้ปัญหาที่มีความสลับซับซ้อน ด้วยเหตุนี้ เราจึงเห็นการเติบโตของธุรกิจในทุกตลาดหลักทั่วโลก โดยการเติบโตที่แข็งแกร่งของรายได้นี้ ยังช่วยให้เราสามารถลงทุนในธุรกิจและบุคลากร ซึ่งการลงทุนในเทคโนโลยีจะช่วยให้เราสามารถบริการลูกค้าได้ถูกจุดมากขึ้นและเพิ่มคุณภาพให้กับงานของเรา

"ปัจจุบันเครือข่ายของ PwC ทั่วโลกมีพนักงานรวมทั้งสิ้น 276,000 คนและเรากำลังลงทุนอย่างมากในด้านการเรียนรู้และพัฒนาเพื่อให้แน่ใจว่า คนของเราจะสามารถสร้างอาชีพที่คุ้มค่าให้กับตนเองและได้รับการเตรียมพร้อมให้เข้าสู่โลกของการทำงานในอนาคต" นายบ็อบ มอริตซ์ กล่าว

ผลประกอบการดีทั่วโลก

ในทวีปอเมริกา รายได้เติบโต 5% เปรียบเทียบกับ 4% ในปีก่อนหน้า นำโดยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัท PwC ประเทศสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ซึ่งชดเชยกับสภาวะทางเศรษฐกิจที่ท้าทายในประเทศบราซิล ที่มีรายได้เพิ่มขึ้น 2% ขณะที่รายได้ในทวีปยุโรปตะวันตกเพิ่มขึ้น 7% ส่วนรายได้ในทวีปยุโรปกลางและยุโรปตะวันออก เติบโตอย่างต่อเนื่องที่ 10% ซึ่งถือเป็นการเติบโตด้วยตัวเลข 2 หลักติดต่อกันเป็นปีที่ 4

ในส่วนของการเติบโตของรายได้ในทวีปตะวันออกกลางและแอฟริกาก็แข็งแกร่งเช่นกัน โดยเพิ่มขึ้น 9% แม้จะเผชิญกับสภาวะตลาดที่ท้าทาย ในส่วนของทวีปเอเชีย รายได้เพิ่มขึ้น 9% ขณะที่ออสตราเลเซียและแปซิฟิก ก็เห็นการเติบโตที่แข็งแกร่งอีกหนึ่งปีด้วยรายได้ที่เพิ่มขึ้น 10%

ธุรกิจตรวจสอบบัญชี: แม้สภาวะการแข่งขันในตลาดจะมีความรุนแรงและก้าวหน้าไปมาก ผลการดำเนินงานของธุรกิจตรวจสอบบัญชีของ PwC มีรายได้เพิ่มขึ้น 5% ที่ 1.74 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ด้วยจำนวนพนักงานทางด้านตรวจสอบบัญชีของ PwC กว่า 115,000 คนทั่วโลกทำให้เราสามารถจัดการความท้าทายของการบังคับให้มีการหมุนเวียนบริษัทผู้สอบบัญชีในหลาย ๆ ตลาดและดึงดูดลูกค้าใหม่ ๆ ด้วยการประยุกต์ใช้โซลูชั่นและเทคโนโลยีสำหรับบริการตรวจสอบบัญชีที่ล้ำสมัย นอกจากนี้ ความต้องการของบริการตรวจสอบบัญชี ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่องทั้งในเรื่องของการตรวจสอบภายใน ความเสี่ยงและการต้องปฏิบัติตาม รวมไปถึงประเด็นเกิดใหม่อื่น ๆ เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง คริปโทเคอร์เรนซี และ บล็อกเชน

