ฟิทช์คงอันดับเครดิตตราสารสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ที่มีการค้ำประกันของ Minor International ที่ 'BBB+’

ศุกร์ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๐๑๙ ๑๑:๔๘
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับเครดิตระยะยาว (Long-term Rating) ของตราสารค้ำประกันประเภทกึ่งหนี้กึ่งทุนที่ไม่มีกำหนดอายุ มูลค่า 300 ล้านเหรียญสหรัฐ ของบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT ที่ 'BBB+'

ปัจจัยที่มีผลต่ออันดับเครดิต

อันดับเครดิตของผู้ค้ำประกัน – ตราสารดังกล่าวมีอันดับเครดิตเท่ากับอันดับเครดิตสากลระยะยาว (Long-Term Issuer Default Rating) ของผู้ค้ำประกัน คือ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL (ซึ่งมีอันดับเครดิตที่ 'BBB+' แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ) ผ่านสาขาที่ประเทศสิงคโปร์ เพื่อสะท้อนถึงการได้รับการค้ำประกันในลักษณะไม่มีเงื่อนไข และไม่สามารถยกเลิกได้จาก BBL โดยภาระจากการค้ำประกันมีสถานะเท่าเทียมกันกับภาระผูกพันที่ไม่มีประกันและไม่ด้อยสิทธิของ BBL

การค้ำประกันเต็มจำนวนจะมีผลจนกระทั่งมีการจ่ายภาระผูกพันค้างชำระทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับตราสารครบถ้วนถูกต้องเต็มจำนวน หรือจนถึงวันที่ผู้ออกตราสารสามารถเรียกคืนตราสารได้เป็นครั้งแรก (First Call Date) ในปี 2564 แล้วแต่เหตุการณ์ใดจะเกิดขึ้นก่อน ในกรณีที่ MINT ไม่เรียกคืนตราสารในวันที่สามารถเรียกคืนได้ในปี 2564 (Non-call Event) ผู้ค้ำประกันจำเป็นจะต้องซื้อคืนตราสารดังกล่าวทั้งหมด ในราคาที่ครอบคลุมทั้งเงินต้น, ดอกเบี้ยค้างจ่าย, ดอกเบี้ยตั้งพัก และดอกเบี้ยบนดอกเบี้ยตั้งพัก นอกเหนือจากการบังคับซื้อคืนในกรณี Non-call Event หาก MINT เข้าสู่ภาวะล้มละลายก่อนที่จะถึง First Call Date BBL มีภาระผูกพันที่จะต้องซื้อคืนตราสาร ในราคาที่คำนวณบนหลักการเดียวกันกับที่กล่าวมาข้างต้น

ฟิทช์มองว่า First Call Date น่าจะเป็นวันครบกำหนดไถ่ถอนที่น่าจะเป็น (Effective Maturity Date) ของตราสารนี้ จำนวนเงินที่ค้ำประกันทั้งหมดโดย BBL ถูกจำกัดไว้ไม่เกินกว่าร้อยละ 120 ของเงินต้นของตราสารที่ถูกจัดอันดับ ซึ่งน่าจะครอบคลุมเงินต้น ดอกเบี้ยค้างจ่าย, ดอกเบี้ยตั้งพัก และดอกเบี้ยบนดอกเบี้ยตั้งพัก ที่น่าจะเกิดขึ้นทั้งหมดของตราสารในช่วงเวลาที่มีการค้างชำระ

การกำหนดอันดับเครดิตโดยสรุป

อันดับเครดิตของตราสารค้ำประกันดังกล่าวสะท้อนถึงการได้รับการค้ำประกันในลักษณะไม่มีเงื่อนไข และไม่สามารถยกเลิกได้จาก BBL

ปัจจัยที่อาจมีผลกับอันดับเครดิตในอนาคต

การเปลี่ยนแปลงอันดับเครดิตของ BBL จะส่งผลเช่นเดียวกับอันดับเครดิตของตราสารค้ำประกันของ MINT เนื่องจากเป็นตราสารที่ถูกค้ำประกันเต็มจำนวนโดย BBL

