บลจ.กสิกรไทย แนะจัดพอร์ตกระจายลงทุนรับมือ COVID-19 มอง Downside Risk มีจำกัด คาดสถานการณ์คลี่คลายไตรมาส 3

จันทร์ ๒๗ เมษายน ๒๐๒๐ ๑๖:๑๘
บลจ.กสิกรไทย แนะผู้ลงทุนจัดพอร์ตรับมือสถานการณ์ COVID-19 ที่กำลังเข้าสู่การคลายล็อคดาวน์ เน้นกระจายลงทุนทั้งในสินทรัพย์เสี่ยงและสินทรัพย์ปลอดภัย โดยผู้ลงทุนสามารถลงทุนกองทุนตราสารหนี้ที่มีสภาพคล่อง ส่วนผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูงเป็นจังหวะที่ดีในการเริ่มกลับเข้าลงทุนกองทุนหุ้นอย่าง SSFX รวมถึงกองทุนต่างประเทศที่เน้นกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย มองตลาดยังคงผันผวน โดยมีปัจจัยลบน่าจะอยู่ในขอบเขตที่จำกัดมากขึ้น และคาดสถานการณ์จะคลี่คลายชัดเจนขึ้นในไตรมาสที่ 3 โดยเศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป
บลจ.กสิกรไทย แนะจัดพอร์ตกระจายลงทุนรับมือ COVID-19 มอง Downside Risk มีจำกัด คาดสถานการณ์คลี่คลายไตรมาส 3

นายวศิน วณิชย์วรนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่าแม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ส่งผลให้ตลาดเงินตลาดทุนดูซบเซาลงไปในช่วงที่ผ่านมา แต่ด้วยสถานการณ์ดังกล่าวมีทิศทางที่ดีขึ้นจากมาตรการของภาครัฐในการควบคุมการแพร่กระจายและการพยุงเศรษฐกิจ ซึ่งมีแนวโน้มการเปิดเศรษฐกิจและการฟื้นตัวจะเป็นอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยตลาดเงินตลาดทุนได้มีการฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในช่วงที่ผ่านมากว่า 20% โดยรวม ถึงแม้จะมีความผันผวนที่สูงและปัจจัยลบอยู่บ้างแต่คาดว่าจะเป็นไปอย่างจำกัดมากขึ้น ดังนั้น บลจ.กสิกรไทย จึงแนะนำให้ผู้ลงทุนมองเป้าหมายการลงทุนในระยะยาว โดยให้ผู้ลงทุนจัดพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมกับความเสี่ยงที่รับได้ เน้นกระจายลงทุนในกองทุนหลากหลายประเภทสินทรัพย์ ทั้งกลุ่มสินทรัพย์เสี่ยง และกลุ่มสินทรัพย์ปลอดภัย เพื่อให้สินทรัพย์แต่ละประเภททำหน้าที่สร้างผลตอบแทนในภาวะตลาดเช่นนี้

นายวศินกล่าวต่อไปว่า สำหรับกลุ่มสินทรัพย์ปลอดภัย ผู้ลงทุนสามารถพิจารณากองทุนตราสารหนี้ โดยบลจ.กสิกรไทย แนะนำกองทุนเปิดเค บริหารเงิน (K-CASH) ซึ่งจะเน้นเรื่องสภาพคล่องสูงและมีความผันผวนต่ำ หรือหากต้องการผลตอบแทนที่มากขึ้นแต่จะมีความผันผวนเพิ่มขึ้นมาอีกเล็กน้อย แนะนำกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ พลัส (K-FIXEDPLUS) ส่วนผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้มาก และต้องการจับจังหวะในช่วงที่ราคาหุ้นปรับตัวลง ก็สามารถเพิ่มสัดส่วนในกองทุนหุ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกองทุนรวมเพื่อการออมแบบพิเศษ (SSFX) อย่างกองทุนเปิดเคซูเปอร์สตาร์ เพื่อการออมพิเศษ (K-SUPSTAR-SSFX) ซึ่งนอกจากจะได้ลงทุนในหุ้นของบริษัทชั้นนำที่มีความมั่นคงสูงเพื่อโอกาสทำกำไรในระยะยาวแล้ว ผู้ลงทุนยังจะได้รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีเพิ่มขึ้นอีก 2 แสนบาท โดยลงทุนได้ถึงวันที่ 30 มิ.ย.นี้เท่านั้น สำหรับกองทุนต่างประเทศ แนะนำกองทุนเปิดเค โกลบอล อินคัม (K-GINCOME) ที่เน้นกระจายการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ทั่วโลก และปรับสัดส่วนให้สอดรับกับภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป และกองทุนเปิดเค ไชน่า คอนโทรล โวลาติลิตี้ (K-CCTV) ที่เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนในประเทศจีนซึ่งได้รับประโยชน์จากเศรษฐกิจใหม่ (New Economy) และมีการปรับสัดส่วนการลงทุนอยู่ตลอดเวลาเพื่อลดความผันผวนของกองทุน ทั้งนี้ ถึงแม้ว่าในระยะสั้นตลาดยังมีความผันผวนอยู่สูง โดยเฉพาะสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้น แต่คาดว่าปัจจัยลบในช่วงที่ผ่านมาจะมีผลอย่างจำกัดมากขึ้น