ธุรกิจที่ปรึกษา: ผลการดำเนินงานของธุรกิจที่ปรึกษาของ PwC มีรายได้เพิ่มขึ้น 10% ที่ 1.44 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เราได้สร้างชื่อเสียงที่แข็งแกร่งในด้านการส่งมอบคุณค่าให้แก่ลูกค้าตั้งแต่การวางกลยุทธ์ไปจนถึงการปฏิบัติ นี่ช่วยผลักดันให้ความต้องการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริการที่เกี่ยวกับดีล การสร้างคุณค่า และการเปลี่ยนถ่ายธุรกิจ ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ปัจจุบันธุรกิจที่ปรึกษาของ PwC มีพนักงานจำนวนทั้งสิ้น 68,000 คน เรามีบุคลากรมากทักษะและความสามารถที่ไม่จำกัดเฉพาะการบริหารแบบดั้งเดิม หรือที่ปรึกษาเชิงกลยุทธ์ทั่ว ๆ ไป แต่เรายังมีนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล ผู้เชี่ยวชาญทางด้านปัญญาประดิษฐ์ วิศวกรระบบ นักออกแบบ ผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ และอื่น ๆ ที่พร้อมจะช่วยเสนอโอกาสและทางออกของปัญหาทางธุรกิจที่สำคัญให้แก่ลูกค้า นอกจากนี้ เรายังเป็นพันธมิตรกับบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำหลายแห่งของโลก เพื่อช่วยสร้างสรรค์โซลูชั่นที่ล้ำสมัยให้แก่ลูกค้าด้วย

บริการทางด้านภาษีและกฎหมาย: รายได้เพิ่มขึ้น 6% ที่ 1.07 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ขับเคลื่อนโดยงานที่ PwC เข้าไปช่วยลูกค้าจัดการความสลับซับซ้อนของข้อกำหนดด้านภาษีและกฎหมายและการเปลี่ยนแปลงของระบบภาษีท้องถิ่น รวมไปถึงกฎระเบียบข้อบังคับทั่วโลกที่เข้มข้นขึ้นและสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านภาษีและกฎหมายจำนวน 55,000 คนของเรา นำเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดมาช่วยลูกค้าแก้ปัญหาความซับซ้อนทางธุรกิจ จัดการความเสี่ยง รวมทั้งสร้างเครือข่ายพันธมิตร และแก้ปัญหาความท้าทายทางกฎหมายเพื่อให้มั่นใจว่า ลูกค้าได้แสดงความรับผิดชอบทางภาษีและอื่น ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ โดยบริการที่มีความต้องการสูงยังรวมถึงบริการทางด้านบุคลากรและองค์กร บริการทางด้านกฎหมาย และ บริการทางด้านการรายงานภาษีและกลยุทธ์

โลกใหม่ ทักษะใหม่

กลายเป็นเรื่องที่ชัดเจนมากขึ้นว่า หนึ่งในความท้าทายสำคัญของโลกที่ภาคธุรกิจกำลังเผชิญวันนี้คือ ความไม่ตรงกันของทักษะที่คนมีกับทักษะที่จะเป็นที่ต้องการในโลกดิจิทัลกำลังปรับตัวเพิ่มขึ้น นี่จึงถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่องค์กร รัฐบาล และผู้ให้การศึกษาต้องร่วมมือกันในการแก้ปัญหานี้ ขณะที่ภาคธุรกิจเองก็มีบทบาทสำคัญไม่แพ้กัน ในอีก 4 ปีข้างหน้า เรายึดมั่นที่จะลงทุนกว่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในการเพิ่มพูนทักษะใหม่ (Upskilling) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฝึกอบรมบุคลากรของเรา พร้อมกับพัฒนาและแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนลูกค้าและชุมชน

"ช่องว่างทางทักษะ ถือเป็นหัวใจสำคัญของเป้าประสงค์ของเรา โดยเราเชื่อว่าทั้งขนาดและประสบการณ์ที่เรามี เราจะสามารถสร้างผลกระทบที่สามารถวัดผลให้เกิดขึ้นได้ในเรื่องนี้ นี่จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมเราถึงได้เปิดโครงการโลกใหม่ ทักษะใหม่ เพื่อแสดงเจตนารมณ์ในการแก้ปัญหาสำคัญให้แก่คนของเรา ลูกค้าของเรา และชุมชนที่เราประกอบกิจการอยู่" นายบ็อบ มอริตซ์ กล่าว