สำหรับ BBL ปัจจัยที่อาจมีผลกับอันดับเครดิตในอนาคตที่ได้ประกาศไว้เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2562 ดังนี้

ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต – อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศ อันดับเครดิตภายในประเทศ และอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ

อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศ อันดับเครดิตภายในประเทศ และอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิของ BBL จะได้รับผลกระทบในทิศทางเดียวกันกับการเปลี่ยนแปลงของระดับความแข็งแกร่งทางการเงินของธนาคาร

อันดับเครดิตภายในประเทศของ BBL จะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางเดียวกันกับการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างเครดิตของ BBL เมื่อเทียบกับโครงสร้างเครดิตของธนาคารพาณิชย์อื่นในประเทศไทย เช่น อันดับเครดิตภายในประเทศของ BBL อาจได้รับการปรับเพิ่มอันดับหากอัตราส่วนที่สำคัญทางการเงินของธนาคารเช่นฐานะเงินกองทุน และสภาพคล่องของธนาคารปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับธนาคารอื่นในประเทศไทยโดยที่อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของธนาคารอาจไม่มีการเปลี่ยนแปลง

ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต – อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน

โอกาสที่อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ BBL จะได้รับการปรับเพิ่มอันดับถือว่าค่อนข้างจำกัด เนื่องจากอันดับเครดิตของธนาคารอยู่ในระดับเดียวกับอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของประเทศไทย (BBB+/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) และยังมีสัดส่วนเงินลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลในระดับสูง ในขณะที่การปรับลดอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของประเทศไทยน่าจะส่งผลให้อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ BBL ถูกปรับลดอันดับเช่นกัน

นอกจากนี้ การปรับตัวด้อยลงอย่างมากและต่อเนื่องของอัตรากำไรและคุณภาพสินทรัพย์ซึ่งต่ำกว่ามาตรฐานสำหรับช่วงอันดับเครดิต 'bbb' อาจส่งผลให้อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของธนาคารถูกปรับลดอันดับ แม้ว่าธนาคารจะมีจุดแข็งในด้านความสามารถในการรองรับความเสี่ยงในระดับสูง

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๔:๓๙ สมาคมธนาคารไทย ออกแนวทางช่วยเหลือเพิ่มเติม เพื่อลดภาระดอกเบี้ยให้กลุ่มเปราะบางทั้งลูกค้าบุคคลและSME
๑๔:๐๒ ผู้ลงทุนเชื่อมั่น โลตัส (Lotus's) จองซื้อหุ้นกู้เต็มจำนวน 9 พันล้านบาท
๑๔:๑๕ สมัครบัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ วีซ่า รูดช้อปรับคุ้ม! รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 5%
๑๔:๔๘ MASTER ประชุมผู้ถือหุ้นปี 67 ผ่านฉลุย ไฟเขียวจ่ายปันผล เดินหน้าสร้างโอกาสโตตามกลยุทธ์ MP
๑๔:๔๓ ธนาคารกรุงเทพ จับมือ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ลงนาม MOU ส่งเสริมการผลิตบุคลากร-พัฒนาศักยภาพ-ถ่ายทอดองค์ความรู้เทคโนโลยีดิจิทัล
๑๔:๒๐ ITEL จัดประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ผถห. เห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผลอัตรา 0.0696 บ./หุ้น
๑๔:๒๙ ไทยพาณิชย์ ตอกย้ำกลยุทธ์ Digital Bank with Human Touch เปิดตัว โปรจีน อาฒยา นักกอล์ฟหญิงระดับโลก เป็น Brand
๑๔:๓๐ KCG จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2567 พร้อมอนุมัติจ่ายปันผล 0.30 บาทต่อหุ้น
๑๔:๔๙ บาฟส์ ประกาศความสำเร็จ ลุยขยายโครงข่ายขนส่งน้ำมันทางท่อ เชื่อมต่อเครือข่ายพลังงานทั่วไทย
๑๔:๓๙ บีโอไอจับมือพันธมิตร จัดงาน SUBCON Thailand 2024