“บลจ.กสิกรไทย ประเมินว่าภาวะถดถอยของเศรษฐกิจโลกในขณะนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ว่าจะคลี่คลายได้เร็วเพียงใด ซึ่งคาดการณ์ไว้ไม่เกินไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ โดยหากควบคุมได้ภายในไตรมาสที่ 2 มองว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวกลับมาได้ภายในครึ่งปีหลัง ถึงแม้มีลักษณะเป็น U-Shape Recovery ที่ฟื้นตัวกลับมาอย่างช้าๆ เนื่องจากภาครัฐและธนาคารกลางทั่วโลกต่างเร่งดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเพื่อเสริมสภาพคล่องรวมถึงการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายการคลัง อย่างไรก็ตาม ผู้ลงทุนยังคงต้องติดตามปัจจัยที่มีผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ได้แก่ ยอดตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัส ระยะเวลาและความเข้มงวดของมาตรการ Lockdown จากภาครัฐ รวมถึงประสิทธิภาพจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งจากภาครัฐและธนาคารกลาง” นายวศินกล่าว

นายวศินกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจของไทยยังคงได้รับแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว อัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำ รวมถึงผลกระทบของสถานการณ์ COVID-19 เป็นปัจจัยให้ธนาคารแห่งประเทศไทยลดดอกเบี้ยนโยบายลงสู่ระดับต่ำสุด และคาดว่ามีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% เพื่อเสริมสภาพคล่องและสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดตราสารหนี้ ด้านตลาดหุ้นไทยภายหลังจากที่ตลาดได้มีการปรับตัวขึ้นมากว่า 20% จากจุดต่ำสุด ในขณะที่มีการปรับคาดการณ์ผลกำไรบริษัทจดทะเบียนลดลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ลงทุนยังคงต้องระมัดระวังกับความผันผวนในระยะสั้น โดยบลจ.กสิกรไทย มองว่าหากตลาดมีการปรับตัวลง ถือเป็นโอกาสในการเข้าลงทุนเพื่อผลตอบแทนในระยะยาว ทั้งนี้ คาดดัชนีปลายปีแตะ 1,350 จุด บนสมมติฐานว่าสถานการณ์ COVID-19 สามารถควบคุมได้ภายในไตรมาสที่ 2 สะท้อน Forward P/E ปี 2564 ที่ 15 เท่า โดยคาดการณ์การเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียนในปี 2563 จะติดลบจากปีก่อนหน้าประมาณ 20% และจะสามารถกลับมาเติบโตได้เป็นปกติในปี 2564

สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจกองทุนของบลจ.กสิกรไทย สามารถเริ่มต้นลงทุนได้เพียง 500 บาท ผ่านแอป K PLUS, K-My Funds, ธนาคารกสิกรไทย และผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุน โดยติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนได้ตามช่องทางดังกล่าว และสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ KAsset Contact Center 0 2673 3888

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๑:๓๘ โอซีซี มอบฝาขวดน้ำ เพื่อทำเก้าอี้ให้น้อง ๆ ในโรงเรียนขาดแคลน
๑๑:๑๘ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จับมือมหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดศูนย์ทดสอบหลักสูตร CISA ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
๑๑:๓๕ 'ราชบุรี มีลาย' อนุรักษ์มรดกแห่งภูมิปัญญาท้องถิ่น ชูอัตลักษณ์ 'ลายผ้าราชาบุรี (กาบโอ่งนกคู่) รองผู้ว่าฯ เมืองโอ่ง
๑๑:๕๓ พีทีที สเตชั่น ร่วมกับ ทิพยประกันภัย มอบความสะดวกและรวดเร็ว ซื้อประกันภัยผ่าน QR Code
๑๑:๐๙ FTI จัดงานประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2567 ผถห.อนุมัติจ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น
๑๐:๑๙ รมว.อว. เป็นประธานเปิดบูธนิทรรศการผลงาน @ Thai Pavilion พร้อมให้กำลังใจนักประดิษฐ์ไทย นำเสนอผลงานสิ่งประดิษฐ์นานาชาติเจนีวา ครั้งที่
๑๐:๔๖ BRIDGESTONE TURANZA T005 EV ยางพรีเมียมสมรรถนะสูงสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า เหนือระดับด้วยเทคโนโลยี ENLITEN(R)ได้รับเลือกเป็นยางล้อมาตรฐานติดตั้งในรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ MG4 XPOWER
๐๙:๑๔ อพท. เปิดรับสมัคร สุดยอดนวัตกรรมเพื่อการท่องเที่ยวยั่งยืน เพื่อพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ชิงเงินรางวัลกว่า 130,000
๐๙:๔๑ หนังสือ Royal Thai Cuisine ตำรับอาหารไทยชาววัง วิทยาลัยดุสิตธานี
๑๘ เม.ย. เด็ก ม.กรุงเทพ ยกทีม คว้าชนะเลิศครีเอทคลิปสั้นได้ใจฟูมาก