ทั้งนี้ โปรแกรมดังกล่าวมุ่งเน้นไปที่ 4 หัวใจสำคัญ ได้แก่

- การเพิ่มพูนทักษะใหม่ให้แก่พนักงานทั้ง 276,000 ราย เราจะเปิดตัวกิจกรรมใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสถาบันการศึกษาทางทักษะ แอปพลิเคชันความพร้อมด้านดิจิทัล ไปจนถึงการพัฒนาความเป็นผู้นำ โดยแรงงานของเราส่วนหนึ่งจะได้รับการพัฒนาทักษะของผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง ระบบออโตเมชัน และปัญญาประดิษฐ์ เพื่อประยุกต์ใช้กับงานที่ทำ สำหรับแรงงานอื่น ๆ จะได้รับการฝึกอบรมให้มีความเข้าใจถึงศักยภาพของเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อที่พวกเขาจะได้สามารถให้คำปรึกษาแก่ลูกค้า ชุมชน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่น ๆ ได้

- เราให้คำปรึกษาแก่ลูกค้าถึงความท้าทายที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและระบบออโตเมชัน นี่รวมถึงการระบุช่องว่างทางทักษะและความไม่ตรงกันของทักษะที่คนมีกับทักษะที่จะเป็นที่ต้องการในอนาคต การวางแผนทางด้านกำลังพล โปรแกรมการเพิ่มพูนทักษะใหม่ และการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมด้วย

- เราจะทำงานร่วมกับรัฐบาลและสถาบันการศึกษาเพื่อเข้าถึงกลุ่มคนจำนวนมากขึ้น ยกตัวอย่าง เช่น PwC ประเทศลักเซมเบิร์ก ได้พัฒนาโปรแกรม "Luxembourg Skills Bridge" ซึ่งช่วยสหภาพการค้า สมาคม และธุรกิจสร้างอุตสาหกรรมทางด้านดิจิทัลและพัฒนาทักษะทางด้านดิจิทัล รวมทั้งประชาชนที่อยู่ในกลุ่มที่มีฐานะเสี่ยงมากที่สุด

- เราจะช่วยคนอีกหลายล้านคนปรับปรุงทักษะและความรู้สำหรับโลกดิจิทัลโดยเพิ่มพูนทักษะใหม่ ผ่านโครงการต่าง ๆ โดยไม่แสวงหาผลกำไร รวมถึงทำงานร่วมกับนักเรียนและอาจารย์เพื่อให้มั่นใจว่า ทุกคนได้รับโอกาสที่เท่าเทียมและทั่วถึง และไม่มีใครคนหนึ่งคนใดที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ทั้งนี้ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากรายงาน PwC's New world. New skills

มุ่งมั่นเพื่อคุณภาพสูงสุด

อย่างไรก็ดี คุณภาพงานของเราถือเป็นหัวใจสำคัญขององค์กร โดยเราได้ขยายการลงทุนอย่างมีนัยสำคัญและเพิ่มทรัพยากรที่จำเป็นต่อการเติบโตอย่างต่อเนื่องในทุก ๆ ธุรกิจ ทั้งนี้ การลงทุนในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ในหลาย ๆ ด้าน ทั้งการฝึกอบรม (ด้านเทคนิค จริยธรรม และพฤติกรรม) ระเบียบวิธีต่าง ๆ การเพิ่มทรัพยากรในจุดที่สำคัญ และแสวงหาวิธีการใหม่ ๆ ในการส่งมอบงานของเรา นอกจากนี้ เรายังลงทุนอย่างมากในเทคโนโลยีใหม่เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านคุณภาพ ความสามารถ และประสิทธิภาพของบริการทั้งหมด ด้วยเหตุนี้ เราจึงลงทุนมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในโซลูชั่นและสนับสนุนโปรแกรมด้านต่าง ๆ เพื่อสร้างระบบนิเวศที่เชื่อมต่อและขับเคลื่อนนวัตกรรมและคุณภาพสู่การเป็นหนึ่งในองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยคลาวด์มากที่สุดในโลก

"คุณภาพในงานของเราในทุก ๆ ด้าน มีความสำคัญอย่างยิ่ง แม้ว่าเราจะมีความภาคภูมิใจที่ได้เป็นเครือข่ายผู้ให้บริการมืออาชีพของโลกรายแรกที่เผยแพร่ผลการตรวจสอบคุณภาพการตรวจบัญชีภายใน เราตระหนักดีว่า ยังมีสิ่งที่ต้องทำอีกมากและต้องทำงานบนความคิดที่ต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่องทั้งในแง่ของวิธีการที่เราทดสอบ วัดผล ปรับปรุงคุณภาพ และในระดับของการลงทุนเพื่อให้มั่นใจได้ว่า คุณภาพของเรานั้นสูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เรายังได้เพิ่มรายละเอียดเพิ่มเติมอื่น ๆ ในรายงานประจำปีทั่วโลกในเรื่องของคุณภาพการตรวจสอบ และเรายังมุ่งมั่นที่จะเพิ่มความโปร่งใสในอนาคตด้วย" นายบ็อบ มอริตซ์ กล่าว

ทั้งนี้ ผลลัพธ์ของการทดสอบคุณภาพการตรวจบัญชีของเราปรับตัวดีขึ้นในปีงบการเงิน 2562 โดยเรารู้ว่า ยังมีภารกิจอีกมากที่ยังต้องทำและเราต้องลดระดับของงานตรวจสอบบัญชีที่ไม่ปฏิบัติตามอย่างถูกต้องให้มากขึ้นด้วย ทั้งนี้ ในปีงบการเงิน 2562 มีงานตรวจสอบบัญชีที่ผ่านการตรวจจากเราทั้งสิ้น 1,768 ปรากฏว่า 94.9% (เพิ่มขึ้นจาก 92.2% ในปี 2561) ของงานตรวจสอบบัญชีที่ผ่านการตรวจมีการปฏิบัติตามอย่างถูกต้อง

ด้านนายศิระ อินทรกำธรชัย ประธานกรรมการบริหาร และหุ้นส่วน บริษัท PwC ประเทศไทย กล่าวว่า "เหมือนเช่นทุกปีที่ PwC ประเทศไทย เป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้ผลการดำเนินงานของ PwC โกลบอลนั้นเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปีที่ผ่านมา ลูกค้ายังให้ความไว้วางใจในคุณภาพการให้บริการของ PwC ประเทศไทยอย่างดีเยี่ยมเหมือนเช่นเคย ส่งผลให้รายได้ของเราในประเทศไทยนั้นเติบโตอย่างโดดเด่น สำหรับในปีงบการเงินใหม่นั้น PwC ประเทศไทย พร้อมสานต่อนโยบายของ PwC โกลบอลในการเพิ่มพูนทักษะใหม่ โดยเฉพาะทักษะด้านดิจิทัล ผ่านโปรแกรมที่ชื่อว่า Digital Upskilling โดยเรามีเป้าหมายจะเพิ่มพูนทักษะใหม่ผ่านการฝึกอบรบ และพัฒนาคนของเราทั้งหมดภายใน 12 เดือนนับจากนี้"

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐:๕๙ ซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล ให้การต้อนรับอาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.ศรีปทุม
๒๐:๓๑ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่เพื่อติดตามความก้าวหน้าตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
๒๐:๕๒ Vertiv เปิดตัวดาต้าเซ็นเตอร์ไมโครโมดูลาร์รุ่นใหม่ที่มี AI ในเอเชีย
๒๐:๐๙ พิธีขึ้นเสาเอก เปิดไซต์ก่อสร้าง โครงการ แนชเชอแรล ภูเก็ต ไพรเวท พูลวิลล่า บ้านเดี่ยวบนทำเลทองใจกลางย่านเชิงทะเล
๒๐:๔๖ เขตบางพลัดประสาน รฟท.-กทพ. ปรับภูมิทัศน์ เพิ่มพื้นที่สีเขียวหน้าสถานีรถไฟบางบำหรุ
๒๐:๕๘ ร่วมแสดงความยินดีแก่อธิบดีกรมยุโรป ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิลด์
๒๐:๐๓ กทม. เดินหน้าจัดกิจกรรมริมคลองโอ่งอ่าง ส่งเสริมอัตลักษณ์ กระตุ้นเศรษฐกิจ-การท่องเที่ยว
๒๐:๔๙ พาราไดซ์ พาร์ค ร่วมกับ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก พาคุณไปสัมผัสการนวดเพื่อสุขภาพจาก 4 ภูมิภาคของไทย
๒๐:๒๔ Digital CEO รุ่นที่ 7 เรียนรู้เข้มข้นต่อเนื่อง จากวิทยากรชั้นนำของวงการ
๒๐:๒๔ เด็กไทย คว้ารางวัลระดับโลก โดรนไทย ชนะเลิศนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ทางด้านอากาศยานไร้คนขับ UAV ณ กรุงเจนีวา